อสังหาฯ 4 ภูมิภาค ครึ่งปีหลัง 68 กำลังซื้ออ่อน-บ้านมือสองแซง
Loading

อสังหาฯ 4 ภูมิภาค ครึ่งปีหลัง 68 กำลังซื้ออ่อน-บ้านมือสองแซง

วันที่ : 27 กันยายน 2568
"ตลาดอสังหาฯ 4 ภูมิภาคไทยครึ่งปีหลัง 2568 เผชิญกำลังซื้อหด-หนี้ครัวเรือนกดดัน ซัพพลายใหม่เพิ่มแต่ขายช้ามือสองแซงหน้า ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์จับลูกค้าต่างชาติและกลุ่มราคาเข้าถึงได้"
    สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 สะท้อนภาพที่แตกต่างกันชัดเจนในแต่ละภูมิภาค แต่มีจุดร่วมคือแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง และกำลังซื้อที่อ่อนแอ โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านแนวราบราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ส่งผลให้บ้านมือสองกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของตลาดใหม่ และทำให้ระยะเวลาที่คาดว่าจะขายหมด (Month of Supply-MoS) ยาวนานขึ้น

    สิทธิเพ็ญ สิทธัตถพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า พื้นที่พระนครศรีอยุธยาและสระบุรีมีซัพพลายรวมราว 3.1% ของประเทศ คิดเป็น 11,892 หน่วย มูลค่า 39,000 ล้านบาท แม้ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นในบางเซกเมนต์ แต่อัตราการขายชะลอลงชัดเจน

    จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นตัวอย่างชัดเจนที่สะท้อนว่าเมืองไม่ได้พึ่งพาเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ GDP กว่า 75% มาจากภาคอุตสาหกรรม ทำให้ดีมานด์หลักยังคงอยู่รอบนิคมใหญ่ เช่น โรจนะและบางปะอิน อย่างไรก็ตาม ตลาดบางกลุ่มเริ่มมีสัญญาณขายช้า โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว 3-10 ล้านบาท บ้านแฝด 3-5 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1-3 ล้านบาทในโซนนิคมโรจนะซึ่ง จำนวนเดือนที่คาดว่าจะขายหมด (Month of Supply-MoS) บางกลุ่มเกิน 100 เดือน

    ธนานันต์ สุวรรณโพธิรุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนวรรณ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ประกอบการในอยุธยา มองว่า "ตลาดอยุธยาเป็นเมืองอุตฯไม่ใช่เกษตร" และการย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ-นออก แต่มีจีนย้ายเข้ามา ถือเป็นปัจจัยบวก สร้างดีมานด์ใหม่จากผู้บริหารและแรงงานต่างชาติ เขาเสนอว่าผู้พัฒนาควรปรับตัวนำเสนอสินค้าประเภท Hybrid Function หรือ Mix-used ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ควบคู่

    ด้านจิตติมา มานิช กรรมการบริหาร บริษัท ดิอีโค่ อยุธยา จำกัด ผู้ประกอบการอีกรายในอยุธยาเสริมว่า ครึ่งปีแรกยอดขายดีกว่าปีก่อน โดยทาวน์โฮมชั้นเดียวราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทยังขายดี ขณะที่พฤติกรรมผู้ซื้อหลังโควิดปรับไปเลือกบ้านขนาดเล็กใกล้แหล่งงาน พร้อมทั้งใช้โปรโมชันร่วมกับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เช่น สินเชื่อ ธอส. 0.72% เพื่อเร่งการโอน

    สระบุรีแม้ไม่มีโครงการใหม่เปิด แต่การขายบ้านจัดสรรดีขึ้นถึง 44% อย่างไรก็ดี บ้านมือสองยังเป็นคู่แข่งหลัก โดยการโอนมากกว่าบ้านใหม่

    ในภาคตะวันตกอย่างหัวหิน และชะอำ ที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ภาพรวมยอดขายทรุด โดยหัวหินคอนโดขายลดลงถึง 71% บ้านจัดสรรลดลง 33% แต่ตลาดวิลล่ากลับพุ่งแรง 128% ส่วนหนึ่งเพราะชาวต่างชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีนเข้ามาซื้อห้องชุดมากขึ้น คิดเป็น 37% ของจำนวนโอนทั้งหมด

    สำหรับภาคเหนือ ข้อมูลของ REIC ระบุว่า 5 จังหวัดมีส่วนแบ่งตลาดราว 5% ยอดขายรวมลดลง 1% โดยเชียงใหม่ยังคงเจอภาวะซัพพลายล้น ทั้งคอนโด -52% และบ้านจัดสรร -76% โดย MoS เพิ่มขึ้นถึง 57 เดือน โดยเฉพาะโซนสันทรายและหางดงที่ขายช้าเป็นพิเศษ บ้านมือสองจึงกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ครองถึง 74% ของการโอนในตลาดแนวราบ

    ตรงข้ามกับลำพูนที่ขยายตัวสวนทาง ซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ยอดขายพุ่งถึง 138% โดยโครงการใกล้นิคมและโรงพยาบาลขายดี สะท้อนความแตกต่างของจังหวัดขนาดรองที่สามารถดึงดูดดีมานด์ได้มากกว่า

    ด้านภาคใต้ ภูเก็ตมีซัพพลายมากที่สุดในภาคใต้ราว 14,000 หน่วย แต่ยอดขายลดลงกว่า 54% และ จำนวนเดือนที่คาดว่าจะขายหมด (Month of Supply-MoS) เพิ่มขึ้นเป็น 31 เดือน โดยเมธาพงศ์ อุปัติศฤงค์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต อธิบายว่า ตลาดมือสองขยายตัวจนใหญ่กว่าตลาดใหม่ โดยเฉพาะคอนโดและวิลล่าที่มีขนาดใหญ่กว่าและคุ้มค่ากว่า นอกจากนี้การโอนคอนโดเพิ่มขึ้น 40% สะท้อนการเร่งโอนจาก Backlog เดิม ขณะที่แรงกดดันคือค่าเงินบาทแข็งและมาตรการด้านบัญชีธนาคารที่กระทบต่างชาติ แม้เผชิญความท้าทาย แต่ภูเก็ตยังคงผลักดันตัวเองสู่การเป็น International City ทั้งผ่านโรงเรียนนานาชาติราว 20 แห่ง และ Medical Center เพื่อดึงดูดการอยู่อาศัยระยะยาว

    ขณะที่สงขลามีตลาดที่อิงกำลังซื้อท้องถิ่นเกือบ 100% วรัชญ์ ปริสุทธิ์กุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา ได้ระบุว่า ตลาดเผชิญยอดขายลดลงเกือบทุกเซกเมนต์ แต่โอกาสใหม่กำลังเกิดขึ้นจากเทรนด์ Wellness และ Senior House โดยผู้ประกอบการปรับดีไซน์บ้านรองรับผู้สูงอายุ รวมถึงใช้จุดแข็งด้านการแพทย์เพื่อดึงนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซียที่นิยมเข้ามาพักแบบบ้านเช่ามากกว่าโรงแรม สำหรับเกาะสมุยในสุราษฎร์ธานีกลับโดดเด่น ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 55% โดยคอนโดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ MoS เหลือเพียง 5 เดือน และต่างชาติครองการโอนถึง 64% ของมูลค่า

    โดยภาพรวมแล้ว ภาพรวมตลาดอสังหาฯ 4 ภูมิภาคครึ่งปีแรกและแนวโน้มครึ่งหลังปี 2568 สะท้อนว่า แม้ซัพพลายยังขยาย แต่กำลังซื้อที่ชะลอลงทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว บ้านมือสองยังเป็นคู่แข่งที่น่ากังวล ขณะที่ตลาดใหม่ต้องอาศัยการเจาะกลุ่มเฉพาะ ทั้งต่างชาติ วิลล่าระดับบน หรือที่อยู่อาศัยใกล้นิคมอุตสาหกรรม เพื่อพยุงการขายท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังไม่คลี่คลาย
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ
29 กันยายน 2568
อุตฯย้ายฐานเข้าไทยหนีภาษีตอบโต้ ดันอสังหาฯกรุงเก่าโตสวนตลาด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดเผยข้อมูลการจัดเก็บตัวเลขสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ภาคกลาง ในจังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 จังหวัดสระบุรี มีจำนวนบ้านในโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย หรือบ้านสร้างใหม่ 2,720 หน่วย เพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีหน่วยอยู่ระหว่างการขาย 2,444 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 11.3% ขณะที่มูลค่าของหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายอยู่ที่ 8,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการขายอยู่ที่ 7,092 ล้านบาท