ส่องตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุ มาตรการรัฐ E-Receipt หนุนกำลังซื้อ Q1/68
วันที่ : 20 มกราคม 2568
DRT กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาประเมินตลาดวัสดุในภาพรวมหดตัว -10% เทรนด์ปีงูเล็กคาดว่าตลาดรวม จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รัฐ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รองรับการขยายตัวของเมือง ตลอดจนความต้องการใช้วัสดุเพื่อการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน
ตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งที่ประเมินกันว่ามีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่าปีละ 2-3 แสนล้านบาท ยังคงเต็มไปด้วยความคึกคักทั้งการลงทุนใหม่และการช่วงชิงกำลังซื้อลูกค้า
เหตุผลหลักเป็นเพราะพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 2-3 กลุ่ม มีส่วนผสมมาจาก 1.กำลังซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ 2.กำลังซื้อจากเจ้าของบ้านที่ซื้อต่อเติม ซ่อมแซม ของเดิม และ 3.พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าต่างจังหวัด ที่ไม่ได้สร้างบ้านเสร็จพร้อมกันทั้งหลัง แต่ทยอยสร้าง ทยอยต่อเติมทีละส่วน เช่น ต่อเติมห้องให้พ่อแม่สูงอายุ เพิ่มห้องลูกน้อยเกิดใหม่ สร้างห้องน้ำใหม่ทดแทนห้องเก่า เป็นต้น
นำมาสู่บรรยากาศการแข่งขันเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นปี 2568 ทั้งช่องทางจำหน่ายผ่านโชว์รูมขนาดใหญ่ การลงทุนเพิ่มให้สาขาย่อยมีรูปโฉมทันสมัยมากขึ้น และช่องทางขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยไตรมาส 1/68 มีตัวช่วย จากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร มีมาตรการ กระตุ้นกำลังซื้อ "Easy E-Receipt 2.0" ที่เปิดให้ประชาชนนำยอดซื้อสินค้าหรือบริการมาหักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 50,000 บาท ช่วงระหว่าง 16 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
E-Receipt กระตุ้นกำลังซื้อต้นปี
เปิดประเด็นกันด้วยเทรนด์ปี 2568 "อนุพงศ์ ทะสดวก" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc แพลตฟอร์มออนไลน์สินค้าและบริการเรื่องบ้านที่กำลังมาแรงแห่งยุคระบุว่า ปีนี้ตลาดตกแต่งบ้านในไทยมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น อาจแตะมูลค่า 10,300 ล้านบาท
โดยปีนี้สีโทนน้ำตาลอมชมพู หรือ Mocha Mousse มาแรง รวมถึงสีเอิร์ทโทน สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับเทรนด์การตกแต่งบ้านอย่าง Scandinavian, Japandi และ Minimal
ยังมีเทรนด์การตกแต่งเฉพาะบุคคล หรือ Personalized ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถสะท้อนตัวตน รสนิยม ไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เทรนด์การใช้เทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัย หรือ Smart Home Technology เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเพียงคลิกเดียว เช่น ระบบสวิตช์ไฟอัตโนมัติ สั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอป ระบบ Smart Lock ตลอดจนระบบผู้ช่วยส่วนตัวในรูปแบบ AI ที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานผ่านเสียงเพื่อให้จัดการสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน เป็นต้น
"จากการเก็บข้อมูลของ NocNoc พบว่า สไตล์ที่ใช่สำหรับคนไทยในปีนี้ การแต่งบ้านสไตล์ Japandi มีสัดส่วน 25% สไตล์ Scandinavian 23% และ Industrial 20%"
ในด้านกิจกรรมด้านการตลาดเพื่อขานรับ Easy E-Receipt 2.0 มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษมอบส่วนลดสูงสุด 70% และ On Top ด้วยคูปองส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ผ่อน 0% 6 เดือน ฯลฯ ทั้งช่องทางการ ซื้อบนเว็บไซต์ และบนแอป NocNoc
"Easy E-Receipt 2.0 น่าจะส่งผลกระทบ เชิงบวกให้กับการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปีนี้ โดยเฉพาะการซื้อขายออนไลน์ทั้งบนเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่สามารถออก E-Receipt ได้ทันที จึงเป็น การลดขั้นตอนให้กับผู้ขาย ลดความยุ่งยาก ในการจัดเก็บเอกสาร ทำให้เกิดการจัดการ ระบบภาษีที่ดีขึ้น และยังช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงคืนกำไรให้แก่ผู้ซื้อ โดยจากการคาดการณ์ของกรมสรรพากร คาดว่าโครงการนี้จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 ล้านบาท"
โมเดิร์นเทรดลงทุนระดับอำเภอ
ถัดมา "สาธิต สุดบรรทัด" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาประเมินตลาดวัสดุในภาพรวมหดตัว -10% เทรนด์ปีงูเล็กคาดว่าตลาดรวม จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รัฐ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รองรับการขยายตัวของเมือง ตลอดจนความต้องการใช้วัสดุเพื่อการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน
สำหรับกลยุทธ์การแข่งขัน ตราเพชร โฟกัสทำการตลาดเชิงรุก นำเสนอสินค้าพร้อมบริการ Diamond Solutions ผ่าน ช่องทางจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายภายใต้กลยุทธ์ "สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง" เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาที่เข้าถึงได้
ลุยสาขา 88 ไทวัสดุ กาฬสินธุ์
หนึ่งในเมกะเพลเยอร์ค่ายไทวัสดุ "สุทธิสาร จิราธิวัฒน์" ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวว่า ไทวัสดุยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตธุรกิจผ่านกลยุทธ์การขยายสาขา เน้นทำเลหัวเมืองเศรษฐกิจหลัก และกลุ่มเมืองรอง เติมเต็มความต้องการภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยเปิดสาขาใหม่ของปีนี้และเป็นสาขาที่ 88 "ไทวัสดุ กาฬสินธุ์" รองรับกำลังซื้อครอบคลุมโซนภาคอีสานตอนกลาง บนพื้นที่สโตร์ 18,000 ตร.ม. ใช้งบฯลงทุน 340 ล้านบาท พร้อมกับจุดขายในเรื่องการให้บริการครบวงจรในที่เดียว
โดยดำเนินงานภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Top of Mind ตอบโจทย์ทุกความต้องการวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน นำเสนอสินค้ากว่า 40,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้าก่อสร้าง ตกแต่ง ซ่อมแซม อาทิ ปูนซีเมนต์ เหล็ก กระเบื้อง สีทาอาคาร เครื่องมือและอุปกรณ์งานช่าง วัสดุโครงสร้าง และสินค้าเพื่อบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า
2.ชูทำเลยุทธศาสตร์เชื่อมต่อทุกดีมานด์ของอีสานตอนกลาง ที่ตั้ง ไทวัสดุ กาฬสินธุ์ ปักหมุดบนทำเลศักยภาพสูงใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณ แยกบ้านหามแห-โพนทอง ริมถนนหลวง หมายเลข 299 เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกาฬสินธุ์ มุกดาหาร และจังหวัดอื่น ๆ รองรับการพัฒนาในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หรือ EWEC ประตูการค้าการลงทุนไทยกับเมียนมา ลาว เวียดนาม ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและเจ้าของบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
3.เติมเต็มความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดกาฬสินธุ์ มีแนวโน้มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GPP (เทียบเท่าจีดีพีของจังหวัด) เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2565 มี GPP อยู่ที่ 65,764 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อคนต่อปี 83,907 บาท
นอกจากนี้ ไทวัสดุยังร่วมกับพันธมิตรผู้ร่วมค้าในการบริจาคเงินให้แก่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สอดคล้องกับปรัชญา CRC Care ของเซ็นทรัล รีเทล ในด้าน Care For The Community ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาชุมชน ผ่านการยกระดับสาธารณสุขของคนในพื้นที่
CCP ชู G-Block อิฐกู้โลกเดือด
เทรนด์ ESG ก็มา โดย "อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT พัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้เทคโนโลยีแปลงสภาพก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เกิดประโยชน์ในกระบวนการบ่มคอนกรีต ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ "G-Block อิฐกู้โลกเดือด" สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 1.8-3.1 กิโลกรัม CO ต่อตารางเมตร 2
"เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และเราหวังว่า ผลิตภัณฑ์ G-Block จะได้รับการตอบรับ ที่ดีจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ"
เหตุผลหลักเป็นเพราะพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 2-3 กลุ่ม มีส่วนผสมมาจาก 1.กำลังซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ 2.กำลังซื้อจากเจ้าของบ้านที่ซื้อต่อเติม ซ่อมแซม ของเดิม และ 3.พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าต่างจังหวัด ที่ไม่ได้สร้างบ้านเสร็จพร้อมกันทั้งหลัง แต่ทยอยสร้าง ทยอยต่อเติมทีละส่วน เช่น ต่อเติมห้องให้พ่อแม่สูงอายุ เพิ่มห้องลูกน้อยเกิดใหม่ สร้างห้องน้ำใหม่ทดแทนห้องเก่า เป็นต้น
นำมาสู่บรรยากาศการแข่งขันเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นปี 2568 ทั้งช่องทางจำหน่ายผ่านโชว์รูมขนาดใหญ่ การลงทุนเพิ่มให้สาขาย่อยมีรูปโฉมทันสมัยมากขึ้น และช่องทางขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยไตรมาส 1/68 มีตัวช่วย จากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร มีมาตรการ กระตุ้นกำลังซื้อ "Easy E-Receipt 2.0" ที่เปิดให้ประชาชนนำยอดซื้อสินค้าหรือบริการมาหักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 50,000 บาท ช่วงระหว่าง 16 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
E-Receipt กระตุ้นกำลังซื้อต้นปี
เปิดประเด็นกันด้วยเทรนด์ปี 2568 "อนุพงศ์ ทะสดวก" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc แพลตฟอร์มออนไลน์สินค้าและบริการเรื่องบ้านที่กำลังมาแรงแห่งยุคระบุว่า ปีนี้ตลาดตกแต่งบ้านในไทยมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น อาจแตะมูลค่า 10,300 ล้านบาท
โดยปีนี้สีโทนน้ำตาลอมชมพู หรือ Mocha Mousse มาแรง รวมถึงสีเอิร์ทโทน สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับเทรนด์การตกแต่งบ้านอย่าง Scandinavian, Japandi และ Minimal
ยังมีเทรนด์การตกแต่งเฉพาะบุคคล หรือ Personalized ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถสะท้อนตัวตน รสนิยม ไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เทรนด์การใช้เทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัย หรือ Smart Home Technology เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเพียงคลิกเดียว เช่น ระบบสวิตช์ไฟอัตโนมัติ สั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอป ระบบ Smart Lock ตลอดจนระบบผู้ช่วยส่วนตัวในรูปแบบ AI ที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานผ่านเสียงเพื่อให้จัดการสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน เป็นต้น
"จากการเก็บข้อมูลของ NocNoc พบว่า สไตล์ที่ใช่สำหรับคนไทยในปีนี้ การแต่งบ้านสไตล์ Japandi มีสัดส่วน 25% สไตล์ Scandinavian 23% และ Industrial 20%"
ในด้านกิจกรรมด้านการตลาดเพื่อขานรับ Easy E-Receipt 2.0 มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษมอบส่วนลดสูงสุด 70% และ On Top ด้วยคูปองส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ผ่อน 0% 6 เดือน ฯลฯ ทั้งช่องทางการ ซื้อบนเว็บไซต์ และบนแอป NocNoc
"Easy E-Receipt 2.0 น่าจะส่งผลกระทบ เชิงบวกให้กับการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปีนี้ โดยเฉพาะการซื้อขายออนไลน์ทั้งบนเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่สามารถออก E-Receipt ได้ทันที จึงเป็น การลดขั้นตอนให้กับผู้ขาย ลดความยุ่งยาก ในการจัดเก็บเอกสาร ทำให้เกิดการจัดการ ระบบภาษีที่ดีขึ้น และยังช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงคืนกำไรให้แก่ผู้ซื้อ โดยจากการคาดการณ์ของกรมสรรพากร คาดว่าโครงการนี้จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 ล้านบาท"
โมเดิร์นเทรดลงทุนระดับอำเภอ
ถัดมา "สาธิต สุดบรรทัด" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาประเมินตลาดวัสดุในภาพรวมหดตัว -10% เทรนด์ปีงูเล็กคาดว่าตลาดรวม จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รัฐ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รองรับการขยายตัวของเมือง ตลอดจนความต้องการใช้วัสดุเพื่อการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน
สำหรับกลยุทธ์การแข่งขัน ตราเพชร โฟกัสทำการตลาดเชิงรุก นำเสนอสินค้าพร้อมบริการ Diamond Solutions ผ่าน ช่องทางจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายภายใต้กลยุทธ์ "สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง" เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาที่เข้าถึงได้
ลุยสาขา 88 ไทวัสดุ กาฬสินธุ์
หนึ่งในเมกะเพลเยอร์ค่ายไทวัสดุ "สุทธิสาร จิราธิวัฒน์" ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวว่า ไทวัสดุยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตธุรกิจผ่านกลยุทธ์การขยายสาขา เน้นทำเลหัวเมืองเศรษฐกิจหลัก และกลุ่มเมืองรอง เติมเต็มความต้องการภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยเปิดสาขาใหม่ของปีนี้และเป็นสาขาที่ 88 "ไทวัสดุ กาฬสินธุ์" รองรับกำลังซื้อครอบคลุมโซนภาคอีสานตอนกลาง บนพื้นที่สโตร์ 18,000 ตร.ม. ใช้งบฯลงทุน 340 ล้านบาท พร้อมกับจุดขายในเรื่องการให้บริการครบวงจรในที่เดียว
โดยดำเนินงานภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Top of Mind ตอบโจทย์ทุกความต้องการวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน นำเสนอสินค้ากว่า 40,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้าก่อสร้าง ตกแต่ง ซ่อมแซม อาทิ ปูนซีเมนต์ เหล็ก กระเบื้อง สีทาอาคาร เครื่องมือและอุปกรณ์งานช่าง วัสดุโครงสร้าง และสินค้าเพื่อบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า
2.ชูทำเลยุทธศาสตร์เชื่อมต่อทุกดีมานด์ของอีสานตอนกลาง ที่ตั้ง ไทวัสดุ กาฬสินธุ์ ปักหมุดบนทำเลศักยภาพสูงใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณ แยกบ้านหามแห-โพนทอง ริมถนนหลวง หมายเลข 299 เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกาฬสินธุ์ มุกดาหาร และจังหวัดอื่น ๆ รองรับการพัฒนาในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หรือ EWEC ประตูการค้าการลงทุนไทยกับเมียนมา ลาว เวียดนาม ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและเจ้าของบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
3.เติมเต็มความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดกาฬสินธุ์ มีแนวโน้มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GPP (เทียบเท่าจีดีพีของจังหวัด) เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2565 มี GPP อยู่ที่ 65,764 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อคนต่อปี 83,907 บาท
นอกจากนี้ ไทวัสดุยังร่วมกับพันธมิตรผู้ร่วมค้าในการบริจาคเงินให้แก่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สอดคล้องกับปรัชญา CRC Care ของเซ็นทรัล รีเทล ในด้าน Care For The Community ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาชุมชน ผ่านการยกระดับสาธารณสุขของคนในพื้นที่
CCP ชู G-Block อิฐกู้โลกเดือด
เทรนด์ ESG ก็มา โดย "อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT พัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้เทคโนโลยีแปลงสภาพก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เกิดประโยชน์ในกระบวนการบ่มคอนกรีต ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ "G-Block อิฐกู้โลกเดือด" สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 1.8-3.1 กิโลกรัม CO ต่อตารางเมตร 2
"เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และเราหวังว่า ผลิตภัณฑ์ G-Block จะได้รับการตอบรับ ที่ดีจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ"
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ