ตลาด 'อสังหาหาดใหญ่' 4 หมื่นล้านวิกฤต
วันที่ : 27 พฤศจิกายน 2568
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในขณะนี้กระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่มาก พอสมควร แต่เป็นแค่ชั่วคราว ที่ลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อ
น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 25 ปีฉุด 'กำลังซื้อชะลอ' เปิดทำเลเสี่ยงแนะออกแบบโครงสร้างเพิ่ม
วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ สะเทือนตลาดอสังหาฯ 4 หมื่นล้าน ลูกค้าชะลอซื้อขายชั่วคราว 'คอลลิเออร์สฯ' แนะเลี่ยงพัฒนาพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเมือง รอบชานเมือง ออกแบบโครงสร้าง ยกพื้นสูง ปรับปรุงระบบระบายน้ำ ใช้วัสดุทนน้ำรับมือ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในขณะนี้กระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่มาก พอสมควร แต่เป็นแค่ชั่วคราว ที่ลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังเหตุการณ์คลี่คลายกำลังซื้อน่าจะกลับมา แต่โจทย์ใหญ่ของตลาดอสังหาฯโดยรวมคือ การถูกปฏิเสธสินเชื่อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 25 ปีในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ส่งผลโดยตรงต่อตลาดอสังหาฯหาดใหญ่ โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 128 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 41,560 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 116 โครงการ รวม 6,735 ยูนิต มูลค่าลงทุน 29,807 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวมากสุด 2,949 ยูนิต คิดเป็น 43.7% ทาวน์เฮาส์ 1,644 ยูนิต คิดเป็น 24.4% บ้านแฝด 1,411 ยูนิต คิดเป็น 20.9% พบว่าอุปทานที่อยู่ระหว่างการขาย 6,735 ยูนิต มียอดขายแล้ว 4,760 ยูนิต คิดเป็น 70.7% มีอุปทานรอการขายแค่ 1,975 ยูนิต คิดเป็น 29.3% โดยอัตราการขายอาคารพาณิชย์สูงสุด ตามด้วยทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ส่วนคอนโดมิเนียมมี 12 โครงการ รวม 4,369 ยูนิต มูลค่าลงทุน 11,753 ล้านบาท จากน้ำท่วม พบว่าบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมได้รับผล กระทบชัดเจน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุนที่ซื้อปล่อยเช่า
นายภัทรชัยกล่าวว่า จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในหาดใหญ่ ส่วนใหญ่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่และรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกรุงเทพฯ ซึ่งยังคงสนใจและมองเห็นศักยภาพของหาดใหญ่ในฐานะเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนบน สะท้อน ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนที่ยังคงเปิดกว้าง และเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความมั่นคงของตลาดที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในระยะกลางถึงยาว ทำให้หาดใหญ่ยังคงเป็นหนึ่งในทำเลที่นักลงทุนและ ผู้พัฒนารายใหญ่ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ แผนพัฒนาอสังหาฯในอนาคต ต้องพิจารณาการออกแบบโครงสร้างที่สามารถรับมือกับน้ำท่วม เช่น การยกพื้นชั้นล่าง การปรับปรุงระบบระบายน้ำ และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ทนต่อน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายซ้ำซ้อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตัวเมืองและรอบชานเมือง เช่น บ้านพรุและหาดใหญ่ใน ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมสูง ดังนั้น การพัฒนาอสังหาฯในพื้นที่เหล่านี้ ควรระมัดระวังและใช้แนวทางป้องกันน้ำท่วมอย่างรอบด้าน ส่วนพื้นที่สูงหรือเนินเขาเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม แต่ควรพิจารณาการเข้าถึงและระบบสาธารณูปโภคอย่างรอบคอบ แม้ว่าน้ำท่วมจะสร้างความเสียหาย แต่โอกาสสำหรับผู้พัฒนายังเปิดกว้าง ตลาดอสังหาฯในหาดใหญ่ยังคงมีความต้องการสูง
วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ สะเทือนตลาดอสังหาฯ 4 หมื่นล้าน ลูกค้าชะลอซื้อขายชั่วคราว 'คอลลิเออร์สฯ' แนะเลี่ยงพัฒนาพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเมือง รอบชานเมือง ออกแบบโครงสร้าง ยกพื้นสูง ปรับปรุงระบบระบายน้ำ ใช้วัสดุทนน้ำรับมือ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในขณะนี้กระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่มาก พอสมควร แต่เป็นแค่ชั่วคราว ที่ลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังเหตุการณ์คลี่คลายกำลังซื้อน่าจะกลับมา แต่โจทย์ใหญ่ของตลาดอสังหาฯโดยรวมคือ การถูกปฏิเสธสินเชื่อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 25 ปีในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ส่งผลโดยตรงต่อตลาดอสังหาฯหาดใหญ่ โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 128 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 41,560 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 116 โครงการ รวม 6,735 ยูนิต มูลค่าลงทุน 29,807 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวมากสุด 2,949 ยูนิต คิดเป็น 43.7% ทาวน์เฮาส์ 1,644 ยูนิต คิดเป็น 24.4% บ้านแฝด 1,411 ยูนิต คิดเป็น 20.9% พบว่าอุปทานที่อยู่ระหว่างการขาย 6,735 ยูนิต มียอดขายแล้ว 4,760 ยูนิต คิดเป็น 70.7% มีอุปทานรอการขายแค่ 1,975 ยูนิต คิดเป็น 29.3% โดยอัตราการขายอาคารพาณิชย์สูงสุด ตามด้วยทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ส่วนคอนโดมิเนียมมี 12 โครงการ รวม 4,369 ยูนิต มูลค่าลงทุน 11,753 ล้านบาท จากน้ำท่วม พบว่าบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมได้รับผล กระทบชัดเจน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุนที่ซื้อปล่อยเช่า
นายภัทรชัยกล่าวว่า จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในหาดใหญ่ ส่วนใหญ่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่และรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกรุงเทพฯ ซึ่งยังคงสนใจและมองเห็นศักยภาพของหาดใหญ่ในฐานะเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนบน สะท้อน ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนที่ยังคงเปิดกว้าง และเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความมั่นคงของตลาดที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในระยะกลางถึงยาว ทำให้หาดใหญ่ยังคงเป็นหนึ่งในทำเลที่นักลงทุนและ ผู้พัฒนารายใหญ่ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ แผนพัฒนาอสังหาฯในอนาคต ต้องพิจารณาการออกแบบโครงสร้างที่สามารถรับมือกับน้ำท่วม เช่น การยกพื้นชั้นล่าง การปรับปรุงระบบระบายน้ำ และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ทนต่อน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายซ้ำซ้อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตัวเมืองและรอบชานเมือง เช่น บ้านพรุและหาดใหญ่ใน ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมสูง ดังนั้น การพัฒนาอสังหาฯในพื้นที่เหล่านี้ ควรระมัดระวังและใช้แนวทางป้องกันน้ำท่วมอย่างรอบด้าน ส่วนพื้นที่สูงหรือเนินเขาเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม แต่ควรพิจารณาการเข้าถึงและระบบสาธารณูปโภคอย่างรอบคอบ แม้ว่าน้ำท่วมจะสร้างความเสียหาย แต่โอกาสสำหรับผู้พัฒนายังเปิดกว้าง ตลาดอสังหาฯในหาดใหญ่ยังคงมีความต้องการสูง
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ
