SA มองรัฐบาลจ่อคลอดมาตรการกระตุ้นอสังหา ส่งผู้บริโภค กำลังซื้อเพิ่ม หวังแบงก์ผ่อนคลายเข้มปล่อยกู้หนุนด้วย ขณะที่มั่นใจงบไตรมาส 4/2567 ไต่จุดสูงสุด เป้ารายได้ รวมปีนี้คาดโตอย่างน้อยเท่าตัว และปี 2568 ยังไปต่อ เผยมียอด Backlog ตุนแล้ว 3 พันล้านบาท ต้นปีหน้าเปิด 2 โครงการใหม่รวม 1 หมื่นล้านบาท

    นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิสแอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมถึงต่อยอดบริการด้านโรงแรม ร้านอาหาร สุขภาพ เปิดเผยว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมพิจารณามาตรการสินเชื่อ ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง บ้าน-คอนโด ดอกเบี้ยต่ำ รวมไปถึงที่ภาครัฐบาลมีความพยายามผลักดันมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์อื่นเช่น ต่ออายุมาตรการการโอน การจดจำนอง รวมไปถึงการหาแนวทางผ่อนคลายมาตรการ LTV (อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้าน) นั้น

    ภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากกำลังซื้อผู้บริโภคชาวไทย ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้นหากมาตราการต่างๆ ข้างต้นได้รับการเห็นชอบแล้ว ในขณะที่ดอกเบี้ยขาลงเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยเพิ่มความสามารถของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในขณะนี้คือปัญหาธนาคารยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งนี้คาดหวังให้ธนาคารผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน

    สำหรับ SA มีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างประเทศ จึงอาจไม่ได้รับผลบวกจากมาตรการต่างๆ ที่คาดจะออกมาได้มากเท่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยเป็นหลัก อย่างไรก็ตามผลประกอบการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยระดับบนที่มีสูงและบริษัทมีสินค้าที่ตอบโจทย์ตรงจุด

    ปลายปียอดโอนขาขึ้น

    บริษัทมั่นใจแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2567 เป็นไปตามเป้าหมาย จากยอดการโอนในไตรมาสที่ 4 ดีกว่าไตรมาส 3 และดีกว่าทุกช่วงของปี โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่พระราม 9 ที่อยู่ในช่วงการโอนในระยะนี้ อีกทั้งยอดขายก็ยังเพิ่มขึ้นด้วย

    ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน หรือ Backlog ราว 3,000 ล้านบาท ส่วนมากจะรับรู้รายได้ในปีหน้า ทำให้มั่นใจได้ว่าปี 2568 รายได้บริษัทจะเติบโตอีกอย่างชัดเจน แต่อัตราอาจไม่ได้ก้าวกระโดดระดับ 2 เท่าแบบการโตของปี 2567 นี้

    "เป้าหมายการเติบโตของเราได้ปีนี้เราวางไว้เท่าตัวหรือมากกว่า และปีหน้าก็จะโตต่อ สมมติถ้าปีนี้ทำได้ 5,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย ปีหน้าก็น่าจะได้สัก 6,000 ล้านบาท คงไม่ได้กระโดดเยอะ"

     ต้นปี 68 เปิด 2 โครงการ

     แผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อยู่ระหว่างพิจารณา แต่โดยเบื้องต้นคาดจะมีการเปิดขายเพิ่ม 2 โครงการใหม่ต้นปี 2568 รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยมั่นใจลูกค้าจะตอบรับอย่างดี นอกจากนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศ เสนอขายหุ้นกู้จำนวน 3 ชุด แบบมีประกันและไม่มีประกัน อายุระหว่าง 1 ปี 1 เดือน - 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 7.00% ถึง 7.50% ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน

    โดยถือว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้อย่างมาก เนื่องจาก หุ้นกู้แทบจะหมดแล้วภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หุ้นกู้รุ่นที่ 2 และ 3 น่าจะหมดแล้ว เหลือเพียงรุ่นที่ 1 เท่านั้น แม้ว่ากำหนดชำระเงินจะอยู่ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 แต่ขณะนี้มีผู้ติดต่อจองเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคม 2568 อีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท