CRD เล็งขายที่ดินรับทรัพย์300ล. ดันเทิร์นอะราวด์
Loading

CRD เล็งขายที่ดินรับทรัพย์300ล. ดันเทิร์นอะราวด์

วันที่ : 16 มีนาคม 2566
CRD กางแผนขายที่ดิน เชียงใหม่ 300 ล้านบาท ลุ้นบุ๊กกำไรพิเศษเข้าพอร์ต บิ๊กบอส ธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ ส่งซิกธุรกิจก่อสร้างฟื้น อวดแบ็กล็อกเต็มหน้าตัก 600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง หนุนผลงานเทิร์นอะราวด์
         
          นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า บริษัทจะพิจารณาขายที่ดินในมือ เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสด และพัฒนาโครงการให้เป็นของ CRD เอง ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 5-6 แปลง มูลค่า 200-300 ล้านบาท หากบริษัทพิจารณาขายที่ดิน อาจจะได้รับเงินสดเข้าสู่บริษัท หรือบุ๊กกำไรพิเศษตามรายการ

          โกยงานใหม่ ส่วนทิศทางธุรกิจปี 2566 คาดจะเห็นภาพงานก่อสร้างมากขึ้นจากลูกค้าภาครัฐและเอกชน โดยล่าสุดบริษัทได้งานก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ และโรงเรียนนานาชาติ รวม 140 ล้านบาท แบ่งเป็น งานคอมมูนิตี้มอลล์ 100 ล้านบาท และ งานโรงเรียนนานาชาติ 40 ล้านบาท บริษัทตั้งเป้า จะคว้างานใหม่เข้าพอร์ตเพิ่มในปีนี้ 1 พันล้านบาท โดยมองงานก่อสร้างมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว หลังประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้การลงทุนเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงแรม คอมมูนิตี้ เป็นต้น

          ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 11 โครงการ อาทิ โครงการรีสอร์ต, โรงแรม, คอนโดมิเนียม และงานอาคารสูงต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้บริษัทยังขยายการรับงานก่อสร้างไปยังโครงการหมู่บ้านจัดสรร ปัจจุบันมีงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ 1.โครงการ Holiday Inn Express and Resort Samui 2.The Astra Sky River Chiangmai 3.Boutique Chiangmai Nimman 2 Hotel Chiangmai 4.อาคารโรงงานลานนาเกษตร, เชียงใหม่ 5.Atlanta Medicare Institute Chiangmai 6.New Mineral Water Line Plant Chiangmai 7.Escape Mahidol Chiangmai 8.หอพักน้ำแร่เชียงดาว Chiangmai 9.งานระบบโรงงานผลิตยา Atlanta Chiangmai 10.อรสิริน บีลีฟ รวมโชค Chiangmai และ 11.Feel Nimman Phase 2 Chiangmai

          แบ็กล็อกแน่น บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ธุรกิจก่อสร้างประมาณ 500-600 ล้านบาท ส่วนงานบริหารจัดการขยะอยู่ที่ 800-900 ล้านบาท ได้แก่ สัญญางานเก็บขนขยะมูลฝอย 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันทยอยรับรู้รายได้ จากสัญญาณในระยะ 5 ปี ได้แก่ โครงการเก็บขนขยะมูลฝอย เทศบาลนครลำปาง, งานกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครลำปาง ทั้ง 2 โครงการ ที่รับรู้รายได้ไปแล้ว กว่า 50% ส่วนโครงการขนขยะมูลฝอยเทศบาลนครปากเกร็ด และโครงการเก็บขนขยะมูลฝอย เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้จำนวนมาก

          นายธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการปี 2566 จะกลับมาเป็นบวกจากปี 2565 ขาดทุน 15.35 ล้านบาท หลังแนวโน้มธุรกิจก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวและมีปริมาณงานมากขึ้น เมื่อเทียบกับปลายปี 2565 อีกทั้งธุรกิจบริหารจัดการขยะมีอัตรากำไรสูง (มาร์จิ้น) หากรวม 2 ธุรกิจแล้ว คาดจะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ อนึ่งปี 2565 บริษัทมีรายได้ที่ 1.25 พันล้านบาท

 
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ