พื้นที่ EEC ยังน่าลงทุนอสังหาฯ อยู่หรือไม่

วันที่ : 26 ธันวาคม 2565

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าอยู่ในช่วงเวลาที่น่าหวั่นใจและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยและโลกเต็มไปด้วยวิกฤต ทั้งภาวะสงคราม เงินเฟ้อ และโรคระบาด จึงทำให้หลาย ๆ คนเริ่มขาดความเชื่อมั่น ไม่เว้นแม้แต่ในเขตพื้นโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ในไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ผ่านมาอุปทานด้านการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในจังหวัด EEC นั้นก็หดตัวลงค่อนข้างมากถึง -24.8% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถานการณ์โดยภาพรวมจะยังดูคลุมเครือ แต่เขตพื้นที่ EEC ก็ยังคงเป็นพื้นที่แห่งโอกาสในการลงทุนอยู่เสมอ ซึ่งควรค่าแก่การเกาะติดสถานการณ์ข่าวสารต่าง ๆ ให้ดี ด้วยเหตุผลหลัก ๆ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจชั้นนำที่รัฐบาลคาดหวัง

พื้นที่ EEC นั้น เป็นเขตพื้นที่ที่ทางรัฐบาลไทยคาดหวังปลุกปั้นให้เป็น “เขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน” ซึ่งในระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนไปแล้วกว่า 700 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 300,000 ล้านบาท รวมถึงยังได้มีการจัดกิจกรรมชักชวนนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาร่วมลงทุนโครงการในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งด้วยความมุ่งมั่นที่ยังคงดำเนินการผลักดันโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ EEC อยู่นี้เอง จึงทำให้หากทุกโครงการมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น คืบหน้ามากขึ้น พื้นที่ EEC ก็จะกลายเป็นเขตพื้นที่เศรษฐกิจที่มีความเติบโตและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย
พื้นที่โดยรอบ EEC ก็ได้รับการพัฒนาด้วยอย่างต่อเนื่อง

ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะเขตพื้นที่ EEC เท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจขั้นนำ แต่พื้นที่โดยรอบก็ได้รับการวางแผนที่จะพัฒนาให้เชื่อมต่อกับเขตพื้นที่ EEC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้มีการวางแผนและเริ่มต้นดำเนินการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่จะพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อันได้แก่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ตลอดจนยังได้มีการตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบโครงการรถไฟฟ้า พัฒนาที่ดินโดยรอบ EEC ให้กลายเป็น Gateway หรือ ประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการเดินทางอีกด้วย ซึ่งหากแนวคิดดังกล่าวได้รับการทำออกมาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อการเติบโตของเขตพื้นที่ EEC และพื้นที่โดยรอบอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าหากวางแผนการลงทุนไว้ตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตเมื่อภาพทุกอย่างเติบโตเป็นไปตามที่คาดหวังก็ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
เมื่อวิกฤตคลี่คลายโอกาสมากมายก็จะเกิดขึ้น

หากมองกันในภาพใหญ่แล้วสภาพตลาดอสังหาฯ ที่ชะลอตัวลงนั้นไม่ได้เป็นแค่ที่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั่วทั้งโลก ด้วยผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และโลกระบาด แต่ประเทศไทยก็ยังถือว่าประคับประคองตัวมาได้อย่างดี ด้วยปกติแต่เดิมภาคตะวันออกของไทยก็เป็นเขตพื้นที่ที่มีความแข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยว และการลงทุนอยู่แล้ว ดังนั้น หากวิกฤตทุกอย่างคลี่คลายลง และวนกลับมาอยู่ในวัฏจักรที่เป็นขาขึ้น แม้ความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ภายในพื้นที่ EEC และพื้นที่โดยรอบจะยังไม่เสร็จเรียบร้อย การเติบโตก้าวหน้าของภาคตะวันออกที่เป็นทั้งแหล่งงาน แหล่งท่องเที่ยวของไทยก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปอยู่ดี ดังนั้น หากจะตัดสินว่า EEC หรือภาคตะวันออกของไทยเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าลงทุนอีกแล้วนั้น ก็ถือเป็นการด่วนสรุปที่เร็วเกินไปและอิงกับข้อมูลหรือสถานการณ์วิกฤตเพียงชั่วคราวที่เกิดขึ้นเท่านั้น

การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นในเขตพื้นที่ EEC หรือทำเลพื้นที่ใดก็ตาม ต้องอาศัยการมองภาพรวมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่สามารถที่จะตัดสินว่าดีหรือไม่ดีได้เพียงแค่ใช้ข้อมูลใดข้อมูลหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์นั้น มีปัจจัยแวดล้อมที่เป็นตัวกำหนดหลายอย่าง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ด้วยเหตุนี้เอง หากต้องการจะประสบความสำเร็จในการลงทุนอสังหาฯ ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบ้าน คอนโด ที่ดิน ในพื้นที่ทำเล EEC หรือ ทำเลใดก็ตาม การติดตามข่าวสาร และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างใกล้ชิด เกาะติดสถานการณ์ และรู้จักที่จะรอจังหวะที่เหมาะสมนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญที่นักลงทุนทุกคนจะต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

Setinvestnow.com

MMThailand.com