สินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้าง สัญญาณเตือนภัยตลาดที่อยู่อาศัยจริงหรือ

วันที่ : 10 กรกฎาคม 2566

สินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้าง คือ ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่ยังคงค้าง ณ สิ้นไตรมาส ถือเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนอสังหาฯ และผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทราบแนวโน้มของปริมาณหนี้สินในภาคประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยหากตัวเลขสินเชื่อที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลทั่วไปคงค้างมีปริมาณสูง อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของตลาดที่อยู่อาศัยได้ เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้

กำลังซื้อของประชาชนกำลังลดต่ำลง

การที่ประชาชนมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้างอยู่นั้น หมายความว่าประชาชนยังคงมีหนี้ที่อยู่อาศัยที่ยังต้องผ่อนชำระ จึงทำให้อาจไม่สามารถซื้อเพิ่ม หรือซื้อเพื่อการลงทุนได้อีกแล้ว ในขณะเดียวกันกำลังในการจับจ่ายใช้สอยเรื่องอื่น ๆ ก็อาจลดต่ำลงด้วย เนื่องจากต้องเก็บเอาไว้ใช้หนี้ที่อยู่อาศัย ดังนั้น เมื่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในตลาดหายไป ภาคธุรกิจอสังหาฯ ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย กล่าวคือ ยอดขาย ยอดการเปิดตัวโครงการใหม่ของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ จะชะลอตัวลงนั่นเอง
สภาพเศรษฐกิจกำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่

การที่ประชาชนไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ ทำให้มีหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้างนั้น เหตุผลหลัก ๆ มาจากการที่รายได้ไม่พอรายจ่าย หรือรายจ่ายสูงขึ้นจนไม่สามารถบริหารจัดการเงินในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้นั้น อาจมาได้จากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ ค่าเงินเฟ้อสูงขึ้น น้ำมันแพง ข้าวของเครื่องใช้แพง ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวสูงขึ้น ในขณะที่ภาคธุรกิจอาจซบเซา อาจมีการปลดพนักงานจำนวนมาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน ซึ่งเมื่อประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ก็จะไม่เกิดการจับจ่ายใช้สอยที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต จนสุดท้ายก็นำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจ และประชาชนไม่มีรายได้มากพอที่จะชำระหนี้ที่อยู่อาศัย ตลอดจนหนี้สินอื่น ๆ นั่นเอง
สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ จะอยู่ในความเสี่ยง

เมื่อประชาชนมีหนี้มาก ตลาดอสังหาฯ จะขายออกไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก็จะต้องลดราคา อัดฉีดโปรโมชั่นเพื่อระบายสต็อกคงค้างออกให้มีกระแสเงินสดกลับเข้าสู่ธุรกิจ จึงทำให้สถานการณ์ราคาที่อยู่อาศัยลดต่ำลง ในขณะเดียวกันโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ก็จะไม่ถูกดันออกสู่ตลาด เนื่องจากผู้ประกอบการประเมินว่าประชาชนไม่มีกำลังซื้อ เมื่อทุกภาคส่วนในตลาดรับรู้สัญญาณเหล่านี้อันเป็นผลมาจากยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั่วไปคงค้างสูง ก็จะทำให้ตลาดอสังหาฯ เข้าสู่ภาวะชะลอตัว หรืออาจจนถึงขั้นวิกฤตได้หากไม่สามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว

โดยสรุปแล้วสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้าง ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมากต่อการปรับกลยุทธ์ในการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ เพราะยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้าง คือตัวสะท้อนกำลังซื้อของประชาชนและสภาพเศรษฐกิจ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งหากกำลังซื้อของผู้คนไม่มีบวกกับสภาพเศรษฐกิจไม่ดีแล้วล่ะก็ โอกาสในการลงทุนและดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นก็จะลดต่ำลง หรือถึงแม้จะมีโอกาส ก็จะต้องมีแผนในการดำเนินการรัดกุมรอบคอบให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์