7 ความลับ กู้ธนาคารให้ผ่าน
วันที่ : 27 กันยายน 2561
Application Score
คือ การให้คะแนนจากใบสมัครขอสินเชื่อ รายละเอียดที่กรอกจะเป็นข้อมูลส่วนตัว อายุ เพศ อาชีพ ที่มาของรายได้ ทรัพย์สมบัติที่มี ฯลฯ แล้วใช้ Score Engine เป็นผู้ประเมิน การ กรอกใบสมัครขอสินเชื่อในบางประเด็นที่ทำให้คะแนนออกมาสูงคือ ก.ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันถ้าเป็นบ้านของตนเองจะดีกว่าเช่าอยู่หรืออยู่กับพ่อแม่ ข. อายุงานยิ่งนานจะดีกว่าเพิ่งเริ่มงาน
Income Recognition
คือ การพิจารณาที่มาของรายได้ สถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ กับผู้สมัครที่มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำง่ายกว่าพวกที่เป็น ก.ผู้มีรายได้ไม่สม่ำเสมอหรือมาเป็นช่วง ข.เป็นเจ้าของกิจการเอง ค.ผู้ที่ไม่เคยเสียภาษีรายได้ ง.ผู้ที่รายได้รับเป็นเงินสดแล้วไม่เคยเดินบัญชีกับสถาบันการเงิน
Credit Score
คือ การตรวจสอบการชำระเงินเมื่อใช้บัตรเครดิต หรือการใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้ามีข้อแนะนำเพื่อให้ได้คะแนนออกมาดีดังนี้ ก.อย่าใช้จ่ายเกิน 70% ของวงเงินเครดิตการ์ดในแต่ละบัตร ถ้าจะเกินก็เปลี่ยนใช้บัตรของแบงก์อื่น ข.คนที่เคยมีประวัติเคยใช้สินเชื่อจะได้คะแนนดีกว่าคนที่ขอสินเชื่อเป็นครั้งแรก ค.คนที่มีประวัติหนี้เสียกับสินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันจะไม่สามารถกู้จากสถาบันการเงินไหนได้ ง. คนที่ประวัติชำระค่างวดไม่ตรงเวลา คะแนนจะไม่ดี และในกรณีที่ชำระตรงเวลาเหมือนกันคนที่ผ่อนชำระบัตรเครดิตงวดละ 5-10% จะมีคะแนนสูงกว่าคนที่ชำระทั้งก้อน 100%
Credit Issue
คือ ผู้ที่ส่งค่างวดไม่ตรงเวลาหรือเกินกำหนด ผู้ที่ขาดส่งค่างวด หรือผู้ที่ใช้บัตรเครดิตเกินวงเงิน คนเหล่านี้จะขอสินเชื่อได้ยาก
Bad Status in CCRIS
หรือ ผู้ที่ติด Credit Bureau คือ คนที่มีประวัติหนี้เสียร้ายแรงในหัวข้อที่ทางสถาบันการเงินไม่ยอมให้สินเชื่อเด็ดขาด ท่านจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้
Bounced cheque
คือ ผู้ที่มีประวัติปล่อยให้เช็คเด้งถึง 2 ครั้ง โดยทางสถาบันการเงินจะเช็กประวัติย้อนหลัง 12 เดือน จะขอสินเชื่อได้ยากหรือไม่ได้เลย
DSR (Debt Service Ratio)
คือ สัดส่วนระหว่างภาระที่ต้องส่งทั้งหมด (ภาระเดิมที่มีอยู่+ภาระที่ต้องส่งใหม่) ต่อรายได้สุทธิ (หลังหักภาษี) โดยปกติแต่ละแบงก์จะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ผู้สมัครจะขอ สินเชื่อได้ง่ายกว่าในแบงก์ที่มีค่า DSR สูง และยังขึ้นกับคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อด้วย เช่น ผู้สมัครที่มีเงินเดือนประจำก็จะมีค่า DSR ที่สูงกว่า คนที่มีรายได้ ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเรารู้แล้วว่าเกณฑ์ที่สถาบันการเงินใช้เป็นหลักในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ผู้อ่านที่ต้องการขอ สินเชื่อในอนาคตลองเอาแนวทางที่แนะนำเหล่านี้ไปลองปรับใช้กับตัวเองดูครับ
คือ การให้คะแนนจากใบสมัครขอสินเชื่อ รายละเอียดที่กรอกจะเป็นข้อมูลส่วนตัว อายุ เพศ อาชีพ ที่มาของรายได้ ทรัพย์สมบัติที่มี ฯลฯ แล้วใช้ Score Engine เป็นผู้ประเมิน การ กรอกใบสมัครขอสินเชื่อในบางประเด็นที่ทำให้คะแนนออกมาสูงคือ ก.ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันถ้าเป็นบ้านของตนเองจะดีกว่าเช่าอยู่หรืออยู่กับพ่อแม่ ข. อายุงานยิ่งนานจะดีกว่าเพิ่งเริ่มงาน
Income Recognition
คือ การพิจารณาที่มาของรายได้ สถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ กับผู้สมัครที่มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำง่ายกว่าพวกที่เป็น ก.ผู้มีรายได้ไม่สม่ำเสมอหรือมาเป็นช่วง ข.เป็นเจ้าของกิจการเอง ค.ผู้ที่ไม่เคยเสียภาษีรายได้ ง.ผู้ที่รายได้รับเป็นเงินสดแล้วไม่เคยเดินบัญชีกับสถาบันการเงิน
Credit Score
คือ การตรวจสอบการชำระเงินเมื่อใช้บัตรเครดิต หรือการใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้ามีข้อแนะนำเพื่อให้ได้คะแนนออกมาดีดังนี้ ก.อย่าใช้จ่ายเกิน 70% ของวงเงินเครดิตการ์ดในแต่ละบัตร ถ้าจะเกินก็เปลี่ยนใช้บัตรของแบงก์อื่น ข.คนที่เคยมีประวัติเคยใช้สินเชื่อจะได้คะแนนดีกว่าคนที่ขอสินเชื่อเป็นครั้งแรก ค.คนที่มีประวัติหนี้เสียกับสินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันจะไม่สามารถกู้จากสถาบันการเงินไหนได้ ง. คนที่ประวัติชำระค่างวดไม่ตรงเวลา คะแนนจะไม่ดี และในกรณีที่ชำระตรงเวลาเหมือนกันคนที่ผ่อนชำระบัตรเครดิตงวดละ 5-10% จะมีคะแนนสูงกว่าคนที่ชำระทั้งก้อน 100%
Credit Issue
คือ ผู้ที่ส่งค่างวดไม่ตรงเวลาหรือเกินกำหนด ผู้ที่ขาดส่งค่างวด หรือผู้ที่ใช้บัตรเครดิตเกินวงเงิน คนเหล่านี้จะขอสินเชื่อได้ยาก
Bad Status in CCRIS
หรือ ผู้ที่ติด Credit Bureau คือ คนที่มีประวัติหนี้เสียร้ายแรงในหัวข้อที่ทางสถาบันการเงินไม่ยอมให้สินเชื่อเด็ดขาด ท่านจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้
Bounced cheque
คือ ผู้ที่มีประวัติปล่อยให้เช็คเด้งถึง 2 ครั้ง โดยทางสถาบันการเงินจะเช็กประวัติย้อนหลัง 12 เดือน จะขอสินเชื่อได้ยากหรือไม่ได้เลย
DSR (Debt Service Ratio)
คือ สัดส่วนระหว่างภาระที่ต้องส่งทั้งหมด (ภาระเดิมที่มีอยู่+ภาระที่ต้องส่งใหม่) ต่อรายได้สุทธิ (หลังหักภาษี) โดยปกติแต่ละแบงก์จะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ผู้สมัครจะขอ สินเชื่อได้ง่ายกว่าในแบงก์ที่มีค่า DSR สูง และยังขึ้นกับคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อด้วย เช่น ผู้สมัครที่มีเงินเดือนประจำก็จะมีค่า DSR ที่สูงกว่า คนที่มีรายได้ ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเรารู้แล้วว่าเกณฑ์ที่สถาบันการเงินใช้เป็นหลักในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ผู้อ่านที่ต้องการขอ สินเชื่อในอนาคตลองเอาแนวทางที่แนะนำเหล่านี้ไปลองปรับใช้กับตัวเองดูครับ