'เอสซี' กางยุทธศาสตร์ '3B' ฝ่าวิกฤติอสังหาไร้สัญญาณฟื้น
วันที่ : 23 กรกฎาคม 2568
ในครึ่งปีหลัง เอสซี แอสเสท ยังคงเดินหน้าเปิดตัว 8 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์ที่ยังแข็งแรงในบางเซกเมนต์ โดยมุ่งเจาะทำเลศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพฯ ชั้นในและชานเมือง
บุษกร ภู่แส
กรุงเทพธุรกิจ
ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลก ยังคงผันผวน ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน ขณะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง แน่นอนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังไม่พ้นมรสุม ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะครึ่งปีหลังที่ยัง ไร้สัญญาณฟื้น
"นี่คือครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่เศรษฐกิจ ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนสูง และซัพพลายล้นตลาด เกิดขึ้นพร้อมกัน"
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ฉายภาพต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเปราะบาง จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อ ยากขึ้น ทำให้การเปิดโครงการใหม่ เป็นเรื่องท้าทายยิ่งขึ้นกว่าในช่วงวิกฤติ โควิด-19 เสียอีก
ทั้งนี้ เอสซี แอสเสท วางแนวทางหลักพาธุรกิจฝ่าวิกฤติ และสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันในตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง ผ่าน "3B Strategy" ประกอบด้วย Believe ความเชื่อมั่นในแบรนด์ Buffer การบริหารความมั่นคงทางการเงิน และ Blend การผสมผสานธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง
4 ความเสี่ยงสำคัญครึ่งปีหลัง
แม้จะมีแผนรับมืออย่างรัดกุม แต่ตลาดยังต้องจับตา "4 ความเสี่ยงหลัก" ได้แก่ ภาคท่องเที่ยวชะลอตัว งบประมาณแผ่นดิน ล่าช้า จากปัญหาการเมือง ราคาน้ำมันพุ่ง ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น และกำแพงภาษี Tariff (ภาษีนำเข้า) ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและภาพรวมเศรษฐกิจ
ดังนั้น ในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ ผู้ประกอบการต้องเน้น "รักษาสภาพคล่อง" เป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานการเงินไม่แข็งแรงอาจต้องชะลอ การลงทุน ขณะที่ กลุ่มแข็งแกร่งอาจใช้โอกาสนี้กระจายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจใหม่เพื่อลดความเสี่ยงระยะยาว
"การประคองธุรกิจให้อยู่รอด ไม่ใช่แค่ขายของได้ แต่ต้องมีกระแสเงินสดที่ดีพอรองรับความไม่แน่นอนในระยะยาว"
ครึ่งหลังลุย 8 โครงการใหม่หมื่นล้าน
ในครึ่งปีหลัง เอสซี แอสเสท ยังคงเดินหน้าเปิดตัว 8 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์ที่ยังแข็งแรงในบางเซกเมนต์ โดยมุ่งเจาะทำเลศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพฯ ชั้นในและชานเมือง อาทิ โครงการ "Cobe" ลาดพร้าว-สุทธิสาร โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ติวานนท์-ดอนเมือง โครงการเวนิว ฟอร์ม บางนา-ศรีวารี โครงการซันเล เรสซิเดนเซส
"แม้ภาพรวมตลาดจะซบเซา แต่ เซกเมนต์บน โดยเฉพาะบ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงเป็นดาวรุ่ง ของ เอสซี แอสเสท ด้วยยอดขาย 5,204 ล้านบาท หรือกว่า 68% ของยอดขายบ้านแนวราบทั้งหมดในครึ่งแรกของปี 2568"
กลุ่มโครงการเรือธง เช่น แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 โครงการแมทเทอร์ งามวงศ์วาน และเรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนยอดพรีเซลรวม 9,613 ล้านบาท เติบโต 4% จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน
เร่งเครื่องธุรกิจสร้างรายได้ระยะยาว
อย่างไรก็ดี ภายใต้ "เครื่องยนต์ ตัวที่สอง" (Engine 2) เอสซี แอสเสท เร่งลงทุนในธุรกิจเชิงพาณิชย์ เช่น คลังสินค้าให้เช่า พื้นที่สะสมรวม 150,000 ตร.ม. พร้อมตั้งเป้าอัตราเช่า 100% ภายในสิ้นปี โดยมีลูกค้าหลัก คือ กลุ่มโลจิสติกส์ (45%) และธุรกิจการผลิต (25%) ด้านธุรกิจโรงแรม ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโรงแรมใหม่ย่านราชวัตร และเตรียม เปิดอีก 2 แห่ง ได้แก่ KROMO Bangkok ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton เดอะ สแตนดาร์ด พัทยา นาจอมเทียน ริมชายหาด
"เอสซี ยังคงบริหารความมั่นคงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ในปี 2568 ได้ครบตามแผน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแผนธุรกิจระยะยาว"
นอกจากนี้ บริษัทยังมีพันธมิตร ต่างชาติที่แข็งแกร่ง เช่น โตเกียว ทาเทโมโนะ, ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป และ นิชิเทตสึ ซึ่งร่วมทุนในโครงการพัฒนาแนวราบ คอนโดมิเนียม โรงแรม และโลจิสติกส์ รวมกว่า 10 โครงการ
ในโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เอสซี แอสเสท กำลังเดินเกมอย่างระมัดระวังแต่มั่นคง! ภายใต้กลยุทธ์ที่ยึด "ความยืดหยุ่น" เป็นหัวใจหลัก ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ ที่ยังไม่มีทีท่าจะสงบลงง่ายๆ
กรุงเทพธุรกิจ
ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลก ยังคงผันผวน ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน ขณะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง แน่นอนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังไม่พ้นมรสุม ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะครึ่งปีหลังที่ยัง ไร้สัญญาณฟื้น
"นี่คือครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่เศรษฐกิจ ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนสูง และซัพพลายล้นตลาด เกิดขึ้นพร้อมกัน"
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ฉายภาพต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเปราะบาง จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อ ยากขึ้น ทำให้การเปิดโครงการใหม่ เป็นเรื่องท้าทายยิ่งขึ้นกว่าในช่วงวิกฤติ โควิด-19 เสียอีก
ทั้งนี้ เอสซี แอสเสท วางแนวทางหลักพาธุรกิจฝ่าวิกฤติ และสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันในตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง ผ่าน "3B Strategy" ประกอบด้วย Believe ความเชื่อมั่นในแบรนด์ Buffer การบริหารความมั่นคงทางการเงิน และ Blend การผสมผสานธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง
4 ความเสี่ยงสำคัญครึ่งปีหลัง
แม้จะมีแผนรับมืออย่างรัดกุม แต่ตลาดยังต้องจับตา "4 ความเสี่ยงหลัก" ได้แก่ ภาคท่องเที่ยวชะลอตัว งบประมาณแผ่นดิน ล่าช้า จากปัญหาการเมือง ราคาน้ำมันพุ่ง ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น และกำแพงภาษี Tariff (ภาษีนำเข้า) ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและภาพรวมเศรษฐกิจ
ดังนั้น ในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ ผู้ประกอบการต้องเน้น "รักษาสภาพคล่อง" เป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานการเงินไม่แข็งแรงอาจต้องชะลอ การลงทุน ขณะที่ กลุ่มแข็งแกร่งอาจใช้โอกาสนี้กระจายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจใหม่เพื่อลดความเสี่ยงระยะยาว
"การประคองธุรกิจให้อยู่รอด ไม่ใช่แค่ขายของได้ แต่ต้องมีกระแสเงินสดที่ดีพอรองรับความไม่แน่นอนในระยะยาว"
ครึ่งหลังลุย 8 โครงการใหม่หมื่นล้าน
ในครึ่งปีหลัง เอสซี แอสเสท ยังคงเดินหน้าเปิดตัว 8 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์ที่ยังแข็งแรงในบางเซกเมนต์ โดยมุ่งเจาะทำเลศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพฯ ชั้นในและชานเมือง อาทิ โครงการ "Cobe" ลาดพร้าว-สุทธิสาร โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ติวานนท์-ดอนเมือง โครงการเวนิว ฟอร์ม บางนา-ศรีวารี โครงการซันเล เรสซิเดนเซส
"แม้ภาพรวมตลาดจะซบเซา แต่ เซกเมนต์บน โดยเฉพาะบ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงเป็นดาวรุ่ง ของ เอสซี แอสเสท ด้วยยอดขาย 5,204 ล้านบาท หรือกว่า 68% ของยอดขายบ้านแนวราบทั้งหมดในครึ่งแรกของปี 2568"
กลุ่มโครงการเรือธง เช่น แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 โครงการแมทเทอร์ งามวงศ์วาน และเรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนยอดพรีเซลรวม 9,613 ล้านบาท เติบโต 4% จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน
เร่งเครื่องธุรกิจสร้างรายได้ระยะยาว
อย่างไรก็ดี ภายใต้ "เครื่องยนต์ ตัวที่สอง" (Engine 2) เอสซี แอสเสท เร่งลงทุนในธุรกิจเชิงพาณิชย์ เช่น คลังสินค้าให้เช่า พื้นที่สะสมรวม 150,000 ตร.ม. พร้อมตั้งเป้าอัตราเช่า 100% ภายในสิ้นปี โดยมีลูกค้าหลัก คือ กลุ่มโลจิสติกส์ (45%) และธุรกิจการผลิต (25%) ด้านธุรกิจโรงแรม ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโรงแรมใหม่ย่านราชวัตร และเตรียม เปิดอีก 2 แห่ง ได้แก่ KROMO Bangkok ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton เดอะ สแตนดาร์ด พัทยา นาจอมเทียน ริมชายหาด
"เอสซี ยังคงบริหารความมั่นคงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ในปี 2568 ได้ครบตามแผน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแผนธุรกิจระยะยาว"
นอกจากนี้ บริษัทยังมีพันธมิตร ต่างชาติที่แข็งแกร่ง เช่น โตเกียว ทาเทโมโนะ, ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป และ นิชิเทตสึ ซึ่งร่วมทุนในโครงการพัฒนาแนวราบ คอนโดมิเนียม โรงแรม และโลจิสติกส์ รวมกว่า 10 โครงการ
ในโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เอสซี แอสเสท กำลังเดินเกมอย่างระมัดระวังแต่มั่นคง! ภายใต้กลยุทธ์ที่ยึด "ความยืดหยุ่น" เป็นหัวใจหลัก ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ ที่ยังไม่มีทีท่าจะสงบลงง่ายๆ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ