REIC เผยผลสำรวจที่อยู่อาศัย5จ.ภาคเหนือ เชียงใหม่แชมป์ยอดขายแต่อัตราดูดซับต่ำสุด
วันที่ : 13 กันยายน 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย 5 จังหวัดภาคเหนือครึ่งแรกปี 66 เชียงใหม่ แชมป์ยอดขายสูงสุด 808 หน่วย แต่มีอัตราการดูดซับที่แค่ 1.4% ต่ำสุดในภาคเหนือ เหตุซัปพลายสะสมจำนวนมาก
"นครสวรรค์" แชมป์อัตราดูดบ้านสูงสุด 4.6% แจงหน่วยเหลือขายตลาดภาคเหนือลดลง -9.1% อัตราดูดซับรวม 1.7% คาด 66 ที่อยู่อาศัยเข้าตลาด 2,481 หน่วย มูลค่า 9,569 ล้านบาท หน่วยขายใหม่ 3,243 หน่วย ส่วนหน่วยเหลือขายอยู่ที่ 14,687 หน่วย มูลค่า 58,152 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ครึ่งแรกปี 66 พบว่ามีซับพลายพร้อมขาย16,985 หน่วย มูลค่า 67,516 ล้านบาท แบ่งเป็น อาคารชุด 1,421 หน่วย มูลค่า 4,221 ล้านบาท บ้านจัดสรร 15,564 หน่วย มูลค่า 63,295 ล้านบาท
ขณะที่มีโครงการเปิดขายใหม่1,654 หน่วย มูลค่า 6,379 ล้านบาท โดยมีโครงการขายได้แล้ว 1,707 หน่วย มูลค่า 6,822 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 15,278 หน่วย มูลค่า 60,694 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือแม้ผู้ประกอบการจะปรับกลยุทธ์การเปิดขายโครงการใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นกำลงซื้อได้ โดยจะเห็นได้จากภาพรวมจำนวนหน่วยเสนอขายลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ซัปพลายโดยรวม ในช่วงครึ่งแรกปี 66 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด 16,985 หน่วย มูลค่า 67,516 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -14.3% และมูลค่าลดลง -11.7% โดยเป็นโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,654 หน่วย มูลค่า 6,379 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -47.8% และ -52.4% ตามลำดับ ขณะที่ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 15,278 หน่วย มูลค่า 60,694 ล้านบาท หรือมีจำนวนหน่วยลดลง -9.1% และมูลค่า ลดลง -7.7%
สำหรับ 5 ทำเล ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากที่สุดใน 5 จังหวัดภาคเหนือ คือ อันดับ 1 ทำเลในเมืองเชียงราย จำนวน 1,489 หน่วย มูลค่า 6,509 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลสันทราย จำนวน 1,376 หน่วย มูลค่า 4,742 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลบ่อสร้าง -ดอยสะเก็ด จำนวน 1,304 หน่วย มูลค่า 6,019 ล้านบาท อันดับ 4 สารภี จำนวน 1,296 หน่วย มูลค่า 4,993 ล้านบาท อันดับ 5. ทำเลสนามบิน-ม.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 1,233 หน่วย มูลค่า 4,395 ล้านบาท โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 5,475 หน่วย มูลค่า 22,831 ล้านบาท
ด้านดีมานด์โดยรวมของตลาดภาคเหนือ พบว่าในช่วงครึ่งแรกปี 66 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 1,707 หน่วย มูลค่า 6,822 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 1,547 หน่วย มูลค่า 6,390 ล้านบาท และอาคารชุด 160 หน่วย มูลค่า 432 ล้านบาท
โดยทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 ในเมืองพิษณุโลก จำนวน 173 หน่วย มูลค่า 595 ล้านบาท อันดับ 2 ดรีมแลนด์ จำนวน 151 หน่วย มูลค่า 1,262 ล้านบาท อันดับ 3 สารภี จำนวน 134 หน่วย มูลค่า 383 ล้านบาท อันดับ 4 สันทราย จำนวน 122 หน่วย มูลค่า 429 ล้านบาท และอันดับ 5 สนามบิน- ม.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 117 หน่วย มูลค่า 494 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 5 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ และ เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน ดังจะเห็นได้จากจำนวนและสัดส่วนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีการเสนอขายถึง 9,887 หน่วย คิดเป็น 58.2% โดยมีมูลค่า 41,525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.5% และ 3,132 หน่วย คิดเป็น 18.4% มีมูลค่า 12,493 ล้านบาท คิดเป็น 18.5% ของหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด ตามลำดับ โดยจังหวัดเชียงใหม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด ซึ่งมีการเปิดตัวใหม่เป็นบ้านจัดสรร 568 หน่วย มูลค่า 2,606 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่สูงสุด 808 หน่วย มูลค่า 2,997 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 1.4% ต่อเดือน ต่ำกว่าจังหวัดอื่นเล็กน้อยเนื่องจากซับพลายในตลาดที่มีมาก รองลงมาคือจังหวัดพิษณุโลก เพียงเล็กน้อยที่ 365 หน่วย มูลค่า 1,201 ล้านบาทโดยมีอัตราการดูดซับที่ 2.3% ต่อเดือน โดยจังหวัดนครสวรรค์เป็นจังหวัดที่มีอัตราดูดซับบ้านจัดสรรสูงสุด 4.6% และเชียงใหม่มีอัตราดูดซับอาคารชุดสูงสุด 2.0%.
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ครึ่งแรกปี 66 พบว่ามีซับพลายพร้อมขาย16,985 หน่วย มูลค่า 67,516 ล้านบาท แบ่งเป็น อาคารชุด 1,421 หน่วย มูลค่า 4,221 ล้านบาท บ้านจัดสรร 15,564 หน่วย มูลค่า 63,295 ล้านบาท
ขณะที่มีโครงการเปิดขายใหม่1,654 หน่วย มูลค่า 6,379 ล้านบาท โดยมีโครงการขายได้แล้ว 1,707 หน่วย มูลค่า 6,822 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 15,278 หน่วย มูลค่า 60,694 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือแม้ผู้ประกอบการจะปรับกลยุทธ์การเปิดขายโครงการใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นกำลงซื้อได้ โดยจะเห็นได้จากภาพรวมจำนวนหน่วยเสนอขายลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ซัปพลายโดยรวม ในช่วงครึ่งแรกปี 66 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด 16,985 หน่วย มูลค่า 67,516 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -14.3% และมูลค่าลดลง -11.7% โดยเป็นโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,654 หน่วย มูลค่า 6,379 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -47.8% และ -52.4% ตามลำดับ ขณะที่ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 15,278 หน่วย มูลค่า 60,694 ล้านบาท หรือมีจำนวนหน่วยลดลง -9.1% และมูลค่า ลดลง -7.7%
สำหรับ 5 ทำเล ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากที่สุดใน 5 จังหวัดภาคเหนือ คือ อันดับ 1 ทำเลในเมืองเชียงราย จำนวน 1,489 หน่วย มูลค่า 6,509 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลสันทราย จำนวน 1,376 หน่วย มูลค่า 4,742 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลบ่อสร้าง -ดอยสะเก็ด จำนวน 1,304 หน่วย มูลค่า 6,019 ล้านบาท อันดับ 4 สารภี จำนวน 1,296 หน่วย มูลค่า 4,993 ล้านบาท อันดับ 5. ทำเลสนามบิน-ม.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 1,233 หน่วย มูลค่า 4,395 ล้านบาท โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 5,475 หน่วย มูลค่า 22,831 ล้านบาท
ด้านดีมานด์โดยรวมของตลาดภาคเหนือ พบว่าในช่วงครึ่งแรกปี 66 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 1,707 หน่วย มูลค่า 6,822 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 1,547 หน่วย มูลค่า 6,390 ล้านบาท และอาคารชุด 160 หน่วย มูลค่า 432 ล้านบาท
โดยทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 ในเมืองพิษณุโลก จำนวน 173 หน่วย มูลค่า 595 ล้านบาท อันดับ 2 ดรีมแลนด์ จำนวน 151 หน่วย มูลค่า 1,262 ล้านบาท อันดับ 3 สารภี จำนวน 134 หน่วย มูลค่า 383 ล้านบาท อันดับ 4 สันทราย จำนวน 122 หน่วย มูลค่า 429 ล้านบาท และอันดับ 5 สนามบิน- ม.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 117 หน่วย มูลค่า 494 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 5 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ และ เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน ดังจะเห็นได้จากจำนวนและสัดส่วนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีการเสนอขายถึง 9,887 หน่วย คิดเป็น 58.2% โดยมีมูลค่า 41,525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.5% และ 3,132 หน่วย คิดเป็น 18.4% มีมูลค่า 12,493 ล้านบาท คิดเป็น 18.5% ของหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด ตามลำดับ โดยจังหวัดเชียงใหม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด ซึ่งมีการเปิดตัวใหม่เป็นบ้านจัดสรร 568 หน่วย มูลค่า 2,606 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่สูงสุด 808 หน่วย มูลค่า 2,997 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 1.4% ต่อเดือน ต่ำกว่าจังหวัดอื่นเล็กน้อยเนื่องจากซับพลายในตลาดที่มีมาก รองลงมาคือจังหวัดพิษณุโลก เพียงเล็กน้อยที่ 365 หน่วย มูลค่า 1,201 ล้านบาทโดยมีอัตราการดูดซับที่ 2.3% ต่อเดือน โดยจังหวัดนครสวรรค์เป็นจังหวัดที่มีอัตราดูดซับบ้านจัดสรรสูงสุด 4.6% และเชียงใหม่มีอัตราดูดซับอาคารชุดสูงสุด 2.0%.
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ