เธียรสตาร์ ภูเก็ตทุ่ม5พันล. ผุด พูลวิลล่า-คอนโดใหม่ย่านบางเทา
วันที่ : 19 มกราคม 2566
เธียร สตาร์ เผยว่า ในปี 2566 บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 41 ไร่ บริเวณหาด บางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
"เธียร สตาร์ กรุ๊ป" เจ้าของโครงการ The Ozone Group ทุ่ม 5.5 พันล้านเปิดโครงการใหม่ "ดิ โอโซน เรสซิเดนซ์" พูลวิลล่าสุดหรู และดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียม ใกล้หาดบางเทา ภูเก็ต ลูกค้าไทย-ต่างชาติแห่จองแล้วกว่า 40% พูลวิลล่าแบบ 3 ห้องนอนเกือบ sold out พร้อมเล็งเปิด The Ozone Campus Villa อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ
นายจุฑา เธียรสุคนธ์ ผู้บริหาร บริษัท เธียร สตาร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของโครงการ The Ozone Group ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการประเภทพูลวิลล่าหรู และ 2.โครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียม โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 41 ไร่ บริเวณหาด บางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทต้องลงทุนฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ กว่าจะรวบรวมที่ดินผืนดังกล่าวมาได้ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าววางลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทย และคนต่างชาติ ที่ต้องการอยู่อาศัย และลงทุนได้เลือกซื้อบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมอย่างคุ้มค่าที่สุด
นายอิลยาส ชื่นชุมทรัพย์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ โครงการ The Ozone Group กล่าวว่า ขณะนี้โครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียมมียอดจองแล้วกว่า 40% และโครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ แบบ 3 ห้องนอนเกือบจะ sold out แล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้มีกระแสตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้งคนไทย และคนต่างชาติ โดยเฉพาะช่วงนี้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก ทั้งรัสเซีย ยุโรป
"ดีไซน์ ทำเล แบบบ้าน แบบห้อง ของเราตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างดีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อ (freehold) และเช่าระยะยาว (leasehold)"
ด้าน นางสาวธนัชพร สมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแบรนด์ เรียลเอสเตท แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตสดใสแน่นอน เห็นได้จากยอดจองโครงการ ดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียมมียอดจองประมาณ 40% แล้ว ถือว่าตอบโจทย์ทั้งที่อยู่อาศัย เกิน 50% และการลงทุนปล่อยเช่ามีประมาณ 40-50% เทรนด์ของลูกค้าเป็นต่างชาติประมาณ 60% เป็นชาวจีน รัสเซีย ยุโรป และในอนาคตจะทำตลาดอินเดีย ในส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างมั่นใจว่าติดลำดับ ท็อปไฟฟ์ได้ในย่านโซนลากูน่า ภูเก็ต
"โครงการของเราได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า วี.ไอ.พี. เอเย่นต์ไทยและต่างชาติ ด้วยศักยภาพของทำเล เพราะสถานการณ์โควิดช่วงที่ผ่านมาทำให้ทำเลย่านนี้ยังไม่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา ทำเลตรงนี้มองว่าเปรียบเหมือน 'เพชร' เพราะที่ดินศักยภาพระดับนี้ในภูเก็ตหายาก
ถ้าเทียบกับสิงคโปร์ เวียดนาม ถือว่าราคาโครงการของเราไม่ได้แรง เรายังช่วยให้คำปรึกษาครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการขายแบบการเช่าซื้อต่าง ๆ สามารถมาปรึกษาได้ทั้งแบบ leasehold และ freehold กลุ่มทุนของเราเป็นคนไทยทั้งหมดเป็นคนภูเก็ตดั้งเดิม ขอให้มั่นใจได้ว่าไม่ทิ้งโครงการแน่นอน"
ด้านนายฮุก เกา (Hook Gao) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย กล่าวว่า ในเร็ว ๆ นี้ เครือดิ โอโซนเตรียมเปิดตัวโครงการ The Ozone Campus Villa ซึ่งเป็นวิลล่าหรู ทำเลศักยภาพอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติยูดับเบิลยูซี ประเทศไทย, ธัญญปุระสปอร์ตเซ็นเตอร์ และธัญญปุระโฮเทล
สำหรับรายละเอียดโครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการพูลวิลล่าหรู มีทั้งหมด 42 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา มีทั้งแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องนอน และ 5 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 28.9 ล้านบาท เมื่อลูกค้าจองเข้ามาแล้วจะทำการก่อสร้างตามการสั่งจอง แต่ละหลังจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 15-18 เดือนต่อหลัง โดยจะทยอยขายทีละเฟส ในส่วนพูลวิลล่าตั้งเป้าเกิน 1,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียม จำนวน 164 ยูนิต เป็นอาคารคอนโดมิเนียม 2 ตึก (8 ชั้น) อาคารร้านค้า 1 แห่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท 1 ห้องนอน : 125 ยูนิต, 2 ห้องนอน : 28 ยูนิต และ 2 ห้องนอนดูเพล็กซ์ : 11 ยูนิต ราคาขายคอนโดมิเนียม เริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการ คือ การออกโมเดิร์นผสมผสานความเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์หลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ทุกคน จะกังวลเรื่องสุขภาพ กลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน และคนต่างชาติวัยเกษียณ ซึ่งโครงการนี้ตอบโจทย์โลเกชั่น ที่มีความเป็นธรรมชาติ ใกล้ชายทะเล หาดบางเทา
บริษัท เธียร สตาร์ กรุ๊ป จำกัด มีโครงการ ที่พัฒนาก่อนหน้า เช่น โครงการ The Ozone Grand Residences (เดอะ โอโซน แกรนด์ เรสซิเดนซ์), เป็นต้น
นายจุฑา เธียรสุคนธ์ ผู้บริหาร บริษัท เธียร สตาร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของโครงการ The Ozone Group ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการประเภทพูลวิลล่าหรู และ 2.โครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียม โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 41 ไร่ บริเวณหาด บางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทต้องลงทุนฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ กว่าจะรวบรวมที่ดินผืนดังกล่าวมาได้ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าววางลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทย และคนต่างชาติ ที่ต้องการอยู่อาศัย และลงทุนได้เลือกซื้อบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมอย่างคุ้มค่าที่สุด
นายอิลยาส ชื่นชุมทรัพย์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ โครงการ The Ozone Group กล่าวว่า ขณะนี้โครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียมมียอดจองแล้วกว่า 40% และโครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ แบบ 3 ห้องนอนเกือบจะ sold out แล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้มีกระแสตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้งคนไทย และคนต่างชาติ โดยเฉพาะช่วงนี้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก ทั้งรัสเซีย ยุโรป
"ดีไซน์ ทำเล แบบบ้าน แบบห้อง ของเราตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างดีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อ (freehold) และเช่าระยะยาว (leasehold)"
ด้าน นางสาวธนัชพร สมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแบรนด์ เรียลเอสเตท แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตสดใสแน่นอน เห็นได้จากยอดจองโครงการ ดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียมมียอดจองประมาณ 40% แล้ว ถือว่าตอบโจทย์ทั้งที่อยู่อาศัย เกิน 50% และการลงทุนปล่อยเช่ามีประมาณ 40-50% เทรนด์ของลูกค้าเป็นต่างชาติประมาณ 60% เป็นชาวจีน รัสเซีย ยุโรป และในอนาคตจะทำตลาดอินเดีย ในส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างมั่นใจว่าติดลำดับ ท็อปไฟฟ์ได้ในย่านโซนลากูน่า ภูเก็ต
"โครงการของเราได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า วี.ไอ.พี. เอเย่นต์ไทยและต่างชาติ ด้วยศักยภาพของทำเล เพราะสถานการณ์โควิดช่วงที่ผ่านมาทำให้ทำเลย่านนี้ยังไม่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา ทำเลตรงนี้มองว่าเปรียบเหมือน 'เพชร' เพราะที่ดินศักยภาพระดับนี้ในภูเก็ตหายาก
ถ้าเทียบกับสิงคโปร์ เวียดนาม ถือว่าราคาโครงการของเราไม่ได้แรง เรายังช่วยให้คำปรึกษาครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการขายแบบการเช่าซื้อต่าง ๆ สามารถมาปรึกษาได้ทั้งแบบ leasehold และ freehold กลุ่มทุนของเราเป็นคนไทยทั้งหมดเป็นคนภูเก็ตดั้งเดิม ขอให้มั่นใจได้ว่าไม่ทิ้งโครงการแน่นอน"
ด้านนายฮุก เกา (Hook Gao) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย กล่าวว่า ในเร็ว ๆ นี้ เครือดิ โอโซนเตรียมเปิดตัวโครงการ The Ozone Campus Villa ซึ่งเป็นวิลล่าหรู ทำเลศักยภาพอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติยูดับเบิลยูซี ประเทศไทย, ธัญญปุระสปอร์ตเซ็นเตอร์ และธัญญปุระโฮเทล
สำหรับรายละเอียดโครงการดิ โอโซน เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการพูลวิลล่าหรู มีทั้งหมด 42 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา มีทั้งแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องนอน และ 5 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 28.9 ล้านบาท เมื่อลูกค้าจองเข้ามาแล้วจะทำการก่อสร้างตามการสั่งจอง แต่ละหลังจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 15-18 เดือนต่อหลัง โดยจะทยอยขายทีละเฟส ในส่วนพูลวิลล่าตั้งเป้าเกิน 1,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการดิ โอโซน ลากูเนีย คอนโดมิเนียม จำนวน 164 ยูนิต เป็นอาคารคอนโดมิเนียม 2 ตึก (8 ชั้น) อาคารร้านค้า 1 แห่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท 1 ห้องนอน : 125 ยูนิต, 2 ห้องนอน : 28 ยูนิต และ 2 ห้องนอนดูเพล็กซ์ : 11 ยูนิต ราคาขายคอนโดมิเนียม เริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการ คือ การออกโมเดิร์นผสมผสานความเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์หลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ทุกคน จะกังวลเรื่องสุขภาพ กลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน และคนต่างชาติวัยเกษียณ ซึ่งโครงการนี้ตอบโจทย์โลเกชั่น ที่มีความเป็นธรรมชาติ ใกล้ชายทะเล หาดบางเทา
บริษัท เธียร สตาร์ กรุ๊ป จำกัด มีโครงการ ที่พัฒนาก่อนหน้า เช่น โครงการ The Ozone Grand Residences (เดอะ โอโซน แกรนด์ เรสซิเดนซ์), เป็นต้น
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ