LWS ชี้อสังหาฯครึ่งปีหลังยังชะลอตัว ศก.หด-ภาษีทรัมป์-ปัจจัยลบกดตลาด
Loading

LWS ชี้อสังหาฯครึ่งปีหลังยังชะลอตัว ศก.หด-ภาษีทรัมป์-ปัจจัยลบกดตลาด

วันที่ : 1 สิงหาคม 2568
แอล ดับเบิลยู เอสฯ คาดการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาฯกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ครึ่งปีหลังยังชะลอตัว เหตุรับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว-มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวลง สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ แม้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ช่วงขาลดลง และมีมาตรการรัฐหนุน ก็ตาม
    นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผลภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสหรัฐ อเมริกา ที่มีการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยที่อัตรา 36% ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 ส.ค. 68 ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 68 มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่ำกว่า 2% จากเดิมที่มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 68 จะเติบโตที่ 2.7-3%

    "การที่เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่ต่ำ ทำให้รายได้และกำลังซื้อของประชากรลดลง ผนวกกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไปจนถึงสินเชื่ออุปโภคและบริโภค ส่งผลกระทบโดยตรงกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัย ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศจะมีแนวโน้มลดลง และมีมาตรการผ่อนคลาย อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า (Loan to Value: LTV) รวมทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มาอยู่ที่ 0.01% ก็ยังไม่สามารถที่จะกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมาได้ เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังกังวลรายได้ในอนาคต ทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ที่เป็นภาระหนี้ระยะยาวออกไปก่อน" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

    จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้คาดว่า ปี 68 จะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงทั้งมูลค่าและจำนวน เพราะบริษัทอสังหาฯ จะชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ และมุ่งเน้นที่การเร่งระบายสินค้าคงเหลือเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และลดภาระดอกเบี้ยจ่ายในการถือครองทรัพย์สินแทน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี68 ที่ปรับตัวลดลงทั้งจำนวนและมูลค่าการเปิดตัวโครงการคิดเป็นสัดส่วน 54% และ 46% ตามลำดับเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 67

    ครึ่งปีแรกโครงการเปิดใหม่ลดลง 54%

    นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากผลการสำรวจการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 พบว่า จำนวนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 มีจำนวน 104 โครงการ ลดลง 42% หรือมีหน่วยเปิดตัวใหม่ 14,942 หน่วย ลดลง 54% คิดเป็นมูลค่า 109,220 ล้านบาท ลดลง 46% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของ ปี 67

    โดยเป็นการเปิดตัวโครงการอาคารชุด 23 โครงการลดลง 30% คิดเป็นจำนวน 7,393 หน่วยลดลง 45% และคิดเป็นมูลค่า 22,956 ล้านบาทลดลง 56% จากระยะเดียวกันของปี 67 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดที่เปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3.10 ล้านบาทต่อหน่วย ลดลง 20% จากราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดที่เปิดตัวในระยะเดียวกันของปี 2567 ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.87 ล้านบาทต่อหน่วย

    ส่วนการเปิดตัวบ้านพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 81 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 7,549 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัวรวม 86,264 ล้านบาท ลดลง 46%, 61%, และ 42% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ 149 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัว 19,298 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 149,715 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 67 โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 อยู่ที่ 11.42 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในข่วงครึ่งแรกของปี 67

 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ