นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 ถึง สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมาว่า ยังคงชะลอตัวตลาดเศรษฐกิจต่อเนื่องมาถึงปี 2568 นี้ ดังนั้น ผู้ประกอบในธุรกิจอสังหาฯจึงพยายามผลักดันตลาดให้กลับมาขยายตัวอย่างเต็มที่ โดย 3 สมาคม อสังหาฯ ซึ่งประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย หวังว่าการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้ง 47 นี้ ซึ่งจะมีการออกแคมเปญและโปรโมชันมากมายจากผู้ประกอบการอสังหาฯ มากระตุ้นและเร่งการตัดสินใจลูกค้า

   "แต่การกระตุ้นตลาดในฝั่งเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอจะพลิกฟื้นตลาดกลับมาได้ ดังนั้น 3 สมาคมและผู้ประกอบการ อสังหาฯ จึงเห็นว่า รัฐบาลควรเป็นอีกแรงที่เข้ามาช่วยผลักดันให้ตลาดฟื้นตัวได้ โดยการออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ด้วยการจ่ายยาเร็วและยาแรงจากนโยบายการเงินและการคลังพร้อมกัน จากความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนและช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯไทย โดยนโยบายการเงิน จากธนาคารแห่งประเทศไทย ขอให้ปลดล็อกมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราว ในทุกระดับราคาในทุกหลังที่ซื้อ และให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด"

    ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายการคลัง ขอให้สานต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาฯ จาก 1% เหลือ 0.01% ในระดับราคา ไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด ก่อนวันที่ 20 มีนาคม 2568 นี้ ที่จะเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 จะเริ่มขึ้น ซึ่งหากทำได้ เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยทำให้มีคนหันมาซื้อบ้านเพิ่มขึ้น และส่งให้ภาคอสังหาฯ ไทยฟื้นตัวได้

    "การประกาศว่าจะออกมาตรการกระตุ้น แต่ยังไม่กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน จะทำให้ผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อบ้านชะลอการซื้อออกไป เพื่อรอโบนัสจากรัฐบาล หากประกาศใช้มาตรการก่อนงานมหกรรมบ้านฯ จะกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจในช่วงงาน มากขึ้น เพราะผู้บริโภคนอกจากจะได้ประโยชน์จากมาตรการแล้วยังได้ส่วนลดและโปรโมชันดีๆ ในงานซึ่งจะเร่งการตรัดสินใจซื้อได้มากขึ้น และที่สำคัญงานนี้จะเป็นดัชนีชีวัดว่าตลาดปี 68 ปีจะฟื้นหรือไม่ฟื้นได้อย่างชัดเจน"

    นายพรนริศ ชวนไชสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า แม้ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้ว 2 ครั้ง โดยลดลง 0.50% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายคงเหลือ 2.0% แต่กลับพบว่า ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง มีการส่งต่อการลดดอกเบี้ยมาให้ผู้กู้ไม่เต็มจำนวน โดยลดดอกเบี้ยสูงสุดเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

    "สิ่งที่ภาคอสังหาฯ อยากเห็น คือ ภาพที่ธนาคารพาณิชย์ ส่งต่อดอกเบี้ยที่แท้จริงให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเภทดอกเบี้ย MRR กับ MLR ให้มากที่สุด รวมถึงอยากขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำกับดูแลแบงก์พาณิชย์ ให้ปฏิบัติตามแนวทางการปรับลดดอกเบี้ยลงตามนโยบายของ กนง. ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง"

    ด้าน ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและ คอนโด ครั้งที่ 47 กล่าวว่า กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2568 เปิดเผยว่า สามสมาคมผู้จัดงาน ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในปีนี้ 3 สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายในงาน 4,000 ล้านบาท จากการเข้าร่วมออกบูทในงานของผู้ประกอบการอสังหาฯ 200 บริษัท ซึ่งได้นำโครงการบ้านและคอนโดไม่ต่ำกว่า 1,000 โครงการร่วมออกบูท ครอบคลุมทุกทำเลทั่วประเทศไทย และครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่ต่ำล้านไปจนถึงหลังละ 100 ล้านบาทขึ้นไป ไฮไลต์สำหรับผู้ที่จองซื้อในงาน รับสิทธิลุ้นรับโปรโมชันพิเศษ ส่วนลด และของรางวัล รวมมูลค่า 800,000 บาท