กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ มองภาพเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐฯชุดใหม่ คาดทยอยฟืนตัวเต็มที่ต้นปี 67 เตรียมรับมือนโยบายขึ้นค่าแรงกระทบต้นทุนอสังหาฯ ส่งราคาบ้านขยับสูงขึ้น พร้อมหนุนผู้บริโภคผ่านแคมเปญ "สร้างบ้านพร้อมอยู่ ตกแต่งครบจบทั้งหลัง" เพิ่มโอกาสสร้างบ้านคุณภาพในราคาคุ้มค่าก่อนปรับราคา คาดยอดขายปีนี้โตตามเป้า 1,200 ล้านบาท

          นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์  เผยมุมมองเศรษฐกิจไทยภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยมองว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเริ่มมีสัญญาณของการขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ทั้งด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคการส่งออกที่จะทยอยฟืนตัวดีขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวมาต่อเนื่อง รวมถึงแรงหนุนจากการเริ่มเข้าสู่ซีซั่นของการท่องเที่ยวที่ยังคงเป็นตัวเสริมหลักในการพยุงรายได้ของประเทศปีนี้  ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่มีความชัดเจนของในเรื่องของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ได้ประกาศเอาไว้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและการลงทุนให้เกิดการหมุนเวียนได้คล่องตัวมากขึ้น โดยคาดว่าสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 เป็นต้นไป

          อีกหนึ่งสิ่งที่น่ากังวลและหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามที่ทราบกันดีถึงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะทำการทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 จากเดิมค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 353 บาทต่อวัน เฉลี่ยปรับขึ้นประมาณ 70% ภายในระยะเวลา 4 ปี หรือ 18% ต่อปี  ซึ่งแน่นอนว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ในเรื่องของราคาบ้านที่ปรับสูงอีกครั้ง จากต้นทุนค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น หรืออาจจะมีการปรับรอไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 รวมถึงรัฐฯยังมีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าต่างๆ จะปรับราคาสูงขึ้นแบบชัดเจน

          "ผู้บริโภคที่มีความพร้อม ควรใช้โอกาสภายในช่วงปีนี้ ตัดสินใจสร้างบ้าน ก่อนราคาบ้านดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้บ้านคุณภาพในราคาที่ไม่แรงเกินไป"

          กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ จึงได้เตรียมกลยุทธ์และแนวทางรับมือเพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้บริโภคที่กำลังมีแผนสร้างบ้านตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยได้ออกแคมเปญ "สร้างบ้านพร้อมอยู่ ตกแต่งครบจบทั้งหลัง"เมื่อสร้างเสร็จแล้วสามารถหิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ภายใต้แบบบ้านหลากหลายฟังก์ชั่นและดีไซน์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย และสามารถควบคุมงบประมาณได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.99  ล้านบาท โดยแคมเปญนี้เริ่มเปิดให้จองในงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2023" ที่จัดขึ้นในวันที่ 20-24 ก.ย.นี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

          แคมเปญแรงที่ออกมา จะส่งผลต่อเป้าหมายยอดขายเติบโตได้ 1,200 ล้านบาทอย่างแน่นอน จากผลสำเร็จในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 800 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นสุดไตรมาส 3 นี้จะสามารถปิดยอดขายได้เพิ่มอีก 250 ล้านบาท ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปีบริษัทฯคงจะมีผลงานยอดขายได้ตาม เป้าหมาย 1,200 ล้านบาท ค่อนข้างแน่นอน