นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มยอดโอนโครงการแนวราบในไตรมาส 4/2568 น่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เพราะมียอดขายที่รอรับรู้ค่อนข้างมาก รวมทั้งบริษัทมีแนวทางเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง

   เปิดโครงการใหม่โกยเงิน

    โดยในไตรมาส 4/2568 ทาง SIRI มีแผนเปิดโครงการแนวราบ จำนวน 3 โครงการ กระจายในทำเลต่างๆ อาทิ ภูเก็ต คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมราว 7.7 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรายรับเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีที่อยู่อาศัยแนวราบพร้อมโอน (สต๊อก) อีกราว 4 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับความต้องการช่วงที่เหลือปีนี้ด้วย

    อย่างไรก็ดี จากการที่ทาง "แสนสิริ" มองเห็นดีมานด์ความต้องการที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในโซนกรุงเทพเหนือ และการเติบโตของศักยภาพทำเล โดยเฉพาะโซนจตุโชติ รามอินทราและวัชรพล ด้วยการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่ครบครันต่อเนื่อง ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในโซน ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง เชื่อมต่อเข้าเมืองและออกนอกเมืองได้ง่าย ในราคาที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้

    โดยพร้อมสานความสำเร็จต่อโมเดล Sansiri Community ซึ่งเป็นจุดแข็งของแสนสิริ มาสู่โซนกรุงเทพเหนือ กับการปักหมุดแลนด์มาร์กแห่งการอยู่อาศัยใหม่ในโซนนี้ ด้วย Sansiri Chatuchot Community สังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพเหนือ พร้อมเปิด 2 โครงการใหม่ ได้แก่ บุราสิริ จตุโชติ และ สราญสิริ จตุโชติ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และลูกค้าให้การตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง คาดปิดปีกวาดยอดขายจาก 2 โครงการทะลุพันล้านบาท ซึ่ง Sansiri Chatuchot Community แลนด์มาร์กแห่งการอยู่อาศัย ใหม่โซนกรุงเทพเหนือ กับ 2 โครงการล่าสุด "บุราสิริ-สราญสิริ" มูลค่ารวม 4.58 พันล้านบาท

    "จุดแข็งสำคัญคือโมเดล Sansiri Community ที่ไม่เหมือนใคร มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบในทุกทำเลที่เข้าไปพัฒนา โดยคาดการณ์ว่ายอดขายแนวราบใน 10 เดือนจะพุ่งสูงถึง 1.6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปีแสนสิริประสบความสำเร็จ Sold Out โครงการแนวราบแล้วกว่า 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.86 หมื่นล้านบาท และเตรียมปิดการขายอีก 8 โครงการ มูลค่ากว่า 1.15 หมื่นล้านบา" นายอาณัติกล่าว

   ดอกเบี้ยขาลงหนุน

    นอกจากนี้ยังประเมินว่าทิศทางดอกเบี้ยขาลงถือเป็นผลดีต่อบริษัท และรวมถึงแรงหนุนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงินได้มีการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) เพื่อช่วยประคับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลต่อเนื่องถึงมิถุนายน 2569

    สำหรับการผ่อนคลาย LTV ดังกล่าวนั้น โดยเฉพาะบ้านหลังที่ 2 ที่สามารถให้กู้ได้ 100% จากเดิมที่ราว 70-90% ทำให้ความสามารถของผู้ซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนดีมานด์ของตลาดและของบริษัทในอนาคตอีกทางหนึ่ง

    นางสาวภัคพริ้ง การุญ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "Sansiri Community" เป็น จุดแข็งของ แสนสิริ และเราประสบความสำเร็จในการพัฒนาโมเดล นี้มาแล้วกว่า 17 คอมมูนิตี้ (รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และรวม พื้นที่กว่า 3,700 ไร่) ภายใต้ความตั้งใจที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างสังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบในทุกทำเลที่แสนสิริเข้าไป และโอกาสในการต่อยอดลงทุนอย่างยั่งยืน