เหตุทรัมป์-แผ่นดินไหว-ศก.ฝืด

  ผู้ซื้อกดราคาขาย 'ที่ดินร่วง' 50%

  ตลาดอสังหาริมทรัพย์พลิกโฉมหลังนโยบายทรัมป์ 2.0 ไทยเกิดแผ่นดินไหว เศรษฐกิจชะลอตัว คนลังเลซื้อบ้าน-คอนโด ฉุดราคาที่ดินร่วง ตลาดไล่ซื้อพลิกเป็นไล่ขาย ทำเลท่าพระวูบ 50%

  นายวสันต์ คงจันทร์ อุปนายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการซื้อที่ดินและลงทุนโครงการใหม่ ส่งผลที่ดินในกรุงเทพฯเพื่อพัฒนาคอนโดที่ปัจจุบันการซื้อขายไม่คึกคัก ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ขาย ทั้งที่เป็นแลนด์ลอร์ดและบริษัทอสังหาฯ เพื่อรักษากระแสเงินสด แต่คนซื้อแทบไม่มี ทำให้ถูกกดราคาขายที่ดิน บางทำเลราคาลงมาก 50% เพราะคนที่ซื้อต้องรอ 2 ปีกว่าจะพัฒนาโครงการ เช่น โซนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายย่านท่าพระ ราคาเดิม 300,000 บาทต่อตารางวา (ตร.ว.) เหลือ 150,000 บาท ย่านทองหล่อเดิม 2.5 ล้านบาทต่อ ตร.ว. เหลือ 2 ล้านบาท ก็ยังขายไม่ได้เลย ถ้าเหลือ 1.5 ล้านบาท อาจมีคนสนใจซื้อ หรือที่ดินในซอยทองหล่อ เดิมตั้งไว้ 1.5 ล้านบาท ต่อรองเหลือ 900,000 บาท เป็นต้น

  "ตอนนี้เกมเปลี่ยน จากคนซื้อกลายเป็นคนขาย ผลจากตลาดอสังหาฯที่ไม่ดี โดยเฉพาะคอนโดที่เจอแผ่นดินไหวทำให้ซึมหนักมาก ที่ดินเลยขายยาก และอำนาจต่อรองอยู่ที่ผู้ซื้อว่าจะได้ราคาเท่าไหร่ ส่วนที่ดินภูเก็ตยังซื้อขายและราคาปรับขึ้นได้เพราะภาคท่องเที่ยวยังดี และมีต่างชาติมาอยู่อาศัยมาก และต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 ส่วนพื้นที่อีอีซีราคาเริ่มนิ่ง หยุดซื้อขายหลังมีภาษีทรัมป์ เพราะก่อนหน้าราคาปรับขึ้นไปเท่าตัว เช่น ปลวกแดง พัฒนานิคม จ.ระยอง จากไร่ละ 1 ล้านบาท เป็นไร่ละ 2-3 ล้านบาท" นายวสันต์กล่าว

  นายวสันต์กล่าวว่า นอกจากนี้ หลังการท่องเที่ยวฟ้นตัวมีนักลงทุนต่างชาติ เช่น จีน ไต้หวัน เมียนมา ญี่ปุ่น เวียดนาม หาซื้อโรงแรมในไทยมากขึ้น ทั้ง รูปแบบส่วนตัวและกองทุน ทำเลที่ต้องการซื้อคือภูเก็ตและกรุงเทพฯโซนสุขุมวิท เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาด 200-300 ห้อง เพื่ออัพเกรดเป็นโรงแรมลักชัวรี่ แต่ถ้าเป็นนักลงทุนยุโรปจะซื้อระดับ 5 ดาว ล่าสุดมีผู้ประกอบการอสังหาฯเข้ามาทำธุรกิจโรงแรมเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัวได้นำโรงแรมออกขายเพื่อรักษากระแสเงินสด เช่น ย่านโซนสุขุมวิท

   นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯเข้ามาทำธุรกิจคลังสินค้ามากแต่ไปต่อไม่ไหว ได้นำโครงการมาเสนอขายให้บริษัท หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาซื้อขาย

  นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ที่อยู่อาศัยยังเติบโตได้ต่อเนื่องคือภูเก็ต แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและต่างชาติ ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 ประกอบกับภูเก็ตเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลกเทียบชั้นฮาวายและดูไบ ทำให้มีการพัฒนาโครงการเพื่อรองรับดีมานด์

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของแผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ไตรมาส 1/2568 ในพื้นที่ภูเก็ตมีคอนโดและบ้านพักตากอากาศเปิดขายใหม่ 45 โครงการ มูลค่ารวม 49,160 ล้านบาท ปี 2568 ตลาดคอนโด จ.ภูเก็ต คงร้อนแรง แต่อุปทานเปิดขายใหม่อาจลดลงเล็กน้อยแค่ 8,000-10,000 ยูนิต จาก 2 ปี เปิดขายใหม่กว่า 20,000 ยูนิต