นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า กลุ่มธุรกิจโรงแรมยังคง ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยบริษัทมีโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ทั้งสิ้น 10 โครงการ แบ่งเป็น 6 โครงการในกรุงเทพฯ มีรายได้รวม 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8%และอีก 4 โครงการในต่างจังหวัด ที่มียอดรายได้ 85.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 โครงการใหม่ในไตรมาส 2/2568

    สำหรับโครงการในอนาคตได้มีการเซ็นสัญญากับ JW Marriott ซึ่งบริษัทจัดซื้อที่ดิน ย่านสุขุมวิท 24 และระดมทุนเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างเสร็จภายใน 3-4 ปี และทำรายได้ ประจำปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการควบรวมสิทธิการเช่าระยะยาวโรงแรม Journey Hub Bangkok ที่อยู่ติดกัน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

    กางแผน 3 ปี

    อีกทั้งยังวางแผนยุทธศาสตร์ไว้ใน 3 ปี ข้างหน้า โดยการมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำในระยะยาว การขยายแบรนด์บริหารโรงแรมและบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น อีกทั้งได้ศึกษาโอกาสขยายธุรกิจในต่างประเทศ ผ่านโมเดล Build-toSell หรือการรับบริหารโรงแรมในตลาดประเทศพัฒนาแล้วและตลาดใหม่

    ทั้งนี้หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สามารถดึงดูด นักลงทุนต่างชาติได้คือ การได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI ที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติถือครองกิจการโรงแรมและที่ดินได้ 100% ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท

    สำหรับการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดใน โครงการ ซัมเมอร์ พ้อยท์ (Summer Point) หรือ บริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จำกัด (BPKN3) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโทเคนดิจิทัล ที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และเสนอขายผ่านการ ICO (Initial Coin Offering) ในนาม Summer Point Token (SUMX) บนแพลตฟอร์ม Bitkub Exchange โดยระดมทุนได้ถึง 450 ล้านบาท และสามารถรับรู้กำไรจากดีลนี้ถึง 213.6 ล้านบาท เข้ามาในงบการเงินรวมไตรมาส 1/2568

    ระดมทุนโทเคน

    "ความสำเร็จในการระดมทุนผ่านโทเคน SUMX ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำโมเดล สร้าง-ดำเนินการ-ขาย ไปใช้กับโครงการจริงและตอกย้ำศักยภาพของบริษัทในการสร้างมูลค่าให้กับ ผู้ถือหุ้นผ่านแนวทางอินเวสเมนต์โซลูชัน ที่เน้นสร้างจากศูนย์ บริหารอย่างมืออาชีพ และขายต่ออย่างมีกลยุทธ์ โดยไม่มีการผูกพันกับทรัพย์สินระยะยาว" นายปรับกล่าว

    ขณะที่ในไตรมาส 1/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 152.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 588.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทอยู่ที่ 42.9 ล้านบาท พลิกกลับจากการขาดทุน 25.1 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2567 ที่มีกำไร 34 ล้านบาท และบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน