คัลเลอร์ฯ บุกแนวราบEEC ปักหมุดรอยต่อกทม.รับตลาด
วันที่ : 29 พฤศจิกายน 2565
คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยถึงภาคอสังหาฯ ใน EEC เป็นอะไรที่น่าจับตามอง หาก EEC สามารถทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งบางเรื่องก็มีความชัดเจน ทั้งนี้ ภาคอสังหาฯ มีศักยภาพในการเติบโตอยู่แล้ว แม้จะไม่มี EEC
"คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ" อสังหาฯ โซน EEC มองประเทศไทยโชคดี ท่องเที่ยว การเกษตรแข็งแกร่ง ชี้ศักยภาพอสังหาฯ EEC เติบโตดี พร้อมขยับลงทุนพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล บุกสร้างพอร์โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม รับกำลังซื้อ กลุ่ม 2 ล้านบาทถึง 15 ล้านบาท
นายภาค ธนาอัครชล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ภาคตะวันออกและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 ว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจทุกประเทศทั่วโลกมีการอ่อนแรงเหมือนกันหมด แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีความแข็งแกร่งด้านท่องเที่ยว การเกษตร การผลิต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถปรับตัวได้มากน้อยเพียงใด
ขณะที่ภาคอสังหาฯ ใน EEC เป็นอะไรที่น่าจับตามอง หาก EEC สามารถทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งบางเรื่องก็มีความชัดเจน ทั้งนี้ ภาคอสังหาฯ มีศักยภาพในการเติบโตอยู่แล้ว แม้จะไม่มี EEC แต่หากมีตัวจุดฉนวนให้ในเรื่องที่ดีจะยิ่งโตเร็ว เช่นหากมีการกำหนดโซนนิ่งที่ชัดเจนในการลงทุน จะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการลงทุนมากขึ้น"
สำหรับธุรกิจอสังหาฯสิ่งที่สะท้อนไปยังผู้บริโภค คือ ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าและคุณภาพ เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้า โดยในส่วนของบริษัทเองก็ต้องแข่งขันกับตัวเอง ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน
"ธุรกิจอสังหาฯนับวันจะมีโจทย์ยากเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเพิ่มศักยภาพการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสและกระจายความเสี่ยงด้วย เช่น การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีโอกาสเข้าไปลงทุน และมีผลในเชิงบวก โดยทางบริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตที่ยังยืน เช่น ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ หรือที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงานสะอาด โซลาร์เซลล์ คาดครึ่งหลังปี2566 จะเห็นความชัดเจนทั้งหมด"
นายภาค กล่าว สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ นับจากนี้จะเป็นการพัฒนาโครงการในพื้นที่ EEC สัดส่วนประมาณ 70% และพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 30% โดยในปี 2566 มีแผนเปิดตัวใหม่อย่างน้อย 3 โครงการ รวมมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ย่านพัทยา 1 โครงการ, ย่านหทัยราษฎร์ 1 โครงการ รูปแบบบ้านแฝด ราคา 4-7 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว แบรนด์ใหม่ ย่านบางนา 1 โครงการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนความคืบหน้าโครงการ "อุ่น บางนา กม.26" ตั้งอยู่บริเวณย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ บนพื้นที่ 25 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ขนาด 18.53-28.88 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 2.59-4 ล้านบาท จำนวน 273 ยูนิต มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือน ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เปิดขายไปแล้ว 3 เฟส มียอดขายแล้ว 220 ยูนิต คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในปี 2567
"เรามั่นใจว่ามีศักยภาพในการขยายการลงทุนมายังพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เนื่องจากมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการแนวราบ ในพื้นที่ EEC มาแล้ว 40-50 โครงการ และพัฒนาโครงการแนวสูงรวม 6-7 โครงการ จึงมองเห็นโอกาสที่เข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี"
โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินในย่านสมุทรปราการ จำนวน 2 แปลงๆ แรก มีพื้นที่ 15 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคา 10-15 ล้านบาท ส่วนอีกแปลง มีพื้นที่ 30 กว่าไร่ มีแผนพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 2.2-3.7 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ สำหรับบริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นการร่วมทุนของ 3 กลุ่มคือ ในส่วนของตน, กลุ่มนายเฉลิมพล โขนแจ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด และนายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นายภาค ธนาอัครชล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ภาคตะวันออกและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 ว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจทุกประเทศทั่วโลกมีการอ่อนแรงเหมือนกันหมด แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีความแข็งแกร่งด้านท่องเที่ยว การเกษตร การผลิต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถปรับตัวได้มากน้อยเพียงใด
ขณะที่ภาคอสังหาฯ ใน EEC เป็นอะไรที่น่าจับตามอง หาก EEC สามารถทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งบางเรื่องก็มีความชัดเจน ทั้งนี้ ภาคอสังหาฯ มีศักยภาพในการเติบโตอยู่แล้ว แม้จะไม่มี EEC แต่หากมีตัวจุดฉนวนให้ในเรื่องที่ดีจะยิ่งโตเร็ว เช่นหากมีการกำหนดโซนนิ่งที่ชัดเจนในการลงทุน จะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการลงทุนมากขึ้น"
สำหรับธุรกิจอสังหาฯสิ่งที่สะท้อนไปยังผู้บริโภค คือ ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าและคุณภาพ เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้า โดยในส่วนของบริษัทเองก็ต้องแข่งขันกับตัวเอง ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน
"ธุรกิจอสังหาฯนับวันจะมีโจทย์ยากเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเพิ่มศักยภาพการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสและกระจายความเสี่ยงด้วย เช่น การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีโอกาสเข้าไปลงทุน และมีผลในเชิงบวก โดยทางบริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตที่ยังยืน เช่น ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ หรือที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงานสะอาด โซลาร์เซลล์ คาดครึ่งหลังปี2566 จะเห็นความชัดเจนทั้งหมด"
นายภาค กล่าว สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ นับจากนี้จะเป็นการพัฒนาโครงการในพื้นที่ EEC สัดส่วนประมาณ 70% และพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 30% โดยในปี 2566 มีแผนเปิดตัวใหม่อย่างน้อย 3 โครงการ รวมมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ย่านพัทยา 1 โครงการ, ย่านหทัยราษฎร์ 1 โครงการ รูปแบบบ้านแฝด ราคา 4-7 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว แบรนด์ใหม่ ย่านบางนา 1 โครงการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนความคืบหน้าโครงการ "อุ่น บางนา กม.26" ตั้งอยู่บริเวณย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ บนพื้นที่ 25 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ขนาด 18.53-28.88 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 2.59-4 ล้านบาท จำนวน 273 ยูนิต มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือน ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เปิดขายไปแล้ว 3 เฟส มียอดขายแล้ว 220 ยูนิต คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในปี 2567
"เรามั่นใจว่ามีศักยภาพในการขยายการลงทุนมายังพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เนื่องจากมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการแนวราบ ในพื้นที่ EEC มาแล้ว 40-50 โครงการ และพัฒนาโครงการแนวสูงรวม 6-7 โครงการ จึงมองเห็นโอกาสที่เข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี"
โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินในย่านสมุทรปราการ จำนวน 2 แปลงๆ แรก มีพื้นที่ 15 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคา 10-15 ล้านบาท ส่วนอีกแปลง มีพื้นที่ 30 กว่าไร่ มีแผนพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 2.2-3.7 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ สำหรับบริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นการร่วมทุนของ 3 กลุ่มคือ ในส่วนของตน, กลุ่มนายเฉลิมพล โขนแจ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด และนายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ