ธุรกิจอสังหาฯโคราชยังแข่งเดือด "อยู่สบาย" เจ้าใหญ่บ้านเดี่ยวกลุ่มตลาดแมส ประกาศความสำเร็จทะลุ 20 โครงการกว่า 4,000 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้าน พร้อมสยายปีกบุกทำเลอีกฝั่งสร้างเมืองใหม่โคราช บนพื้นที่ 1,000 ไร่ ขณะ "คลังคาซ่า" ยักษ์อสังหาฯ อีกราย ลุยธุรกิจให้เช่าต่อเนื่องดึงพันธมิตรร่วมสร้าง New CBD ที่สมบูรณ์แบบ คาดปีหน้าสดใสโตต่อเนื่อง เลือกตั้งและการท่องเที่ยวหนุนส่งคึกคัก

          นายวิวัฒน์ วัฒนสินศักดิ์ ประธานกรรมการบริษัทโชควิวัฒน์พร็อพเพอตี้ จำกัด เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรรายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่อ โครงการบ้าน "อยู่สบาย" เปิดเผยว่า โครงการบ้านอยู่สบาย ยึดทำเลโซน ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา สร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวโดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้า B+ ลงมา ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของ จ.นครราชสีมา เช่น พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม คนรับจ้างทั่วไปก็สามารถเข้ามาอยู่ในโครงการบ้านอยู่สบายได้ โดยราคาเริ่มต้นที่ 9 แสนบาทถึงกว่า 2 ล้านบาท บนพื้นที่ประมาณ 54 ตารางวา

          ปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 20 โครงการรวมกว่า 4.000-5,000 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการบ้านอยู่สบายคือราคาดีที่สุด ไม่แพง ทุกโครงการติดถนนใหญ่ เน้นคุณภาพบ้านและบริการหลังการขายที่เราไม่เคยทิ้งลูกค้า ดูแลเหมือนญาติมิตร

          "ผมคิดว่าเกิดมาชาติหนึ่งได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง ก็มีความสุข เราสร้างบ้านมาเมื่อขายได้กำไร เราก็คืนสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือด้วยการสร้างสาธารณูปโภคให้ชุมชนรอบๆ โครงการมอบเงินช่วยเหลือสาธารณะต่างๆ ทั้งการก่อสร้างโรงเรียน การแจกสิ่งของข้าวกล่องให้ประชาชนในยุคโควิดระบาด เราทำมาโดยตลอด" นายวิวัฒน์ กล่าว

          นายวิวัฒน์กล่าวต่อว่า รูปแบบบ้าน โครงการ "อยู่สบาย" ปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านไปตามยุคสมัยเพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง เราสร้างชุมชนใหม่ขึ้นมาให้ประชาชนได้อาศัยอยู่อย่างมีความสุข คนที่ซื้อบ้านกับโครงการอยู่สบาย เหมือนการมาลงทุน เพราะเมื่อซื้อบ้านราคาไม่แพงกับโครงการ เวลาผ่านไปลูกค้าจะ ขายก็ได้กำไรแน่นอน เสมือนการลงทุนทุกคนก็มีความสุข

          วันนี้ "อยู่สบาย" เติบโตและแข็งแกร่ง อย่างมาก และเรากำลังจะสร้างเมืองใหม่ในพื้นที่ บึงทับช้าง-จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โครงการนี้จะเป็นโครงการใหญ่ที่สุดของ "อยู่สบาย" เรามีพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ที่จะพัฒนา ขณะนี้ได้ทำการเปิดขายบ้านไปแล้ว 5 โครงการ รวมกว่า 1,200 ยูนิต ปิดการขายไปแล้ว 500-600 ยูนิต โครงการที่นี่จะมีความทันสมัยและครบครันมากที่สุดของ "อยู่สบาย" เป็นรูปแบบใหม่ของหมู่บ้านตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคดิจิทัล

          นายวิวัฒน์ กล่าวถึงตลาดการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมา ว่า นครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่มีผู้ประกอบการในพื้นที่และต่างถิ่นเข้ามาร่วมแชร์ตลาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่าการแข่งขันมีสูง อาจด้วยเพราะศักยภาพของเมืองที่กำลังเจริญเติบโต ดูจากตัวเลขการขายบ้านพบว่า เริ่มมีลูกค้าจากกรุงเทพฯ สนใจเข้ามาซื้อบ้านไว้ที่โคราช เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5 ถือเป็นกลุ่มที่น่าสนใจอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเขามองว่า การ เดินทางจากกรุงเทพฯ มาโคราชใช้เวลาไม่นาน

          โดยเฉพาะหากการก่อสร้างมอเตอร์ เวย์บางปะอิน-โคราช แล้วเสร็จ รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง แล้วเสร็จโคราชจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แน่นอน ส่วนตลาดอสังหาฯ ในปีหน้า อาจประสบปัญหาทั้งเรื่องการไม่ต่ออายุ LTV ค่าจดจำนองที่อาจจะไม่ได้ต่ออายุ รวมถึงการจัดเก็บภาษี หรือค่าธรรมเนียม ซ้ำซ้อนทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระสิ่งนี้ต้องระวัง

          ด้าน นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของ จ.นครราชสีมาและภาคอีสาน เจ้าของโครงการ "ซิตี้ลิ้งค์" มูลค่าโครงการกว่า 1 หมื่นล้านบาท เปิดเผยว่า ตลาดอสังหา ริมทรัพย์ของจังหวัดนครราชสีมาปีนี้ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา "ซิตี้ลิ้งค์" ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาพื้นที่กว่า 300 ไร่ให้เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ของเมืองโคราช

          ขณะนี้เราได้พัฒนาพื้นที่ไปแล้วร้อยละ 70 ในพื้นที่มีทั้งที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม โรงแรม Mayfair Market ร้านค้า ร้านอาหาร ครบครัน และเหลือพื้นที่อีก 50 ไร่ โดยเน้นให้เช่าเป็นหลัก กลุ่มลูกค้าของโครงการเป็นกลุ่มA และ A+ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการกู้เงินกับธนาคารโดยร้อยละ 60-70 ลูกค้าซื้ออสังหาฯ เป็นเงินสด ฉะนั้นทางโครงการจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้โดยยอดขายในปีนี้ใกล้เคียงจากปีที่ผ่านมา

          อย่างไรก็ตามสำหรับปีหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของ จ.นครราชสีมา ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และปีหน้าจะเห็นความชัดเจนสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ รวมการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มการหมุนเวียนของเงินมากยิ่งขึ้น

          สำหรับธุรกิจของคลังคาซ่าจะเน้นไปที่ธุรกิจให้เช่า ทั้งการบริการเช่าพื้นที่ในการประกอบธุรกิจรวมถึงการให้บริการห้องเช่าคอนโดฯ การทำตลาดให้เช่า ซึ่งธุรกิจนี้ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องประกอบกับทำเลของโครงการที่อยู่กลางใจเมืองโคราช เป็นทำเลทองเพียงแห่งเดียว และหาได้ยากในปัจจุบัน โดยเราพัฒนาพื้นที่ไปแล้วกว่า 70% เหลือพื้นที่อีกประมาณ 50 ไร่ โดยจะเป็นพื้นที่ให้เช่าส่วนใหญ่

          ขณะเดียวกัน ยังคงขายอสังหาฯแนวดิ่ง คือ คอนโดมิเนียมหรูเป็นตึก เคมบริดจ์ขนาด 75 ยูนิต ซึ่งปลายปีนี้ได้เปิดขายคอนโดแท่งที่ 12 คือ ตึกแอสตัน ขณะนี้ขายไปได้แล้วร้อยละ 30 วันนี้คลังคาซ่าเดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมุ่งสร้าง New CBD (Central Business District) หรือศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ของเมืองโคราช ขณะนี้ถือว่าเราได้สร้างเมืองใหม่ให้กับโคราชได้ใกล้สมบูรณ์แบบแล้ว