นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลฟ แอนด์ ลีฟวิ่ง จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรีและระยอง อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี และอดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว การส่งออกที่เป็นรายได้หลักอยู่ในภาวะผันผวน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวทั้งระบบ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก ขณะที่หลายประเทศเกิดภาวะสงคราม ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลไทยจะพิจารณาเรื่องการเปิดให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ เน้นว่าต้องเป็นโครงการบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรอย่างถูกต้อง และโฉนดที่ดินต้องตีตราว่าอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรเท่านั้น และห้ามคนต่างชาติเหล่านี้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ทั้งนี้ หากนโยบายนี้ออกมา เงินจะสะพัดเข้ามามหาศาล จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ เกิดการจ้างงาน บ้านจัดสรร วัสดุก่อสร้างขายได้ เงินสะพัดช่วยฟ้นเศรษฐกิจได้ทุกระดับ

    "ยิ่งตอนนี้สงครามความขัดแย้งในระดับภูมิภาค คนต่างชาติอยู่ในภาวะหนีสงคราม ต้องการย้ายประเทศหาที่อยู่ใหม่ ถ้าเราเปิดสื่อออกไปว่าประเทศไทยยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยสงครามมาอยู่ เพื่อความสุขในระยะยาว ประเทศไทยไม่มีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ ขณะเดียวกันเน้นว่า บ้านที่จะขายต้องมีใบอนุญาตจัดสรร เพราะหากให้ต่างชาติไปซื้อบ้านและที่ดินที่ไม่ได้รับการจัดสรร การจะไปไล่ตามจับคนต่างชาติที่มาแอบทำธุรกิจมาแย่งอาชีพคนไทยลำบาก อย่างไรก็ตาม คำนวณว่า หากรัฐบาลสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาซื้อ ที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ จำนวน 1 แสนหลัง ที่ดินหายไป 0.3-0.4% ของทั้งประเทศ แต่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ขยับขึ้น 2.5-4% หากนำรายได้จากการบริโภคของคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ผมว่า ประเทศไทยฟ้นทันที

    ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยพึ่งกำลังซื้อของต่างชาติมาตลอดเวลาจากการส่งออกสินค้า พอการส่งออกเริ่มผันผวนไป ก็ต้องพึ่งรายได้จากทางอื่น เช่น รายได้จากการท่องเที่ยว ขณะที่การท่องเที่ยวของเราไม่ได้มีการพัฒนาเรื่องศักยภาพการท่องเที่ยวเพิ่มเติม และที่ผ่านมายังประสบปัญหามีการแย่งตัดราคากันเอง มีทัวร์ศูนย์เหรียญเข้ามา ทำให้ภาวะการท่องเที่ยวซบเซา ผมได้คุยกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม บอกว่า ช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ปรับราคาเพิ่มเลย เพราะเพิ่มไม่ได้ และลูกค้าก็น้อยลง" นายมีศักดิ์กล่าว

    นายมีศักดิ์กล่าวต่อไปว่า คนต่างชาติที่มาประเทศไทยเป็นคนระดับกลาง ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่คนระดับกลางถือเป็น กลุ่มคนจำนวนมาก และหลายประเทศมีสวัสดิการดูแลสุขภาพ ดังนั้น หากมี นโยบายเชื่อมโยงระบบประกันสุขภาพให้คนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลไม่ต้องเสียเงิน โดยไปตัดบัญชีประกันสุขภาพของประเทศต้นทางได้ คนต่างชาติจะมากันเต็มไปหมด จะเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพเกิดขึ้น รองรับคนต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในประเทศเพิ่มขึ้น

    นายมีศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับนโยบายการให้ต่างชาติมาเช่าที่ดิน และเช่าอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปในระยะยาว 90 ปี ตามที่รัฐบาลในอดีตเคยมีนโยบาย ควรให้คนต่างชาติซื้อบ้านขายขาดไปเลยดีกว่า เพราะการปล่อยให้คนต่างชาติมาเช่าที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ระยะยาว จะทำให้ธุรกิจสีเทา ๆ ที่นอมินีกันอยู่จะแปลงร่างมาสู่ธุรกิจที่ถูกกฎหมายทันที ประเทศไทยจะกลายเป็นเสียเปรียบ ธุรกิจจะถูกครอบงำโดยชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างโรงแรมที่ขาดทุนตอนนี้ มีคนต่างชาติโดยเฉพาะทุนจีนมากว้านซื้อ ทำสัญญาเช่า 90 ปีแทบไม่แตกต่างกับการซื้อกิจการ คนไทยจะลำบาก ธุรกิจทั้งหลายของคนไทยตกเป็นของคนจีนไปหมด

    "ถ้าจะเช่าควรจะเป็นที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรร ที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรอย่างถูกต้อง ถ้าไม่มีใบอนุญาตจัดสรรไม่ควรอนุญาต เพราะจะไปไล่ตามจับคนต่างชาติที่มาซื้อบ้านไม่ได้ว่า มีการแอบทำธุรกิจหรือไม่ มาแย่งอาชีพคนไทยหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นการซ้ำเติม มาแย่งอาชีพคนไทย หรือหากให้ไปเช่าที่ดิน และปลูกบ้านเอง วันหนึ่งไปทำธุรกิจไม่มีใครไปตามจับได้ แต่ถ้าทำธุรกิจในบ้านจัดสรร นิติบุคคลไม่ยอม"