ชลบุรี เบียด กทม. ตกชั้น ขึ้นแท่นอสังหาโซนฮอต ไทย-ตปท.
Loading

ชลบุรี เบียด กทม. ตกชั้น ขึ้นแท่นอสังหาโซนฮอต ไทย-ตปท.

วันที่ : 2 มกราคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ชลบุรี ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ทำเลเนื้อหอม บางละมุง สัตหีบ เมืองชลบุรี พบต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์มากสุดในไทยแซง กทม. ครั้งแรก

         ฟากดีเวลลอปเปอร์เบนเข็มพัฒนาโครงการใหม่พรึ่บ มูลค่าพุ่ง 130% หนีกรุงเทพแข่งเดือด

          ที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์เขตกรุงเทพ เป็นไพร์มแอเรีย โซนฮอต ด้วยการทำยอดขาย-ยอดการเปิดตัวใหม่ เป็นอันดับ 1 มาโดยตลอด

          ทว่าในปี 2566 "ชลบุรี" ได้ติดสปีด สร้างปรากฏการณ์โค่น กทม. ขึ้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่คนต่างชาติ ซื้อมากที่สุดในไทยครั้งแรก

          ชลบุรีเสียบ กทม. ขึ้นเบอร์ 1 อสังหาในดวงใจชาวต่างชาติ

          โดยข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ของชาวต่างชาติ ช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค. - ก.ย.) ปี 2566 มียอดสะสม 10,703 หน่วย เพิ่มขึ้น 37.6% และมีมูลค่า 52,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

          โดยหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติได้กระจายตัวมากที่สุดในจังหวัดชลบุรี โดยมีสัดส่วน 41.7% ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ครั้งแรก จากปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 30.8%

          ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 ที่มีสัดส่วน 37.5% จากปีก่อนครองสัดส่วนสูงถึง 48.8%

          จะเห็นว่า ใน 5 สัญชาติแรก ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากสุด ช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 จังหวัดชลบุรี มีจำนวนยูนิตมากสุดใน 4 สัญชาติ ยกเว้นไต้หวันที่ยังซื้ออสังหาใน กทม. มากกว่า ดังนี้

          1. จีน จำนวน 4,991 ยูนิต มูลค่ารวม 24,740 ล้านบาท แยกเฉพาะ 5 พื้นที่ซื้อสูงสุด "ชลบุรีอันดับ 1 จำนวนยูนิต แต่ในแง่มูลค่า กทม. ยังสูงกว่า"

          2. รัสเซีย จำนวน 962 หน่วย มูลค่า 3,436 ล้านบาท แยกเฉพาะ 5 พื้นที่ซื้อสูงสุด "ชลบุรีติดอันดับ 1 ในด้านมูลค่าและปริมาณ กทม.ไม่ติด 5 อันดับแรกที่คนรัสเซียซื้อ"

          3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 422 หน่วย มูลค่า 2,102 ล้านบาท แยกเฉพาะ 5 พื้นที่ซื้อสูงสุด "ชลบุรีติดอันดับ 1 ในด้านปริมาณ ส่วน กทม. สูงสุดด้านมูลค่า"

          4. ไต้หวัน จำนวน 378 หน่วย มูลค่า 1,841 ล้านบาท แยกเฉพาะ 5 พื้นที่ซื้อสูงสุด "กทม. เบอร์ 1 ด้านมูลค่าและปริมาณ รองลงมาคือชลบุรี"

          5. สหราชอาณาจักร จำนวน 372 หน่วย มูลค่า 1,813 ล้านบาท แยกเฉพาะ 5 พื้นที่ซื้อสูงสุด "ชลบุรี มีจำนวนหน่วยซื้อมากสุด แต่ด้านมูลค่า กทม. มากกว่า"

          อสังหาแห่พัฒนาบ้าน EEC แทน กทม.

          สอดคล้องกับข้อมูลการพัฒนาอสังหาของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ที่เริ่มเบนเข็มมาสู่พื้นที่ EEC มากขึ้น ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา

          โดยไตรมาส 3 ปี 2566 ขยายตัวทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าของที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC โดยจำนวนหน่วยและมูลค่ามีขยายตัว 90.7% และ 130.7% ตามลำดับ

          สำหรับภาพรวมอุปสงค์ 9 เดือนแรกสะสมของปี 2566 หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงมีจำนวน 270,650 หน่วย ลดลง -4.2% แต่มีมูลค่าจำนวน 766,791 ล้านบาท เพิ่ม 1.6% โดยพบว่า
 
  • กลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้โอนกรรมสิทธิ์ใหญ่ที่สุดที่มีหน่วยการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงระหว่าง -5.9% ถึง -8.8%
  • กลุ่มบ้านระดับราคาเกินกว่า 3.0 ล้านบาทขึ้นไปมีการขยายตัวสูง โดยที่อยู่อาศัยในระดับราคาเกินกว่า 7.5 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มราคาที่มีหน่วยและมูลค่าขยายตัวมาก

          โดยคาดว่า ปัจจัยที่ทำให้การพัฒนาบ้านในชลบุรีมากกว่า กทม. มาจากการแข่งขันในตลาดบ้าน-คอนโดกรุงเทพค่อนข้างรุนแรง ประกอบกับราคาที่สูงและซัพพลายที่ดิน กทม. เหลือน้อยกว่าชลบุรี

          บ้านชลบุรีราคา 10-20 ล้านบาท ถูกค้นหาเพื่อซื้อมากสุด

          ขณะที่ข้อมูลจาก บริษัท เนสโทปา จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์มซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์ Nestopa.com ระบุสถิติที่น่าสนใจว่า บ้านในจังหวัดชลบุรี ถูกค้นหามากที่สุด

          โดยเป็นบ้านระดับราคา 10-20 ล้านบาท รองลงมาอันดับ 2 คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอันดับ 3 คือ จ.เชียงใหม่

          ส่วนกรุงเทพฯ ครองแชมป์ค้นหาคอนโดฯสูงสุด มีงบประมาณซื้ออยู่ในช่วงระดับราคา 1-3 ล้านบาท ตามมาติด ๆ ที่อันดับ 2 คือ ชลบุรี และอันดับ 3 ภูเก็ต