SCคาดQ4ดีกว่าQ3รับไฮซีซั่นเล็งเปิด3โครงการ4.2พันล้าน
Loading

SC คาดQ4ดีกว่าQ3 รับไฮซีซั่นเล็งเปิด3โครงการ4.2พันล้าน

วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2567
SC เผยว่า ไตรมาส 4/2567 เป็นไตรมาสที่มีลูกค้ารอตัดสินใจซื้อบ้านเป็นจำนวนมาก เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเหล่าผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญและทำโปรโมชันที่ดีสุดส่งท้ายปีเพื่อปิดยอดปี
    
      “เอสซี” คาดไตรมาส 4/67 ดีกว่าไตรมาส 3 รับไฮซีซั่นธุรกิจ ล่าสุดกวาดยอดขายงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 แล้ว 1,000 ล้านบาท หนุนยอดขายสะสม 80% ของเป้าปีนี้ 32,000 ล้านบาท ส่งแคมเปญใหญ่กระตุ้นยอดขายท้ายปี “SC Asset’s Heaven” @Siam Paragon ตั้งเป้ายอดขาย 2,000 ล้านบาท เตรียมเปิดแนวราบ 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท

     นายณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาดบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ภาพรวมของสถานการณ์ในช่วงไตรมาส 4/2567 จะเป็นช่วงที่ดีสำหรับลูกค้าที่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งเห็นได้จากยอดขาย (Presale) ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ในช่วงที่ผ่านมา ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดย SC สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท

    ขณะที่ล่าสุดบริษัทมียอดขายสะสมประมาณ 80% ของเป้าหมายปี 2567 ที่ตั้งไว้ 32,000 ล้านบาท และล่าสุด SC ได้กระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “SC Asset’s Heaven” @Siam Paragon โดยขนทัพบ้าน-คอนโดมิเนียม 80 โครงการ จัดโปรพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 10 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-11 พฤศจิกายน 2567 ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน โดยวางเป้าหมายยอดขายในช่วง 11 วัน (ตั้งแต่วันที่ 7-17 พฤศจิกายน 2567) ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท

    “ไตรมาส 4/2567 เป็นไตรมาสที่มีลูกค้ารอตัดสินใจซื้อบ้านเป็นจำนวนมาก เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเหล่าผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญและทำโปรโมชันที่ดีสุดส่งท้ายปีเพื่อปิดยอดปี ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2567 ยอดขายของ SC มีการชะลอตัว แต่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 และดีมากขึ้นในไตรมาสที่ 3/2567 และเป็นไตรมาสที่ดีกว่าปีก่อนด้วยซ้ำ เราคาดหวังว่าในไตรมาส 4/2567 จะดีกว่าไตรมาส 3/2567 ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี” นายณัฏฐกิตติ์ กล่าว

    ส่วนดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง SC มองว่ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แต่ลูกค้าของ SC เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ เป็นลูกค้าตลาดบน ซึ่งมีหนี้ครัวเรือนที่อาจจะยังน้อยมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนมาตรการ LTV หากมีการยกเลิกชั่วคราวจะมีผลดีต่อ SC อย่างมาก ทั้งนี้ บริษัทมองว่าในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนไม่ได้มีมากนัก การซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 เป็นการขยายครอบครัว เพราะครอบครัวใหญ่ขึ้น และการที่ลูกค้าใช้เงินดาวน์น้อยลงจะเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวลูกค้าเองด้วย

    นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2567 SC ได้เปิดโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 15 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Reference ทำเลเอกมัย และเกษตร

    โดยล่าสุด SC พร้อมเปิดตัว 3 โครงการแนวราบใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 4,200 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 2 มูลค่า 900 ล้านบาท จำนวน 51 ยูนิต ราคาเริ่มตั้งแต่ 16.9-25 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดจองวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 นี้ และโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 2 มูลค่าประมาณ 1,100 ล้านบาท บ้านหรูสไตล์ “LUXURY NORDIC-Series” จำนวน 30 ยูนิต ราคาเริ่มตั้งแต่ 27.9-40 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดจองในวันที่ 21 ธันวาคม 2567  นอกจากนี้ บริษัทจะเปิดขายโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 มูลค่า 2,400 ล้านบาท จำนวน 46 ยูนิต ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ด้วย โดยวางเป้าหมายยอดขายภายในปี 2567 ที่ 500 ล้านบาท
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ