เอฟเฟ็กต์พิษเศรษฐกิจ-หนี้ครัวเรือน

    รื้อแผนเบรกคอนโด-บ้านต่ำ10ล้าน

    นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น หนี้ครัวเรือน หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวสูง ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีอิทธิพลต่อนโยบายภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯต้องปรับตัวให้รับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่งผลมีเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลสะสม 8 เดือนแรกปี 2567 ลดลง โดยเปิดตัว 225 โครงการ จำนวน 39,051 หน่วย ลดลง 36% มูลค่า 257,823 ล้านบาท ลดลง 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากกำลังซื้อชะลอตัว ผู้ประกอบการจึงชะลอเปิดตัวโครงการในไตรมาส 3 โดยเฉพาะอาคารชุดและบ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่บ้านพรีเมียมยังเติบโตต่อเนื่อง

    "อาคารชุดมีเปิด 40 โครงการ ลดลง 29% จำนวน 14,517 หน่วย ลดลง 51% มูลค่า 70,428 ล้านบาท ลดลง 14% มีเปิดใหม่ 56 โครงการ 29,601 หน่วย มูลค่า 81,457 ล้านบาท ขณะที่ราคายังคงสูงขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.85 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 76% เป็นผลจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่มีมูลค่าต่อหน่วยสูงขึ้น เลี่ยงกลุ่มเสี่ยงกู้แบงก์ไม่ผ่าน ส่วนทำเลเปิดตัวสูงสุดอยู่รามคำแหง เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดกับสายสีส้ม" นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว

    นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตลาดบ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีเปิดตัวทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าลดลง โดยเปิดใหม่ 121 โครงการลดลง 18% จำนวน 20,067 หน่วย ลดลง 51% มูลค่า 88,180 ล้านบาท ลดลง 14% เพราะความต้องการผู้บริโภคเริ่มชะลอตัว โดยทาวน์เฮาส์เปิดมากสุด 52% บ้านเดี่ยว 28% บ้านแฝด 20% โดยไตรมาส 3 เปิดตัวสูงสุดทำเลพระราม 2 แต่มีหน่วยขายได้สะสมสูงสุดเพชรเกษม ขณะที่ตลาดบ้านพรีเมียมแม้มีความท้าทายภาวะเศรษฐกิจ ยังเติบโตหลังผู้ประกอบการปรับตัวให้ตอบสนองกับความต้องการผู้บริโภคกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลทำให้มีเปิดตัว 69 โครงการ เพิ่มขึ้น 15% จำนวน 4,467 หน่วย เพิ่มขึ้น 14% มูลค่า 99,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% แต่กำลังซื้อเริ่มชะลอตัว โดยบ้านเดี่ยวมีเปิดถึง 90% ราคามากกว่า 20 ล้านบาท ยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเพราะราคาที่ดินสูงและหายากมากขึ้น ซึ่งไตรมาส 3 เปิดมากสุดทำเลบรมราชชนนี แต่มีหน่วยขายได้สะสมสูงสุดทำเล วัชรพล

    "ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ อสังหาฯ ยังเผชิญแรงกดดันหลายปัจจัยเสี่ยง ทำให้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่กรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งปี 2567 เติบโตลดลง ทั้งจำนวนหน่วยลดลง 20-40% มูลค่าลดลง 10-30% คาดว่าจะมีเปิดตัว 59,000-79,000 หน่วย มูลค่า 380,000-489,000 ล้านบาท แม้มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯจากรัฐ สำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการรวมถึงผู้บริโภคเองยังคงต้องระมัดระวังจากปัจจัยเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน" นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว