นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมในหลายจังหวัด ธนาคารได้ออกชุดมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล ทั้งพักหนี้ ลดดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อ สำหรับมาตรการพักหนี้โดยให้พักชำระเงินต้นเวลา 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยครึ่งหนึ่ง ส่วนดอกเบี้ยที่เหลืออีกครึ่งธนาคารลดให้เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ทั้งบุคคล และ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท

         ส่วนผู้ประสบภัยที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ฉุกเฉินสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 10,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 15 เดือน โดย 3 เดือนแรกดอกเบี้ยคงที่ 0% ต่อเดือน และปลอดชำระเงินงวดนาน 3 เดือน เปิดให้ยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และสินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัย ให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน ดอกเบี้ยลดพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี

         ด้าน นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.จัดทำ "มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2567" ทั้งสิ้น 7 มาตรการ ที่ครอบคลุมทั้งการลดเงินงวดและดอกเบี้ย รวมถึงการมอบสินไหมเร่งด่วนให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจากการสำรวจมีลูกค้า ธอส.ที่มีหลักประกันในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 24,588 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือกว่า 28,700 ล้านบาท

         โดย ธอส.พร้อมร่วมกับบริษัทพันธมิตรประกันวินาศภัย ประสานงานให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติแล้ว เพื่อให้ได้รับสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษอย่างเต็มที่