ILM ปีหน้าเปิด2สาขาใหม่ เพิ่มพื้นที่เช่า8,000ตร.ม.
วันที่ : 25 พฤศจิกายน 2565
บริษัทเตรียมเปิดสาขา Index Living Mall ลาดกระบัง คาดใช้งบลงทุนต่อ 1 สาขาราวๆ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดในช่วงเดือนธันวาคม 2565 นี้ โดยเป็นสาขาในรูปแบบมิกซ์ยูส (MixedUse) ซึ่งมีพื้นที่เช่าและปัจจุบันมีผู้เช่าครบ 100%
ILM กางแผนเปิดสาขา Index Living Mall ปี 2566 เพิ่ม 2 สาขา คาดใช้งบลงทุนต่อ 1 สาขา ราวๆ 100 ล้านบาท ลุยขยายพื้นที่เช่าประมาณ 5,000-8,000 ตารางเมตร ล่าสุดเตรียมเปิดสาขา Index Living Mall ลาดกระบัง หวังช่วยดันยอดขาย พร้อมตั้งเป้ารายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ภายใน 1-2 ปีนี้ โบรกคาดการณ์แนวโน้ม ไตรมาส 4/2565 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น เคาะราคาพื้นฐาน 22.80 บาท
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดสาขา Index Living Mall ลาดกระบัง คาดใช้งบลงทุนต่อ 1 สาขาราวๆ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดในช่วงเดือนธันวาคม 2565 นี้ โดยเป็นสาขาในรูปแบบมิกซ์ยูส (MixedUse) ซึ่งมีพื้นที่เช่าและปัจจุบันมีผู้เช่าครบ 100%
โดยในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 บริษัทไม่ได้มี การเปิดสาขา และลงทุนอะไรเพิ่มเติมมากนักเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งการเปิดสาขาใหม่นี่บริษัทก็คาดว่าจะเข้ามาสนับสนุนรายได้ในช่วงปี 2566 ได้เป็นอย่างดี และในปี 2566 บริษัทก็มีแผนเปิดสาขา Index Living Mall เพิ่มอีก 2 สาขา และตั้งเป้าขยายพื้นที่เช่าประมาณ 5,000-8,000 ตารางเมตร ต่อปี และตั้งเป้าขยายสาขาประมาณ 1-2 สาขาต่อปี
"บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 1-2 ปีนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผลกระทบจาก โควิด-19 ทำให้ผลการดำเนินงานชะลอตัว และบริษัทมองภาพว่าปัจจุบันประเทศเริ่มเปิด และรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การท่องเที่ยวมีความคึกคักมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากสาขาของบริษัทที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวมีการเติบโตได้ดีขึ้นมาก ซึ่งในปี 2566 คาดว่าหากนโยบายของรัฐบาลยังเป็นไปในรูปแบบนี้ก็น่าจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี" นางสาวกฤษชนก กล่าว
จับตาโค้งท้ายพีค
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ และล่าสุดแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน สถานบันเทิง-ร้านอาหารขยายเวลาการเปิด-ปิดเพิ่มขึ้น ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีต่อเนื่อง 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.65) ช่วยสร้างบรรยากาศการช็อปและกระตุ้นให้การเฉลิมฉลองส่งท้ายปีของคนไทยกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่างานโครงการบ้าน หรือคอนโดมิเนียมต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 บริษัทจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริษัทมียอดรับรู้รายได้ (Backlog) มาโดยตลอด ซึ่งก็จะสนับสนุนรายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายเติบโตทั้ง YoY และ QoQ
ทั้งนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นในสาขา "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ร่วมต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขที่สุดแห่งปี กับ บิ๊กแคมเปญ "Gift of Happiness" ภายใต้แนวคิด "Never Ending Happiness 2023" #เปลี่ยนปีสุดปัง อินทั้งซีซัน กับเทศกาลความสุขไม่รู้จบ ชวนคนรักบ้านมาแบ็กอัพความสุขให้บ้านและตัวเอง ด้วยการเติมสีสันความสนุกอินกับบรรยากาศ Festive สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆในทุกมุมบ้าน และบิวท์ความสุขให้ตัวเองและคนในครอบครัวที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุกสาขา เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 - 4 มกราคม 2566
เคาะเป้า 22.80 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ILM ว่า คาดการณ์แนวโน้มไตรมาส 4/2565 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน และการเปิดสาขาใหม่ แม้ยอดขายต่อสาขาเดิม หรือ SSSG จะทรงตัวจากน้ำท่วมก่อน แต่ค่อยๆ ดีขึ้น อีกทั้งลุ้นรัฐออกมาตรการกระตุ้นปลายปี โดยฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น ILM ให้ราคาพื้นฐานปี 2565 อยู่ที่ 22.80 บาท
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดสาขา Index Living Mall ลาดกระบัง คาดใช้งบลงทุนต่อ 1 สาขาราวๆ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดในช่วงเดือนธันวาคม 2565 นี้ โดยเป็นสาขาในรูปแบบมิกซ์ยูส (MixedUse) ซึ่งมีพื้นที่เช่าและปัจจุบันมีผู้เช่าครบ 100%
โดยในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 บริษัทไม่ได้มี การเปิดสาขา และลงทุนอะไรเพิ่มเติมมากนักเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งการเปิดสาขาใหม่นี่บริษัทก็คาดว่าจะเข้ามาสนับสนุนรายได้ในช่วงปี 2566 ได้เป็นอย่างดี และในปี 2566 บริษัทก็มีแผนเปิดสาขา Index Living Mall เพิ่มอีก 2 สาขา และตั้งเป้าขยายพื้นที่เช่าประมาณ 5,000-8,000 ตารางเมตร ต่อปี และตั้งเป้าขยายสาขาประมาณ 1-2 สาขาต่อปี
"บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 1-2 ปีนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผลกระทบจาก โควิด-19 ทำให้ผลการดำเนินงานชะลอตัว และบริษัทมองภาพว่าปัจจุบันประเทศเริ่มเปิด และรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การท่องเที่ยวมีความคึกคักมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากสาขาของบริษัทที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวมีการเติบโตได้ดีขึ้นมาก ซึ่งในปี 2566 คาดว่าหากนโยบายของรัฐบาลยังเป็นไปในรูปแบบนี้ก็น่าจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี" นางสาวกฤษชนก กล่าว
จับตาโค้งท้ายพีค
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ และล่าสุดแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน สถานบันเทิง-ร้านอาหารขยายเวลาการเปิด-ปิดเพิ่มขึ้น ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีต่อเนื่อง 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.65) ช่วยสร้างบรรยากาศการช็อปและกระตุ้นให้การเฉลิมฉลองส่งท้ายปีของคนไทยกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่างานโครงการบ้าน หรือคอนโดมิเนียมต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 บริษัทจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริษัทมียอดรับรู้รายได้ (Backlog) มาโดยตลอด ซึ่งก็จะสนับสนุนรายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายเติบโตทั้ง YoY และ QoQ
ทั้งนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นในสาขา "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ร่วมต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขที่สุดแห่งปี กับ บิ๊กแคมเปญ "Gift of Happiness" ภายใต้แนวคิด "Never Ending Happiness 2023" #เปลี่ยนปีสุดปัง อินทั้งซีซัน กับเทศกาลความสุขไม่รู้จบ ชวนคนรักบ้านมาแบ็กอัพความสุขให้บ้านและตัวเอง ด้วยการเติมสีสันความสนุกอินกับบรรยากาศ Festive สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆในทุกมุมบ้าน และบิวท์ความสุขให้ตัวเองและคนในครอบครัวที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุกสาขา เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 - 4 มกราคม 2566
เคาะเป้า 22.80 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ILM ว่า คาดการณ์แนวโน้มไตรมาส 4/2565 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน และการเปิดสาขาใหม่ แม้ยอดขายต่อสาขาเดิม หรือ SSSG จะทรงตัวจากน้ำท่วมก่อน แต่ค่อยๆ ดีขึ้น อีกทั้งลุ้นรัฐออกมาตรการกระตุ้นปลายปี โดยฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น ILM ให้ราคาพื้นฐานปี 2565 อยู่ที่ 22.80 บาท
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ