สศช.จ่อปรับตัวเลขจีดีพีใหม่
Loading

สศช.จ่อปรับตัวเลขจีดีพีใหม่

วันที่ : 11 มกราคม 2566
สศช. กล่าวว่าในปีนี้ สศช.คาดการณ์จีดีพีว่าจะขยายตัวประมาณ 3-4% แม้ว่าภาคท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเร็วขึ้น แต่เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องจับตามอง คือ ภาคการส่งออกที่มีสัดส่วนต่อจีดีพีถึง 70% ซึ่งภาคการส่งออกอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลดถดถอย
          "อาคม" สั่ง สศค.เกาะติดเศรษฐกิจโลกถดถอย

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ ตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทย โดยเฉพาะเมื่อจีนเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางท่องเที่ยว ประเทศไทยคือเป้าหมายที่จะมาท่องเที่ยวจึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวเติบโตอย่างแน่นอน

          นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า สศช.จะปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยใหม่หลังจากที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ว่าจะเป็นครึ่งปีหลังของปี 2566 ซึ่งเดิม สศช.คาดไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 23 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท ในตอนนี้ขอรอดูสถานการณ์ 2-3 สัปดาห์และจะมีการปรับตัวเลขใหม่โดยจะมีความชัดเจนในการแถลงข้อมูลดังกล่าวนี้ในการแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2565 ในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้

          ส่วนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนเร็วขึ้นจะมีผลต่อจีดีพีในปีนี้หรือไม่ เลขาธิการสศช.กล่าวว่าในปีนี้ สศช.คาดการณ์จีดีพีว่าจะขยายตัวประมาณ 3-4% แม้ว่าภาคท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเร็วขึ้น แต่เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องจับตามอง คือ ภาคการส่งออกที่มีสัดส่วนต่อจีดีพีถึง 70% ซึ่งภาคการส่งออกอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลดถดถอย

          "ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยต้องรักษาโมเมนตั้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้โดยอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ และการลงทุนของภาครัฐ โดยขณะนี้กระทรวงการคลังได้พยายามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเพื่อให้เงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจตามที่กำหนดไว้ตามแผนมากที่สุด"
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ