เศรษฐกิจฟื้นที่ดินภูเก็ตราคาพุ่งกว่า50% ป่าตอง ทำเลทองไม่แผ่ว200-300ล้านต่อไร่
วันที่ : 31 มกราคม 2566
โบ๊ทพัฒนา เผยว่า พื้นที่ที่ราคาที่ดินขยับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และย่านอาศัยของชาวต่างชาติ เช่น หาดป่าตอง ซึ่งราคาซื้อขายเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้าน นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของกมลา เชิงทะเล บางเทา ลายัน สุรินทร์ ป่าสัก โคกตโนด ฉลอง จุดเหล่านี้ความชัดเจนเรื่องของราคาที่ดินที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 50%
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ที่ดินภูเก็ตราคาขยับกว่า 50% หลังท่องเที่ยวฟื้น อสังหาฯ โตต่อเนื่อง ย่านป่าตองเฉลี่ย 200-300 ล้านบาทต่อไร่ ขณะที่พื้นที่เชิงทะเล กมลา ราคาไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาทต่อไร่ เชื่อแข่งขันสูง นักลงทุนเริ่มซื้อเพื่อลงทุน
นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโบ๊ทพัฒนา จำกัด ซึ่งเป็น LandLord รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมากและเกินความคาดหมาย ทำให้ธุรกิจต่างขยายตัวและโตตามไปด้วย รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเริ่มที่จะเข้า มาลงทุนมากขึ้น ว่าจากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ของจังหวัดภูเก็ต ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้น รายได้จากการท่องเที่ยวกระจายไปสู่คนทุกกลุ่ม รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวโตตามไปด้วย
เมื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โต ลูกค้าคนไทยและต่างชาติมีความมั่นใจกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุน พนักงานโรงแรมสามารถที่จะมีบ้าน คอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัย นักพัฒนาที่ดินเริ่มขายได้ โครงการใหม่ๆ เริ่มเปิดตัว นักลงทุนเริ่มมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ เมื่อสิ่งเหล่านี้เริ่มมองเห็นชัด ทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดขยับตัวพุ่งสูงตามไปด้วย สังเกตได้จากเริ่มมีการซื้อที่ดินเพื่อกักตุน และเริ่มก่อสร้างกันแล้ว ซึ่งการซื้อขายที่ดินธุรกิอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันกันสูงอย่างแน่นอน
นายบุญ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของตนซึ่งเป็นแลนด์ลอร์ด ( Land Lord) ในภูเก็ต ได้มีการขายที่ดินเปล่าให้นักลงทุนด้วย และที่ดินที่ปล่อยขายส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ๆ หลายราย เมื่อมีนักลงทุนเข้ามาซื้อที่ดินจำนวนมาก อย่างที่บอกราคาที่ดินก็ขยับพุ่งตามไปด้วย ตอนนี้ราคาที่ดินขยับขึ้นจากช่วงโควิดระบาดไม่น้อยกว่า 50%
พื้นที่ที่ราคาที่ดินขยับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และย่านอาศัยของชาวต่างชาติ เช่น หาดป่าตอง ซึ่งราคาซื้อขายเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้าน นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของกมลา เชิงทะเล บางเทา ลายัน สุรินทร์ ป่าสัก โคกตโนด ฉลอง จุดเหล่านี้ความชัดเจนเรื่องของราคาที่ดินที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 50% ตอนนี้คิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าไร่ละ 60-70 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ โดยพื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาซื้อเพื่อการลงทุน และสร้างบ้านพักสำหรับอยู่อาศัยมากกว่า
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่ที่น่าจับตามองอีกหลายจุดที่มีแนวโน้มความต้องการที่ดินสูง และราคาเริ่มขยับตัวสูงขึ้น แต่ยังไม่มากนัก เช่น หาดในทอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่อยู่ในฝั่งตะวันออกของเกาะ ขณะที่พื้นที่เมืองใหม่ ป่าคลอก เป็นอีกพื้นที่ที่กำลังได้รับความสนใจ จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเริ่มมีการลงทุนโครงการบ้านหรู พูลวิลล่ามากขึ้น รวมทั้งจะมีโรงเรียนนานาชาติเกิดขึ้นในพื้นที่อีกด้วย
สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาที่ดินในภูเก็ตขยับตัวสูงขึ้น สาเหตุที่นักลงทุนเลือกที่ดินในการลงทุนที่ไกลตัวเมือง และไกลชายหาด เนื่องจากที่ดินบริเวณชายหาดจะมีราคาแพง จึงเลือกที่ดินที่อยู่ไกลออกไปสำหรับการลงทุนแทน เพราะที่ที่ดินที่มีความสงบ เหมาะสำหรับอยู่อาศัย และไม่ไกลจากแหล่งชอปปิ้งมากนักมีความสะดวกสบาย และใกล้โรงเรียนนานาชาติ ขณะที่ที่ดินในส่วนพื้นที่ในเขตเมืองยังไม่มีการขยับตัวมากนัก
นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโบ๊ทพัฒนา จำกัด ซึ่งเป็น LandLord รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมากและเกินความคาดหมาย ทำให้ธุรกิจต่างขยายตัวและโตตามไปด้วย รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเริ่มที่จะเข้า มาลงทุนมากขึ้น ว่าจากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ของจังหวัดภูเก็ต ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้น รายได้จากการท่องเที่ยวกระจายไปสู่คนทุกกลุ่ม รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวโตตามไปด้วย
เมื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โต ลูกค้าคนไทยและต่างชาติมีความมั่นใจกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุน พนักงานโรงแรมสามารถที่จะมีบ้าน คอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัย นักพัฒนาที่ดินเริ่มขายได้ โครงการใหม่ๆ เริ่มเปิดตัว นักลงทุนเริ่มมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ เมื่อสิ่งเหล่านี้เริ่มมองเห็นชัด ทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดขยับตัวพุ่งสูงตามไปด้วย สังเกตได้จากเริ่มมีการซื้อที่ดินเพื่อกักตุน และเริ่มก่อสร้างกันแล้ว ซึ่งการซื้อขายที่ดินธุรกิอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันกันสูงอย่างแน่นอน
นายบุญ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของตนซึ่งเป็นแลนด์ลอร์ด ( Land Lord) ในภูเก็ต ได้มีการขายที่ดินเปล่าให้นักลงทุนด้วย และที่ดินที่ปล่อยขายส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ๆ หลายราย เมื่อมีนักลงทุนเข้ามาซื้อที่ดินจำนวนมาก อย่างที่บอกราคาที่ดินก็ขยับพุ่งตามไปด้วย ตอนนี้ราคาที่ดินขยับขึ้นจากช่วงโควิดระบาดไม่น้อยกว่า 50%
พื้นที่ที่ราคาที่ดินขยับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และย่านอาศัยของชาวต่างชาติ เช่น หาดป่าตอง ซึ่งราคาซื้อขายเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้าน นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของกมลา เชิงทะเล บางเทา ลายัน สุรินทร์ ป่าสัก โคกตโนด ฉลอง จุดเหล่านี้ความชัดเจนเรื่องของราคาที่ดินที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 50% ตอนนี้คิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าไร่ละ 60-70 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ โดยพื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาซื้อเพื่อการลงทุน และสร้างบ้านพักสำหรับอยู่อาศัยมากกว่า
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่ที่น่าจับตามองอีกหลายจุดที่มีแนวโน้มความต้องการที่ดินสูง และราคาเริ่มขยับตัวสูงขึ้น แต่ยังไม่มากนัก เช่น หาดในทอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่อยู่ในฝั่งตะวันออกของเกาะ ขณะที่พื้นที่เมืองใหม่ ป่าคลอก เป็นอีกพื้นที่ที่กำลังได้รับความสนใจ จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเริ่มมีการลงทุนโครงการบ้านหรู พูลวิลล่ามากขึ้น รวมทั้งจะมีโรงเรียนนานาชาติเกิดขึ้นในพื้นที่อีกด้วย
สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาที่ดินในภูเก็ตขยับตัวสูงขึ้น สาเหตุที่นักลงทุนเลือกที่ดินในการลงทุนที่ไกลตัวเมือง และไกลชายหาด เนื่องจากที่ดินบริเวณชายหาดจะมีราคาแพง จึงเลือกที่ดินที่อยู่ไกลออกไปสำหรับการลงทุนแทน เพราะที่ที่ดินที่มีความสงบ เหมาะสำหรับอยู่อาศัย และไม่ไกลจากแหล่งชอปปิ้งมากนักมีความสะดวกสบาย และใกล้โรงเรียนนานาชาติ ขณะที่ที่ดินในส่วนพื้นที่ในเขตเมืองยังไม่มีการขยับตัวมากนัก
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ