บิ๊กคอร์ปลุยมิกซ์ยูสชลบุรีเดือด! สิงห์เอสเตท-ออริจิ้น-ศุภาลัย ชิงดีมานด์อีอีซี
วันที่ : 26 มกราคม 2567
ศุภาลัย ระบุว่า ชลบุรี เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีพื้นฐานเศรษฐกิจทั้งภาคการเกษตร ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม มีเม็ดเงินทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม เมกะโปรเจกต์ ทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนที่เข้ามาทำงาน และต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
บุษกร ภู่แส
กรุงเทพธุรกิจ
สัญญาณบวกอสังหาริมทรัพย์เขตพื้นที่เศรษฐกิจ "อีอีซี" ที่มีการเปิดตัวโครงการสูงสุดรอบ 4 ปี! หลังเม็ดเงินทั้งภาครัฐและเอกชนดาหน้าเข้ามาลงทุนพัฒนาเมกะโปรเจกต์และเมืองใหม่ หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยฟื้นตัว บรรดาบิ๊กคอร์ปประกาศลงทุนรับแรงงาน เข้ามาทำงานในพื้นที่
สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด ระบุว่า พื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรมในอีอีซีโดยเฉพาะ จังหวัดชลบุรี และระยอง เป็นพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาและเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะชลบุรี ด้วยศักยภาพของพื้นที่ได้อานิสงส์จากการมีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งรวมกันหลายหมื่นไร่ ซึ่งมีการขยายพื้นที่ และเปิดนิคมอุตสาหกรรมใหม่ ทำให้มีคนเข้ามาทำงานในพื้นที่มากขึ้นต่อเนื่อง
"ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอาจมีโรงงานจำนวนไม่น้อยที่ปิดกิจการ หรือจ้างงานลดลง เพราะความต้องการสินค้าลดลง ทำให้กำลังการผลิตลดลง และมีผลกระทบต่อเนื่อง มาถึงการจ้างงานในพื้นที่ลดลง มีผลต่อเนื่องหลายธุรกิจ"
อย่างไรก็ดี การเข้ามาของนักลงทุนที่ลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้แรงงานอาจไม่มาก แต่เริ่มมีจำนวนมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะมากขึ้นต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะในชลบุรี เห็นได้ชัดเจนว่ามีการลงทุนจากทั้งไทยและต่างประเทศมากขึ้น ทั้งที่ขอการส่งเสริมการลงทุน และได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในจังหวัดชลบุรีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ แบบชัดเจน ส่งผลโครงการที่อยู่อาศัยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
"การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อาจจะมีการแข่งขันกันมากกว่าช่วงที่เศรษฐกิจดี รวมถึงต้องพยายามหากำลังซื้อกลุ่มอื่นๆ มากขึ้น นอกเหนือจากกำลังซื้อที่เป็นคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม เพราะอาจจะมีความไม่มั่นคงบ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างอุตสาหกรรม"
ทั้งการที่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานคนจำนวนมากออกไปจากประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีบางอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำงานแทนแรงงานคน หรือการเข้ามาของโรงงานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบโดยตรง ต่อแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาป การลงทุนของอุตสาหกรรมใหม่ๆ อาจจะยังไม่เกิดขึ้น หรือกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน แต่ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ พยายามเข้าถึงกำลังซื้อที่นอกเหนือจากคนทำงานในชลบุรีเท่านั้น โดยมุ่งเข้าถึง กลุ่มนักลงทุนระยะยาวในโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อปล่อยเช่าทั้งการบริหารจัดการเอง และบริหารจัดการโดยผู้ประกอบการเจ้าของโครงการ อีกทั้งการเข้าถึงกลุ่มเจ้าของกิจการที่ต้องการที่พักในระยะยาวให้คนทำงานในโรงงานของตนเองทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งอาจมีการเจรจาเพื่อการเช่าระยะยาว หรือซื้อเป็นกรรมสิทธิ์แล้วให้ผู้ประกอบการหรือบริษัทบริหารโครงการบริหารจัดการห้องให้ในระยะยาว
"การเข้าถึงกำลังซื้อกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ และการพัฒนาโครงการให้มีความหลากหลายหรือมีมากกว่าแค่ส่วนของที่พักอาศัยก็เป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการบางรายให้ความสนใจ เพื่อสร้างความน่าสนใจและเป็นจุดขายของโครงการ"
ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในแผนลงทุน 3 ปี (2567-2569) ภายใต้งบกว่า 25,000 ล้านบาท นำร่องโครงการมิกซ์ยูส ทำเลศรีราชาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในการพัฒนาโครงการนอกพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล บนพื้นที่ 24 ไร่ในจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 5-6 โครงการ อาคารสำนักงาน รวมทั้งพื้นที่ค้าปลีก ทาวน์โฮม รองรับการกลับเข้ามาของแรงงานไทยและ ต่างชาติ (Expat) ที่ทำงานในโซนอีอีซี คาดว่ามิกซ์ยูสดังกล่าวใช้เวลาพัฒนา 4-5 ปี
เริ่มต้นจากโครงการคอนโดราคา 3 ล้านบาท ต่อยูนิต เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าแรงงานทำงานโซนอีอีซี เป็นครั้งแรกของสิงห์ เอสเตท ที่ทำคอนโด ราคา 3 ล้านบาทในต่างจังหวัด และเป็นครั้งแรกในการกลับมาทำคอนโดหลังโควิด กลุ่มผู้ซื้อเป็นนักลงทุน ที่ซื้อห้องขนาดเล็กเพื่อปล่อยเช่าพนักงานบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยที่ทำงานในโซนอีอีซี โครงการแรกมีจำนวน 250 ยูนิต เปิดปลายปี2567
"มาสเตอร์แพลนของโครงการเป็นมิกซ์ยูส เฟสแรก 2ไร่ครึ่ง ทำเลใกล้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ศรีราชา ติดถนนใหญ่ โซนในเมือง เราต้องการทำฟาซิลิตี้เพื่อรองรับในพื้นที่ เช่น การมีสำนักงานทนายความเพื่อรองรับ Expat"
ทางด้าน ออริจิ้น เนชั่นวายด์ ในเครือออริจิ้น ได้ซื้อที่ดิน 10 ไร่ ริมถนนศรีราชา-หนองค้อ พัฒนามิกซ์ยูส "The Origin Sriracha" โดยก่อนหน้านี้มีแผนพัฒนาโครงการศรีราชา เจ-พาร์ค (Siracha J-Park) โดย วัน ออริจิ้น พัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์สไตล์ญี่ปุ่น 8 ชั้น 221 ห้องพัก ดึงเชนระดับโลกเข้ามาบริหารเพื่อให้บริการระดับเวิลด์คลาสแก่กลุ่มต่างชาติ ที่ทำงานในโซนอีอีซี
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดต่างจังหวัด หนึ่งในนั้นคือ ชลบุรี มี 2 โครงการใหญ่ ทำเลบ้านบึง และ บ่อวิน-อีสเทิร์นฯ เป็นการต่อจิ๊กซอว์แผนขยายธุรกิจให้เกิดความต่อเนื่อง
"ชลบุรี เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีพื้นฐานเศรษฐกิจทั้งภาคการเกษตร ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม มีเม็ดเงินทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม เมกะโปรเจกต์ ทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนที่เข้ามาทำงาน และต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งปีที่ผ่าน การเปิดตัวโครงการใหม่น้อย ตลาดได้ดูดซับ อุปทานพอควร จึงเป็นโอกาสที่เข้าเปิดตัว โครงการใหม่ส่งผลให้สต็อกเหลือขายลดลงต่อเนื่อง"
กรุงเทพธุรกิจ
สัญญาณบวกอสังหาริมทรัพย์เขตพื้นที่เศรษฐกิจ "อีอีซี" ที่มีการเปิดตัวโครงการสูงสุดรอบ 4 ปี! หลังเม็ดเงินทั้งภาครัฐและเอกชนดาหน้าเข้ามาลงทุนพัฒนาเมกะโปรเจกต์และเมืองใหม่ หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยฟื้นตัว บรรดาบิ๊กคอร์ปประกาศลงทุนรับแรงงาน เข้ามาทำงานในพื้นที่
สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด ระบุว่า พื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรมในอีอีซีโดยเฉพาะ จังหวัดชลบุรี และระยอง เป็นพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาและเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะชลบุรี ด้วยศักยภาพของพื้นที่ได้อานิสงส์จากการมีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งรวมกันหลายหมื่นไร่ ซึ่งมีการขยายพื้นที่ และเปิดนิคมอุตสาหกรรมใหม่ ทำให้มีคนเข้ามาทำงานในพื้นที่มากขึ้นต่อเนื่อง
"ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอาจมีโรงงานจำนวนไม่น้อยที่ปิดกิจการ หรือจ้างงานลดลง เพราะความต้องการสินค้าลดลง ทำให้กำลังการผลิตลดลง และมีผลกระทบต่อเนื่อง มาถึงการจ้างงานในพื้นที่ลดลง มีผลต่อเนื่องหลายธุรกิจ"
อย่างไรก็ดี การเข้ามาของนักลงทุนที่ลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้แรงงานอาจไม่มาก แต่เริ่มมีจำนวนมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะมากขึ้นต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะในชลบุรี เห็นได้ชัดเจนว่ามีการลงทุนจากทั้งไทยและต่างประเทศมากขึ้น ทั้งที่ขอการส่งเสริมการลงทุน และได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในจังหวัดชลบุรีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ แบบชัดเจน ส่งผลโครงการที่อยู่อาศัยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
"การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อาจจะมีการแข่งขันกันมากกว่าช่วงที่เศรษฐกิจดี รวมถึงต้องพยายามหากำลังซื้อกลุ่มอื่นๆ มากขึ้น นอกเหนือจากกำลังซื้อที่เป็นคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม เพราะอาจจะมีความไม่มั่นคงบ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างอุตสาหกรรม"
ทั้งการที่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานคนจำนวนมากออกไปจากประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีบางอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำงานแทนแรงงานคน หรือการเข้ามาของโรงงานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบโดยตรง ต่อแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาป การลงทุนของอุตสาหกรรมใหม่ๆ อาจจะยังไม่เกิดขึ้น หรือกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน แต่ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ พยายามเข้าถึงกำลังซื้อที่นอกเหนือจากคนทำงานในชลบุรีเท่านั้น โดยมุ่งเข้าถึง กลุ่มนักลงทุนระยะยาวในโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อปล่อยเช่าทั้งการบริหารจัดการเอง และบริหารจัดการโดยผู้ประกอบการเจ้าของโครงการ อีกทั้งการเข้าถึงกลุ่มเจ้าของกิจการที่ต้องการที่พักในระยะยาวให้คนทำงานในโรงงานของตนเองทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งอาจมีการเจรจาเพื่อการเช่าระยะยาว หรือซื้อเป็นกรรมสิทธิ์แล้วให้ผู้ประกอบการหรือบริษัทบริหารโครงการบริหารจัดการห้องให้ในระยะยาว
"การเข้าถึงกำลังซื้อกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ และการพัฒนาโครงการให้มีความหลากหลายหรือมีมากกว่าแค่ส่วนของที่พักอาศัยก็เป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการบางรายให้ความสนใจ เพื่อสร้างความน่าสนใจและเป็นจุดขายของโครงการ"
ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในแผนลงทุน 3 ปี (2567-2569) ภายใต้งบกว่า 25,000 ล้านบาท นำร่องโครงการมิกซ์ยูส ทำเลศรีราชาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในการพัฒนาโครงการนอกพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล บนพื้นที่ 24 ไร่ในจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 5-6 โครงการ อาคารสำนักงาน รวมทั้งพื้นที่ค้าปลีก ทาวน์โฮม รองรับการกลับเข้ามาของแรงงานไทยและ ต่างชาติ (Expat) ที่ทำงานในโซนอีอีซี คาดว่ามิกซ์ยูสดังกล่าวใช้เวลาพัฒนา 4-5 ปี
เริ่มต้นจากโครงการคอนโดราคา 3 ล้านบาท ต่อยูนิต เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าแรงงานทำงานโซนอีอีซี เป็นครั้งแรกของสิงห์ เอสเตท ที่ทำคอนโด ราคา 3 ล้านบาทในต่างจังหวัด และเป็นครั้งแรกในการกลับมาทำคอนโดหลังโควิด กลุ่มผู้ซื้อเป็นนักลงทุน ที่ซื้อห้องขนาดเล็กเพื่อปล่อยเช่าพนักงานบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยที่ทำงานในโซนอีอีซี โครงการแรกมีจำนวน 250 ยูนิต เปิดปลายปี2567
"มาสเตอร์แพลนของโครงการเป็นมิกซ์ยูส เฟสแรก 2ไร่ครึ่ง ทำเลใกล้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ศรีราชา ติดถนนใหญ่ โซนในเมือง เราต้องการทำฟาซิลิตี้เพื่อรองรับในพื้นที่ เช่น การมีสำนักงานทนายความเพื่อรองรับ Expat"
ทางด้าน ออริจิ้น เนชั่นวายด์ ในเครือออริจิ้น ได้ซื้อที่ดิน 10 ไร่ ริมถนนศรีราชา-หนองค้อ พัฒนามิกซ์ยูส "The Origin Sriracha" โดยก่อนหน้านี้มีแผนพัฒนาโครงการศรีราชา เจ-พาร์ค (Siracha J-Park) โดย วัน ออริจิ้น พัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์สไตล์ญี่ปุ่น 8 ชั้น 221 ห้องพัก ดึงเชนระดับโลกเข้ามาบริหารเพื่อให้บริการระดับเวิลด์คลาสแก่กลุ่มต่างชาติ ที่ทำงานในโซนอีอีซี
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดต่างจังหวัด หนึ่งในนั้นคือ ชลบุรี มี 2 โครงการใหญ่ ทำเลบ้านบึง และ บ่อวิน-อีสเทิร์นฯ เป็นการต่อจิ๊กซอว์แผนขยายธุรกิจให้เกิดความต่อเนื่อง
"ชลบุรี เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีพื้นฐานเศรษฐกิจทั้งภาคการเกษตร ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม มีเม็ดเงินทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม เมกะโปรเจกต์ ทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนที่เข้ามาทำงาน และต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งปีที่ผ่าน การเปิดตัวโครงการใหม่น้อย ตลาดได้ดูดซับ อุปทานพอควร จึงเป็นโอกาสที่เข้าเปิดตัว โครงการใหม่ส่งผลให้สต็อกเหลือขายลดลงต่อเนื่อง"
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ