อสังหาQ3ฟื้นแรงยอดขายพุ่ง25% คอนโดเปิดใหม่หนุนAP-SIRIเด่น
วันที่ : 16 ตุลาคม 2568
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า กลุ่มอสังหาจะมียอดขายรวม 5.99 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% QoQ และ 16.2% YoY ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งน่าจะเป็นสถิติสูงสุดของปี 2568
CGSI คาด ยอดขาย 9 บริษัทรวมกลุ่มอสังหา ไตรมาส 3/2568 โต 25% QoQ ที่ 5.33 หมื่นล้านบาท หนุนจากคอนโดเปิดใหม่ ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดพีคสุดของปีแตะ 5.99 หมื่นล้านบาท รับเปิดโครงการ-แคมเปญกระตุ้นยอดขาย-แนวโน้มลดดอกเบี้ย พร้อมปรับประมาณการยอดขายปี 2568 ขึ้น 1.0% ทะลุ 2 แสนล้านบาท เนื่องจากยอดขายคอนโดสูงกว่าคาดชู AP-SIRI เด่น ปันผลสูง
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการ ยอดขายบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ศึกษา 9 บริษัท ได้แก่ AP, LH, LPN, PSH, QH, SPALI, SIRI, ORI และ SC จะมียอดขายในไตรมาส 3/2568 รวมกัน 5.33 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% QoQ แต่ลดลง 7.8% YoY ทั้งนี้ยอดขายที่คาดเติบโต QoQ มาจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่คาดเพิ่มขึ้นถึง 100.3% QoQ แต่ลดลง 8.6% YoY เป็นการฟื้นตัวทั้งจากจำนวนโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น และการขายสต็อกคอนโดมิเนียมหลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในไตรมาส 3/2568 ได้เสียงตอบรับดีจากลูกค้า เห็นได้จากอัตรายอดขายเฉลี่ย 39% ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ขณะที่ยอดขายแนวราบลดลง 1.5% QoQ และ 7.2% YoY เป็น 3.096 หมื่นล้านบาท จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวและการแข่งขันที่รุนแรง โดยเชื่อว่าอุปสงค์ของโครงการระดับ Luxury ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และจากการที่ลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น
ยอดขายคอนโดสูงกว่าคาด
โดยยอดขายงวด 9 เดือนแรกปีนี้ของกลุ่มอสังหา น่าจะลดลง 12.7% YoY เป็น 1.49 แสนล้านบาท เพราะยอดขายแนวราบลดลง 8.0% YoY และคอนโดมิเนียมลดลง 19.3% YoY ซึ่งในกลุ่มที่ศึกษา SIRI และ SPALI น่าจะมียอดขายเติบโตสูงที่สุดใน งวด 9 เดือนที่ 6.0% และ 2.0% YoY ตามลำดับเพราะคอนโดมิเนียม เปิดใหม่ได้เสียงตอบรับดี ส่วน AP มียอดขายแนวราบเติบโตแข็งแกร่ง 11.2% YoY ในขณะที่บริษัทอื่นน่าจะ ลดลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการยอดขายปี 2568 ขึ้น 1.0% เป็น 2.096 แสนล้านบาท เนื่องจากยอดขายคอนโดมิเนียมสูงกว่าคาด และยอดขายงวด 9 เดือนของปีนี้คิดเป็น 71.4% ของประมาณการใหม่ปี 2568 ของฝ่ายวิเคราะห์ และ 59.7% ของเป้าหมายรวมของบริษัท
จับตาไตรมาส 4 พีค
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า กลุ่มอสังหาจะมียอดขายรวม 5.99 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% QoQ และ 16.2% YoY ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งน่าจะเป็นสถิติสูงสุดของปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโครงการเพิ่มช่วงปลายปีมูลค่า 1.028 แสนล้านบาท, การจัดแคมเปญทางการตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายเติบโตได้ตามเป้าทั้งปีและแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2568 นอกจากนี้ เชื่อว่า AP, LH, ORI และ SC จะมียอดขายเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/2568
ขณะที่ยอดขายทั้งปี 2568 นี้ น่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อีก 6% YoY จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวของทั้งคอนโดมิเนียมที่คาดลดลง 11.1% YoY และแนวราบ คาดลดลง 2.4% YoY โดยคาดว่า AP, SPALI และ SIRI จะ Outperform คู่แข่งด้านการเติบโตของยอดขายที่ 3.1%, 8.4%และ 6.1% YoY ตามลำดับ
ปันผลสูง 6.2-6.6%
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังแนะนำให้ "คงน้ำหนักการลงทุน" หรือ Neutral กลุ่มอสังหา เพราะยอดขายและกำไรปกติน่าจะเติบโตชะลอตัวในปี 2568 แต่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.2-6.6% ในปี 2568-2569 ยังน่าสนใจ อีกทั้งกลุ่มอสังหาซื้อขายที่ P/E เพียง 7.3 เท่าในปี 2569 หรือ -1.37SD จากค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี เลือก AP และ SIRI เป็นหุ้น Top Pick โดย SIRI มียอดขายสูงกว่าคู่แข่งและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ส่วน AP มีสัดส่วนโครงการระดับกลางค่อนข้างสูง น่าจะมียอดขาย และกำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 2568
โดยกลุ่มอสังหาอาจมี Downside Risk หากเศรษฐกิจมหภาคมีความ ไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีสหรัฐ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ต่ำกว่าคาด ขณะที่ Upside Risk อาจมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและ การขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินเป็น 99 ปี
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการ ยอดขายบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ศึกษา 9 บริษัท ได้แก่ AP, LH, LPN, PSH, QH, SPALI, SIRI, ORI และ SC จะมียอดขายในไตรมาส 3/2568 รวมกัน 5.33 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% QoQ แต่ลดลง 7.8% YoY ทั้งนี้ยอดขายที่คาดเติบโต QoQ มาจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่คาดเพิ่มขึ้นถึง 100.3% QoQ แต่ลดลง 8.6% YoY เป็นการฟื้นตัวทั้งจากจำนวนโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น และการขายสต็อกคอนโดมิเนียมหลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในไตรมาส 3/2568 ได้เสียงตอบรับดีจากลูกค้า เห็นได้จากอัตรายอดขายเฉลี่ย 39% ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ขณะที่ยอดขายแนวราบลดลง 1.5% QoQ และ 7.2% YoY เป็น 3.096 หมื่นล้านบาท จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวและการแข่งขันที่รุนแรง โดยเชื่อว่าอุปสงค์ของโครงการระดับ Luxury ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และจากการที่ลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น
ยอดขายคอนโดสูงกว่าคาด
โดยยอดขายงวด 9 เดือนแรกปีนี้ของกลุ่มอสังหา น่าจะลดลง 12.7% YoY เป็น 1.49 แสนล้านบาท เพราะยอดขายแนวราบลดลง 8.0% YoY และคอนโดมิเนียมลดลง 19.3% YoY ซึ่งในกลุ่มที่ศึกษา SIRI และ SPALI น่าจะมียอดขายเติบโตสูงที่สุดใน งวด 9 เดือนที่ 6.0% และ 2.0% YoY ตามลำดับเพราะคอนโดมิเนียม เปิดใหม่ได้เสียงตอบรับดี ส่วน AP มียอดขายแนวราบเติบโตแข็งแกร่ง 11.2% YoY ในขณะที่บริษัทอื่นน่าจะ ลดลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการยอดขายปี 2568 ขึ้น 1.0% เป็น 2.096 แสนล้านบาท เนื่องจากยอดขายคอนโดมิเนียมสูงกว่าคาด และยอดขายงวด 9 เดือนของปีนี้คิดเป็น 71.4% ของประมาณการใหม่ปี 2568 ของฝ่ายวิเคราะห์ และ 59.7% ของเป้าหมายรวมของบริษัท
จับตาไตรมาส 4 พีค
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า กลุ่มอสังหาจะมียอดขายรวม 5.99 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% QoQ และ 16.2% YoY ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งน่าจะเป็นสถิติสูงสุดของปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโครงการเพิ่มช่วงปลายปีมูลค่า 1.028 แสนล้านบาท, การจัดแคมเปญทางการตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายเติบโตได้ตามเป้าทั้งปีและแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2568 นอกจากนี้ เชื่อว่า AP, LH, ORI และ SC จะมียอดขายเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/2568
ขณะที่ยอดขายทั้งปี 2568 นี้ น่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อีก 6% YoY จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวของทั้งคอนโดมิเนียมที่คาดลดลง 11.1% YoY และแนวราบ คาดลดลง 2.4% YoY โดยคาดว่า AP, SPALI และ SIRI จะ Outperform คู่แข่งด้านการเติบโตของยอดขายที่ 3.1%, 8.4%และ 6.1% YoY ตามลำดับ
ปันผลสูง 6.2-6.6%
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังแนะนำให้ "คงน้ำหนักการลงทุน" หรือ Neutral กลุ่มอสังหา เพราะยอดขายและกำไรปกติน่าจะเติบโตชะลอตัวในปี 2568 แต่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.2-6.6% ในปี 2568-2569 ยังน่าสนใจ อีกทั้งกลุ่มอสังหาซื้อขายที่ P/E เพียง 7.3 เท่าในปี 2569 หรือ -1.37SD จากค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี เลือก AP และ SIRI เป็นหุ้น Top Pick โดย SIRI มียอดขายสูงกว่าคู่แข่งและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ส่วน AP มีสัดส่วนโครงการระดับกลางค่อนข้างสูง น่าจะมียอดขาย และกำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 2568
โดยกลุ่มอสังหาอาจมี Downside Risk หากเศรษฐกิจมหภาคมีความ ไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีสหรัฐ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ต่ำกว่าคาด ขณะที่ Upside Risk อาจมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและ การขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินเป็น 99 ปี
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ