เทรนด์ที่อยู่อาศัยปี 65 บ้านและคอนโดแบบไหนน่าจับตามอง

วันที่ : 9 ธันวาคม 2564

โลกของเราในแต่ละปีมักจะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ และสิ่งใหม่ ๆ ตลอดจนมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ จึงย่อมจะส่งผลต่อความคิด ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้คน และในวงการอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน ที่ทุก ๆ ปี จะมีเทรนด์ความต้องการรูปแบบที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ เกิดขึ้น ซึ่งการคาดการณ์หรือการติดตามแน้วโน้มสำคัญของเทรนด์เหล่านี้ จะช่วยให้สามารถวางแผนการซื้อหรือลงทุนอสังหาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสำหรับเทรนด์ที่อาศัยในปี 2565 นั้น บ้านและคอนโดจะมีเทรนด์ความต้องการใหม่ ๆ ดังต่อไปนี้

ผู้คนต้องการพื้นที่สีเขียวมากขึ้น

การเติบโตของเมืองและโครงการต่าง ๆ มีผลต่อการทำให้พื้นที่สีเขียวลดน้อยลง แม้ผู้คนจะต้องการความสะดวกสบายและความทันสมัยของเมือง แต่ก็ยังคงมีความต้องการพื้นที่สีเขียวเช่นกัน การได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่คนเมืองโหยหาอย่างมาก ยิ่งในหลายปีที่ผ่านมาต้องเผชิญหน้ากับความตึงเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงยิ่งทำให้ความต้องการพื้นที่สีเขียวนั้นมีมากขึ้น
สะอาด ปลอดเชื้อ เอื้อต่อสุขภาพอนามัยที่ดี

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ผู้คนปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal กลับไปอยู่บ้านมากขึ้น ใส่ใจในเรื่องของความสะอาดมากขึ้น ดังนั้น บ้านและคอนโดในปี 2565 เป็นต้นไป จะต้องสามารถตอบสนองความรู้สึกปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบพื้นที่ให้มีความโล่ง โปร่ง สบาย มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในห้อง และพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างลงตัว มีระยะห่างเพียงพอทำให้รู้สึกอุ่นใจ ตลอดจนมีมาตรการในการตรวจสอบคัดกรองผู้ติดเชื้อ และการป้องกันการแพร่ระบาดที่ได้มาตรฐาน
สวยงาม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตแบบ New Normal

นอกจากความปลอดภัยที่ผู้อยู่อาศัยคาดหวังจากโครงการบ้านและคอนโดแล้ว ความสวยงามของรูปแบบบ้านและคอนโดก็ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยจำเป็นต้องมีการออกแบบให้สมดุลกับการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ หรือ New Normal ที่ผู้คนต้องกลับมาใช้เวลาอยู่ในบ้าน ในคอนโดกันมากขึ้น ต้องทำงานแบบ Work From Home มากขึ้น ดังนั้น สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่ทำงาน พื้นที่ในการออกกำลังกาย หรือพื้นที่ในการพักผ่อนหย่อนใจ จะถือเป็นความคาดหวังอันดับต้น ๆ ของผู้คนในยุคถัดจากนี้ โดยที่ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่กับพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น แต่คาดหวังไปถึงการออกแบบบ้าน หรือห้องคอนโด ให้มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในบ้าน ในห้องได้มากขึ้นด้วย เพราะวิถีชีวิตของผู้คนจะเปลี่ยนไปไม่ได้ใช้บ้านเป็นแค่ที่พักนอนตอนกลางคืนอีกแล้ว แต่จะอยู่กับบ้าน ใช้ชีวิตทำกิจกรรมทุกอย่างภายในบ้าน ในคอนโดเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
ออกแบบให้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม

อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงและค่อย ๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้คนก็คือ IOT หรือ Internet Of Things ที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และสั่งการได้ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น มีความรวดเร็วตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ดังนั้น บ้านและคอนโดในปี 2565 จะได้รับการดีไซน์มาให้เข้ากับยุคสมัย มีการติดตั้งระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย เช่น ระบบการควบคุมไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านมือถือ การเข้าประตูห้องด้วยการใช้รหัสอัตโนมัติ ตลอดจนบริการขอความช่วยเหลือต่าง ๆ กับผู้ดูแลโครงการ ที่จะเปลี่ยนมาเป็นให้ลูกบ้านสามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นได้เองง่าย ๆ แจ้งปัญหาต่าง ๆ พร้อมกับได้รับการให้บริการอย่างรวดเร็ว และลดขั้นตอนความยุ่งยากออกไป เป็นต้น

โดยภาพรวมของเทรนด์ที่อยู่อาศัยบ้านและคอนโดในปี 2565 นั้น จะเน้นไปที่ 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ เรื่องของ สุขภาพอนามัย การดีไซน์รูปแบบที่อยู่อาศัยให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบ New Normal และ การนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับการอยู่อาศัย ทำให้เกิดเป็น Smart Living นอกจากนั้นในส่วนของทำเล ก็ยังคงเป็นไปตามความต้องการทำเลที่สะดวกสบายที่สุด สามารถเดินทางได้สะดวก โดยทำเลติดแนวรถไฟฟ้าอาจไม่ได้สำคัญมากนักอีกแล้ว เพราะผู้คนทำงานแบบ Work From Home กันมากขึ้น และคนส่วนใหญ่อาจหันไปใช้รถยนต์ส่วนตัวกันเป็นหลัก เพราะหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางโดยเจอผู้คนพลุกพล่าน แต่อย่างไรก็ตาม เทรนด์ดังกล่าวก็ยังคงเป็นเพียงแนวโน้ม ที่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนในอสังหาฯ นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก กล่าวคือ ชอบแบบไหน ก็เลือกแบบนั้น เพื่อคุณภาพการอยู่อาศัยที่ของแต่ละบุคคล

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Bangkokbiznews

Posttoday