SA คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ตุนแบ็กล็อก 5 พันล้าน จ่อโอน 2 คอนโดใหม่ 5.5 พันล้าน
วันที่ : 22 กรกฎาคม 2568
SA คงเป้ารายได้ปีนี้นิวไฮโต 10-15% จากปีก่อน ตุนแบ็กล็อก 5,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท และเตรียมโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,500 ล้านบาท ในเดือนพ.ย.นี้ แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ถดถอย-ตลาดท่องเที่ยวชะลอ
นางสุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่าในปี 2568 บริษัทยังคงยึดตามแผนและเป้าหมายเดิมที่ประกาศไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 10-15% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่อง และประเมินจากยอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้ในปี 2568 กว่า 2,000 ล้านบาท และจะมี 2 โครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ มูลค่าโครงการรวม 5,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเสร็จใหม่ในปี 2568 ประกอบด้วย 1.โครงการ แลนด์มาร์ค แอท เกษตรทุ่งสองห้อง สเตชั่น มูลค่าโครงการ 1,670 ล้านบาท และ 2.โครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น มูลค่าโครงการ 3,830 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมด้วยการร่วมมือกับสถาบันการเงิน โดยการเตรียมออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงที่โครงการสร้างเสร็จ
“ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกคนทำธุรกิจก็เหนื่อยกว่าปกติ เพราะเรายังอยู่ในช่วงที่ทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายภาพใหญ่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งทุกวันนี้สถานการณ์ก็ยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจึงมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมงานในการปรับตัวและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด ส่วนในด้านของการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้า พบว่าชะลอตัวลงตามภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะบริษัทเรา แต่เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในทั้งอุตสาหกรรม” นางสุนันทา กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน SA ดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม โดยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเป็นพอร์ตหลัก ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจโรงแรม ซึ่งเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยว แต่ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบบางส่วนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงเดือนเมษายนถึงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยกลับมา
ขณะที่ยังมีปัจจัยด้านภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเหตุการณ์เชิงลบบางกรณีที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อในช่วงที่ผ่านมา แม้จะเป็นเหตุการณ์เฉพาะ แต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโดยรวม และสะท้อนถึงความท้าทายที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเสร็จใหม่ในปี 2568 ประกอบด้วย 1.โครงการ แลนด์มาร์ค แอท เกษตรทุ่งสองห้อง สเตชั่น มูลค่าโครงการ 1,670 ล้านบาท และ 2.โครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น มูลค่าโครงการ 3,830 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมด้วยการร่วมมือกับสถาบันการเงิน โดยการเตรียมออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงที่โครงการสร้างเสร็จ
“ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกคนทำธุรกิจก็เหนื่อยกว่าปกติ เพราะเรายังอยู่ในช่วงที่ทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายภาพใหญ่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งทุกวันนี้สถานการณ์ก็ยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจึงมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมงานในการปรับตัวและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด ส่วนในด้านของการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้า พบว่าชะลอตัวลงตามภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะบริษัทเรา แต่เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในทั้งอุตสาหกรรม” นางสุนันทา กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน SA ดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม โดยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเป็นพอร์ตหลัก ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจโรงแรม ซึ่งเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยว แต่ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบบางส่วนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงเดือนเมษายนถึงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยกลับมา
ขณะที่ยังมีปัจจัยด้านภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเหตุการณ์เชิงลบบางกรณีที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อในช่วงที่ผ่านมา แม้จะเป็นเหตุการณ์เฉพาะ แต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโดยรวม และสะท้อนถึงความท้าทายที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ