นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนพัฒนาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1/2567 มีค่าดัชนี 407.8 จุด เพิ่ม 5.7% เทียบไตรมาสแรกปีก่อนและเพิ่ม 3.5% เทียบไตรมาส 4 ปีก่อน ซึ่งขยายตัวอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีในช่วงก่อนโควิด-19 ที่เฉลี่ยเพิ่ม 14.8% ต่อไตรมาส สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจฟ้นตัวช้า ภาวะหนี้ครัวเรือนสูงเกิน 90% ของจีดีพี และภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลต่อความสามารถซื้อที่อยู่อาศัย รัฐไม่มีมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ความต้องการซื้อที่ดินสะสมในแลนด์แบงก์ของผู้ประกอบการลดลง

         นายวิชัยกล่าวว่า โซนที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โซนนครปฐม ราคามากขึ้น 89.4% โซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ เพิ่ม 13.9% โซนสมุทรสาคร เพิ่ม 12.4% โซนกรุงเทพฯชั้นใน เพิ่ม 10.1% โซนบางเขนสายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่-มีนบุรี-หนองจอกคลองสามวา-ลาดกระบัง เพิ่ม 4.6% ทั้งนี้ ราคาที่ดินที่เปลี่ยนแปลง สะท้อนว่าที่ดินชานเมืองของกรุงเทพฯและปริมณฑล ราคาสูงตามการขยายตัวของเมือง รถไฟฟ้าเพิ่มเส้นทางใหม่และส่วนต่อขยาย ชานเมืองจึงเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกขึ้น ราคาที่ดินชานเมืองไม่สูงมากนัก ขณะที่ที่ดินโซนกรุงเทพฯชั้นใน เป็นการซื้อขายที่ดินแปลงไม่ใหญ่ แต่มีมูลค่าสูงเหมาะกับการพัฒนาโครงการอาคารชุดและเปิดใหม่ขยายตัว 10.8%

         นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับราคาที่ดินเปล่าแนวรถไฟฟ้า 5 อันดับที่ราคาเพิ่มมาก พบว่า สาย สีเขียว สมุทรปราการ-บางปู และสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่ม 13.9% สายสีน้ำเงิน (MRT) และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง เพิ่ม 10.1% สายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-มธ.รังสิต เพิ่ม 9% สายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค, สายสีทองช่วงธนบุรี-ประชาธิปก และสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม เพิ่ม 8.6% สายสีแดงเข้มช่วงหัวลำโพง-มหาชัย เพิ่ม 8.1%