ลุ้น ครม. ไฟเขียวสแกนสารพัดโมเดล จับสลาก 'บ้านเพื่อคนไทย'
Loading

ลุ้น ครม. ไฟเขียวสแกนสารพัดโมเดล จับสลาก 'บ้านเพื่อคนไทย'

วันที่ : 19 มิถุนายน 2568
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับการคัดเลือกผู้ที่จะได้รับสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทยนั้นจะดำเนินการด้วยกระบวนการสุ่มคัดเลือกแบบเรียงลำดับ (Random Sort) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำมาใช้สำหรับการคัดเลือกในหลาย ๆ โครงการที่สำคัญ
   โครงการ "บ้านเพื่อคนไทย" เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึง คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ให้สามารถมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองได้ในราคาที่เข้าถึงได้

   ปัจจุบันประชาชนต่างเฝ้ารอความหวังที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง จะได้ฤกษ์จับสลากเมื่อไร โดยเฉพาะ "โครงการบ้านเพื่อไทย" ที่ได้ลงทะเบียนในระบบเว็บไซต์ของโครงการในช่วงที่ผ่านมานั้น หลังจากกระทรวงคมนาคมได้ฤกษ์จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจับสลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทยระหว่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกับบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)

   ทั้งนี้พบว่าได้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แล้ว จำนวน 130,000 คน จากทั้งหมดที่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 260,000 คน โดยจะนำร่องจับสลากรายชื่อผู้โชคดี จำนวน 5,000 คน

   ล่าสุด นายสรพงศ์ ไพฑูรพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 กระทรวงคมนาคมได้ประชุมคณะกรรมการกำกับติดตามการดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทยของรัฐบาล ครั้งที่ 2/2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ ประกอบด้วย สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)

   ขณะเดียวกันที่ประชุมได้มอบหมายให้บริษัทเอสาอาร์ทีฯ เร่งดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย ให้เป็นไปตามแผนงานที่ได้รายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความสอดคล้องกับแผนการพัฒนาพื้นที่ในภาพรวม และการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมกับพื้นที่โดยรอบ

   นอกจากนี้ที่ประชุมได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้ความสำคัญกับการย้ายพนักงาน ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จะมีการพัฒนา โดยต้องดำเนินการด้วยความเป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับ

   นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมให้บริษัทเอสอาร์ทีฯ พิจารณาความต้องการของกลุ่ม First Jobber ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการบ้านเพื่อคนไทยให้ชัดเจนและครบถ้วน เพื่อนำมากำหนดรูปแบบของโครงการที่ตอบสนองกับกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ส่วนธอส.เตรียมจัดทำแนวทางด้านการเงินที่จะสนับสนุนการดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่ชัดเจน และมานำเสนอในการประชุมครั้งถัดไป

   สำหรับขั้นตอนหลังจากการลงนามสัญญาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นบริษัทเอสอาร์ทีฯ จะหารือร่วมกับสำนักสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อดำเนินการจับสลากหาผู้โชคดี โดยระหว่างนี้จะดำเนินการจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนตุลาคม 2568 และดำเนินการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการบ้านเพื่อคนไทยต่อไป

   พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับการคัดเลือกผู้ที่จะได้รับสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทยนั้นจะดำเนินการด้วยกระบวนการสุ่มคัดเลือกแบบเรียงลำดับ (Random Sort) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำมาใช้สำหรับการคัดเลือกในหลาย ๆ โครงการที่สำคัญ

   ทั้งนี้สำนักงานสลากฯใช้วิธีคัดเลือกหลายรูปแบบ เช่น การคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากโครงการสลาก 80, การคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (N3), การคัดเลือกตัวแทนโครงการสลากซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล

   พันโทหนุน กล่าวต่อว่า ส่วนรูปแบบการจับสลากผู้โชคดีในโครงการนั้น ที่ผ่านมาสำนักสลากฯเคยดำเนินการจับสลากในรูปแบบการสุ่มแบบแรนด้อม โดยประกาศจับรายชื่อผู้โชคดีผ่านการถ่ายทอดสดในช่องทางยูทูป เพื่อสามารถตรวจสอบดูรายชื่อย้อนหลังได้ ซึ่งสำนักสลากฯ จะจับมือกับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อมูลผ่านโปรแกรมในคอมพิวเตอร์

   ขณะที่การคัดเลือกในลักษณะนี้ จะมีการล็อคโค้ดไว้ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการจับสลากได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 ซึ่งเลื่อนจากแผนเดิมที่กำหนดการจับสลากในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามแผนจะเริ่มส่งมอบพื้นที่โครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 1 พร้อมเข้าอยู่ได้ภายในปี 2569

   ด้านการก่อสร้างโครงการฯ ได้ข้อสรุป ดังนี้ พื้นที่บางซื่อ กม.11 คอนโดมิเนียม 26 ชั้น พื้นที่ธนบุรี คอนโดมิเนียม 8 ชั้น พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และพื้นที่เชียงใหม่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ขณะที่บ้านเดี่ยวมีความต้องการลดลงเหลือเพียง 24 หลัง จากเดิม 35 หลัง เพื่อนำไปก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมแทน

   อย่างไรก็ดีโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) ได้สิทธิซื้อเป็นบ้านหลังแรกมีงวดผ่อน 4,000 บาทต่อเดือน ระยะผ่อน 30-40 ปี แต่ได้สิทธิอยู่อาศัย 99 ปี ผ่านการคัดเลือกจากการจับสลาก โดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นผู้ปล่อยกู้ซื้อบ้านเพื่อคนไทย ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2.5%

   สำหรับโครงการฯนี้ อยู่บนทำเลที่ตั้งของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้ง 4 แห่ง รวม 12,000 ยูนิต ประกอบด้วย ที่ดินบางซื่อ กม. 11 ใกล้สำนักงานใหญ่ ปตท. บนเนื้อที่ 15 ไร่ ซอยวิภาวดี 11 ที่ดินธนบุรี บริเวณตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีทองกับรถไฟฟ้าสีส้ม (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง) 800 เมตร บนเนื้อที่รวม 23 ไร่ ที่ดินเชียงราก จังหวัดปทุมธานี ใกล้สถานีรถไฟเชียงราก และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต บนเนื้อที่ 18 ไร่ และที่ดินเปล่าตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถนนเจริญเมือง รวม 15 ไร่

   "คมนาคม" ถกหน่วยที่เกี่ยวข้องดันโปรเจ็กต์ "บ้านเพื่อคนไทย"ชงครม.เคาะ ต.ค.นี้ฟากสำนักสลากฯ เปิดโมเดลคัดเลือกจับสลากแรนด้อม-ถ่ายทอดสด เริ่ม พ.ย.68 ปักธงส่งมอบเฟสแรกพร้อมเข้าอยู่ในปี 69
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ