ชงรถไฟแม่สอด-นครพนม เชื่อมตะวันออก-ตะวันตกบูมเขตเศรษฐกิจพิเศษ
Loading

ชงรถไฟแม่สอด-นครพนม เชื่อมตะวันออก-ตะวันตกบูมเขตเศรษฐกิจพิเศษ

วันที่ : 1 กรกฎาคม 2561
ชงรถไฟแม่สอด-นครพนม เชื่อมตะวันออก-ตะวันตกบูมเขตเศรษฐกิจพิเศษ

3 องค์กรภาคเอกชนจังหวัดตาก เดินหน้าผลักดันทางรถไฟสายใหม่ เชื่อมตะวันตก-ตะวันออก จากแม่สอดถึงนครพนม พร้อมเสนอขอให้นำพ.ร.บ.อีอีซี มาใช้ในการบริหารจัดการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก และผลักดันให้เทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ

นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ประธานอาวุโสสภาอุตสาห กรรมจังหวัดตาก ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เปิดเผยว่า 3 องค์กรภาคเอกชนหลักจังหวัดตาก ในนามของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.ตาก) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก หอการค้าจังหวัดตากและ ชมรมธนาคาร จังหวัดตาก ได้จัดประชุม กกร.ตาก ที่ห้องประชุมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่ง 3 องค์กรภาคเอกชนหลักจังหวัดตาก ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์และปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตาก และกลุ่มจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อเสนอให้กับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ และร่วมมือกับภาครัฐ และภาคเอกชน ในการพัฒนาเศรษฐกิจส่งเสริมสนับสนุนสถาบันทางเศรษฐกิจภาคต่างๆ ให้มีบทบาทในการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การบริการ และการจ้างแรงงานภายในจังหวัดตาก โดยการประชุมครั้งนี้ มีผู้นำภาคเอกชน กกร. และเครือข่ายสมาชิกเข้าร่วมประชุมครบทุกองค์กร ประกอบด้วย นายปรีดา แก้วเกตุ ประธานชมรมธนาคารจังหวัดตาก นายชวพันธ์ ชวเจริญพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก และนายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก พร้อมด้วยคณะกรรมการร่วมทั้ง 3 สถาบัน เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

ที่ประชุมได้สรุปประเด็นปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอต่างๆ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตาก (กรอ.จังหวัดตาก) เพื่อพิจารณา ดังนี้ 1.ปัญหากระแสไฟฟ้าตกและดับบ่อยในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งภาคครัวเรือน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน 2.ปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการ น้ำประปาหยุดไหลบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนในพื้นที่ 3.การผลักดันการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ เชื่อมตะวันตก-ตะวันออก จากแม่สอดนครพนม โดยผลักดันให้เริ่มต้นการดำเนินการแผนการพัฒนาจากอำเภอแม่สอด เพื่อเชื่อมต่อไปยังประเทศเมียนมาได้ด้วย 4. การเสนอขอให้นำพระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มาปรับใช้ในการบริหารจัดการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เพื่อให้มีความก้าวหน้าและเกิดความชัดเจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น และ 5.การผลักดันให้เทศบาลนครแม่สอด เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เช่นเดียวกับเมืองพัทยา เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการบริการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันในการนำข้อเสนอปัญหาอุปสรรคต่างๆ ผลักดันผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเจริญก้าวหน้าของจังหวัดตาก ทำให้มีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน 3 องค์กรภาคเอกชนหลักจังหวัดตาก 3 สถาบัน (กกร.ตาก) สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก หอการค้าจังหวัดตากและชมรมธนาคารจังหวัดตาก เป็นองค์กรภาคเอกชนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดตาก ซึ่งที่ผ่านมาได้มี การผลักดันและนำเสนอผ่านภาครัฐ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัดตาก (กรอ.) ซึ่งได้ผลดีอย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกับภาคราชการ

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้เห็นชอบข้อเสนอของภาคเอกชนที่เสนอระหว่างการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ในการทำเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ระยะทางรวม 902 กิโลเมตร (กม.) เพื่อเชื่อมรถไฟฝั่งตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีนครสวรรค์เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ ซึ่งเส้นทางจะเริ่มจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ผ่านมา จ.กำแพงเพชร จ.นครสวรรค์ ระยะทาง 250 กม.จากนั้นจะตัดข้ามจาก จ.นครสวรรค์ไป อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ระยะทาง 291 กม. และต่อไปยัง จ.นครพนม อีก 355 กม. โดยให้จัดสรรงบประมาณในปี 2562 ผลักดัน ให้เทศบาลนครแม่สอด เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เช่นเดียวกับเมืองพัทยา

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ