ธนารักษ์ ยื่นกฤษฎีกาช่วย ปมคอนโดถูกยึดค้างค่าส่วนกลางพันล.ทำขายทอดตลาดสะดุด
วันที่ : 29 พฤษภาคม 2566
ธนารักษ์ กุมขมับเจอคอนโดมิเนียมถูกยึด 2,700 ห้อง เบี้ยวค่าส่วนกลางพันล้านบาท ทำประมูลขายทอดตลาดสะดุด ลุยยื่นกฤษฎีกาตีความเร่งหาทางออก หวั่นยอดทะยานเป็นภาระยาว
นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างรอให้กฤษฎีกาตีความเกี่ยวกับกรณีทรัพย์ที่ถูกยึดแต่ยังติดปัญหาทำให้ยังไม่สามารถนำไปสู่กระบวนการประมูลได้ โดยส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ประมาณ 2,700 ห้อง โดยในจำนวนนี้ยังค้างชำระค่าส่วนกลางอยู่ เบื้องต้น 400 ล้านบาท แต่คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นถึงราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากหากยังไม่ได้ข้อสรุปซึ่งเป็นทางออกที่ดีว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ก่อนที่จะนำไปประมูลขายได้ เพราะค่าส่วนกลางเดินทุกวัน จะทำให้มูลค่าส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยในหลักการของเรื่องนี้ จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดอย่างรอบคอบ ต้องวางกฎ กติกาอย่างดี และจะต้องมาประเมินว่าอะไรจะเป็นประโยชน์กับรัฐมากที่สุด
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่ถูกยึดมาดังกล่าว กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีทั้งแบบถูกยึดทั้งตึก และถูกยึดเป็นห้อง บางโครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว บางโครงการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และมีทั้งคอนโดมิเนียมหรู มูลค่า 20-30 ล้านบาท จนถึงสูงสุดที่ 100 ล้านบาทต่อห้องก็มีด้วยเช่นกัน โดยคอนโดมิเนียมที่ถูกยึดดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เตรียมจะส่งมอบให้กรมดำเนินการประมูลขายต่อไป
"ถือเป็นปัญหาเร่งด่วน ถ้าสามารถแก้ปัญหาได้ เราก็ขายทอดตลาดได้ แต่ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มันจะกลายเป็นของที่มาทบอยู่ที่เรา แล้วเราก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย โดยจะต้องตัดสินใจว่าหากประเมินเป็นรายห้อง เราจะมีปัญหาทันที ว่าใครจะมาดูแลห้องนั้นต่อ ดังนั้นอาจจะต้องประเมินทั้งโครงการหรือ ขายทั้งโครงการ แต่ก็จะกลายเป็นว่าแล้วค่าส่วนกลางทั้ง หมดที่มันเริ่มมาจะทำอย่างไร อาจจะต้องหารือกับเจ้าของโครงการว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เช่น ขอลดหย่อน หรือหากโอนมาแล้วค่าส่วนกลางจะลด ลงเท่าไหร่ แล้วเราจะขายเขา อย่างไร จะจ่ายตั้งแต่ขายพร้อมกับภาระติดพันนี้ไปได้ไหม" นายจำเริญกล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ขอเวลาให้กรมไปหาผลการศึกษาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะสามารถดำเนินการได้ดีที่สุด เพื่อมาประ เมินว่าอะไรจะเป็นประโยชน์กับรัฐมากที่สุด โดยที่ไม่ต้องใช้ เงินอะไรของหลวงใส่เข้าไปโดยที่เราไม่ได้รายรับ หลังจากได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว ก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดต่อไป
โดยในหลักการของเรื่องนี้ จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดอย่างรอบคอบ ต้องวางกฎ กติกาอย่างดี และจะต้องมาประเมินว่าอะไรจะเป็นประโยชน์กับรัฐมากที่สุด
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่ถูกยึดมาดังกล่าว กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีทั้งแบบถูกยึดทั้งตึก และถูกยึดเป็นห้อง บางโครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว บางโครงการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และมีทั้งคอนโดมิเนียมหรู มูลค่า 20-30 ล้านบาท จนถึงสูงสุดที่ 100 ล้านบาทต่อห้องก็มีด้วยเช่นกัน โดยคอนโดมิเนียมที่ถูกยึดดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เตรียมจะส่งมอบให้กรมดำเนินการประมูลขายต่อไป
"ถือเป็นปัญหาเร่งด่วน ถ้าสามารถแก้ปัญหาได้ เราก็ขายทอดตลาดได้ แต่ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มันจะกลายเป็นของที่มาทบอยู่ที่เรา แล้วเราก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย โดยจะต้องตัดสินใจว่าหากประเมินเป็นรายห้อง เราจะมีปัญหาทันที ว่าใครจะมาดูแลห้องนั้นต่อ ดังนั้นอาจจะต้องประเมินทั้งโครงการหรือ ขายทั้งโครงการ แต่ก็จะกลายเป็นว่าแล้วค่าส่วนกลางทั้ง หมดที่มันเริ่มมาจะทำอย่างไร อาจจะต้องหารือกับเจ้าของโครงการว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เช่น ขอลดหย่อน หรือหากโอนมาแล้วค่าส่วนกลางจะลด ลงเท่าไหร่ แล้วเราจะขายเขา อย่างไร จะจ่ายตั้งแต่ขายพร้อมกับภาระติดพันนี้ไปได้ไหม" นายจำเริญกล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ขอเวลาให้กรมไปหาผลการศึกษาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะสามารถดำเนินการได้ดีที่สุด เพื่อมาประ เมินว่าอะไรจะเป็นประโยชน์กับรัฐมากที่สุด โดยที่ไม่ต้องใช้ เงินอะไรของหลวงใส่เข้าไปโดยที่เราไม่ได้รายรับ หลังจากได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว ก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดต่อไป
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ