อสังหาฯสงขลา ผุดบ้านแพงราคา 8-10 ล้าน ทำเลรอบหาดใหญ่มาแรง
วันที่ : 27 มีนาคม 2567
นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า "ตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนของปี 2567 การลงทุนอสังหาฯ ส่วนใหญ่ชะลอตัว รอดูสถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจ รอนโยบายภาครัฐ งบประมาณ และนโยบายต่างประเทศ เพราะเป็นเงื่อนไขต่อการลงทุน เมื่อมีการลงทุน หลายคนจะเข้ามา มีการจ้างงานต่าง ๆ และความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยก็จะส่งผลเพิ่มขึ้นตามมา"
อสังหาริมทรัพย์สงขลาแห่ลงทุนบ้านราคาแพง 8-10 ล้าน หลังบ้านระดับราคา 3 ล้านบาทยอดขายฝืด ความต้องการสูง แต่กู้ไม่ผ่าน ด้านสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาเผยยอดขาย "งานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง" ครั้งที่ 13 จัด 4 วันยอดจองยอดสร้างบ้านใหม่ทะลุ 700 ล้านบาท ทำเลรอบนอกอำเภอหาดใหญ่ยังพุ่งแรง ทั้ง ต.ท่าข้าม-ต.บ้านพรุ-ต.หาดใหญ่ต.ควนลัง-ต.คอหงส์-ต.คลองแห
เเหล่งข่าวจากสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาจัดงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมเปิดบูททั้งสถาบันการเงิน วัสดุตกแต่ง ผู้รับเหมา บริษัทจัดสรรจำนวนมาก ภายในงาน 4 วันมียอดจองบ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 77 ยูนิต พร้อมยอดสั่งจองสร้างบ้าน วัสดุตกแต่ง และขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินคิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท
จากการสำรวจภายในงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 พบว่า ประเภทที่อยู่อาศัยที่มียอดขายได้มากที่สุดอันดับ 1 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ระดับราคาหลังละประมาณ 4-5 ล้านบาท อันดับ 2 บ้านเดี่ยวราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท และอันดับ 3 บ้านราคาประมาณ 8-9 ล้านบาท
โดยทำเลที่ผู้ซื้อต้องการอยู่อาศัย อันดับต้น ๆ ได้แก่ ในพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ ได้แก่ ต.ท่าข้าม 17 ยูนิต, ต.บ้านพรุ 16 ยูนิต, ต.หาดใหญ่ 15 ยูนิต, ต.ควนลัง 14 ยูนิต, ต.คอหงส์ 5 ยูนิต, ต.คลองแห 5 ยูนิต ส่วนพื้นที่อำเภอเมือง มีเพียง ต.พะวง จำนวน 5 ยูนิต
ทั้งนี้ มีข้อน่าสังเกตว่าปีนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 และแสดงความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา และหลายคนอยู่ระหว่างการตัดสินใจในการหาซื้อที่อยู่อาศัย แต่ต้องการไปดูบ้านตัวอย่างของจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปด้วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ ๆ ที่มาแรง เป็นการก่อสร้างบ้านระดับราคาประมาณ 8-10 ล้านบาทต่อหลัง โดยมีการแจ้งลงทุนโครงการใหม่ ๆ ประมาณ 6-7 โครงการ เริ่มมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 มาถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่แตกต่างกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่จะสร้างบ้านราคาสูงสุดหลังละประมาณ 5-6-7 ล้านบาท
สำหรับบ้านระดับราคา 3 ล้านบาท ยังมีผู้สนใจจำนวนมาก แต่มีปัญหาอุปสรรคเรื่องศักยภาพของผู้ซื้อไม่สามารถผ่านเกณฑ์การพิจารณาขอ สินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งมีความเข้มงวดในการปล่อยขอสินเชื่อ
นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสงขลายังอยู่ในสภาวะทรงตัวมาตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา โดยเฉลี่ยก่อสร้างประมาณ 1,000 ยูนิต/ปี แต่ปี 2566 มีการขยายโครงการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% หรือเพิ่มขึ้น 1,300-1,400 ยูนิต ดังนั้น ยอดขายในปี 2567 หากกำลังซื้อดี หน่วยการขายได้ระบายออก คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2567 อีก แต่ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ ภาพรวมช่วง 6 เดือนหลังของปี 2567 หากกำลังซื้อลดลงหน่วยการขายก็ฝืดคงจะระบายได้ช้า จะส่งผลกระทบในปี 2567
"ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูราคาสินค้าทางด้านการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งขณะนี้ปรับตัวขึ้นมากว่า 80 บาท/กก. หากราคายังยืนหรือปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 อีกประมาณ 6 เดือนจะเห็นผล"
นายศุภชัยกล่าวต่อไปว่า ส่วนธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา ถือเป็นเศรษฐกิจสำคัญ แต่ก็กระจุกตัวเฉพาะอำเภอใหญ่ โดยมีชาวมาเลเซียที่มีกำลังซื้อเป็นหลัก ต่างจากนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ที่มีความหลากหลาย เช่น นักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง และก็ยังมาหาซื้อบ้านพักใน จ.ภูเก็ต ด้วย ซึ่งต่างกับชาวมาเลเซียที่ไม่เข้ามาซื้อบ้านแต่อย่างใด
"ตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนของปี 2567 การลงทุนอสังหาฯ ส่วนใหญ่ชะลอตัว รอดูสถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจ รอนโยบายภาครัฐ งบประมาณ และนโยบายต่างประเทศ เพราะเป็นเงื่อนไขต่อการลงทุน เมื่อมีการลงทุน หลายคนจะเข้ามา มีการจ้างงานต่าง ๆ และความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยก็จะส่งผลเพิ่มขึ้นตามมา" นายศุภชัยกล่าว
เเหล่งข่าวจากสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาจัดงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมเปิดบูททั้งสถาบันการเงิน วัสดุตกแต่ง ผู้รับเหมา บริษัทจัดสรรจำนวนมาก ภายในงาน 4 วันมียอดจองบ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 77 ยูนิต พร้อมยอดสั่งจองสร้างบ้าน วัสดุตกแต่ง และขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินคิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท
จากการสำรวจภายในงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 พบว่า ประเภทที่อยู่อาศัยที่มียอดขายได้มากที่สุดอันดับ 1 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ระดับราคาหลังละประมาณ 4-5 ล้านบาท อันดับ 2 บ้านเดี่ยวราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท และอันดับ 3 บ้านราคาประมาณ 8-9 ล้านบาท
โดยทำเลที่ผู้ซื้อต้องการอยู่อาศัย อันดับต้น ๆ ได้แก่ ในพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ ได้แก่ ต.ท่าข้าม 17 ยูนิต, ต.บ้านพรุ 16 ยูนิต, ต.หาดใหญ่ 15 ยูนิต, ต.ควนลัง 14 ยูนิต, ต.คอหงส์ 5 ยูนิต, ต.คลองแห 5 ยูนิต ส่วนพื้นที่อำเภอเมือง มีเพียง ต.พะวง จำนวน 5 ยูนิต
ทั้งนี้ มีข้อน่าสังเกตว่าปีนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง ครั้งที่ 13 และแสดงความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา และหลายคนอยู่ระหว่างการตัดสินใจในการหาซื้อที่อยู่อาศัย แต่ต้องการไปดูบ้านตัวอย่างของจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปด้วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ ๆ ที่มาแรง เป็นการก่อสร้างบ้านระดับราคาประมาณ 8-10 ล้านบาทต่อหลัง โดยมีการแจ้งลงทุนโครงการใหม่ ๆ ประมาณ 6-7 โครงการ เริ่มมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 มาถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่แตกต่างกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่จะสร้างบ้านราคาสูงสุดหลังละประมาณ 5-6-7 ล้านบาท
สำหรับบ้านระดับราคา 3 ล้านบาท ยังมีผู้สนใจจำนวนมาก แต่มีปัญหาอุปสรรคเรื่องศักยภาพของผู้ซื้อไม่สามารถผ่านเกณฑ์การพิจารณาขอ สินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งมีความเข้มงวดในการปล่อยขอสินเชื่อ
นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสงขลายังอยู่ในสภาวะทรงตัวมาตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา โดยเฉลี่ยก่อสร้างประมาณ 1,000 ยูนิต/ปี แต่ปี 2566 มีการขยายโครงการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% หรือเพิ่มขึ้น 1,300-1,400 ยูนิต ดังนั้น ยอดขายในปี 2567 หากกำลังซื้อดี หน่วยการขายได้ระบายออก คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2567 อีก แต่ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ ภาพรวมช่วง 6 เดือนหลังของปี 2567 หากกำลังซื้อลดลงหน่วยการขายก็ฝืดคงจะระบายได้ช้า จะส่งผลกระทบในปี 2567
"ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูราคาสินค้าทางด้านการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งขณะนี้ปรับตัวขึ้นมากว่า 80 บาท/กก. หากราคายังยืนหรือปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 อีกประมาณ 6 เดือนจะเห็นผล"
นายศุภชัยกล่าวต่อไปว่า ส่วนธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา ถือเป็นเศรษฐกิจสำคัญ แต่ก็กระจุกตัวเฉพาะอำเภอใหญ่ โดยมีชาวมาเลเซียที่มีกำลังซื้อเป็นหลัก ต่างจากนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ที่มีความหลากหลาย เช่น นักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง และก็ยังมาหาซื้อบ้านพักใน จ.ภูเก็ต ด้วย ซึ่งต่างกับชาวมาเลเซียที่ไม่เข้ามาซื้อบ้านแต่อย่างใด
"ตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนของปี 2567 การลงทุนอสังหาฯ ส่วนใหญ่ชะลอตัว รอดูสถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจ รอนโยบายภาครัฐ งบประมาณ และนโยบายต่างประเทศ เพราะเป็นเงื่อนไขต่อการลงทุน เมื่อมีการลงทุน หลายคนจะเข้ามา มีการจ้างงานต่าง ๆ และความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยก็จะส่งผลเพิ่มขึ้นตามมา" นายศุภชัยกล่าว
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ