คอลัมน์ Property Key: โค้งสุดท้ายลงทุนอสังหาฯ
Loading

คอลัมน์ Property Key: โค้งสุดท้ายลงทุนอสังหาฯ

วันที่ : 29 กันยายน 2565
นอกจากโครงการบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ จะมีแนวโน้มดีขึ้น สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดก็ได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาหลายรายเปิดโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ อาทิ จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง และสงขลา
          อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ

          กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

          ไปต่อได้...มีปัจจัยบวกเป็นแรงเสริม

          ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโค้งสุดท้ายของปี 2565 นี้ แนวโน้มคาดการณ์ว่าจะกลับมาฟื้นตัวด้วยหลายๆ ปัจจัยที่เป็นบวกอยู่ จากข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ในปีนี้ พบว่ามีสัดส่วน ในตลาดที่เสนอขายอยู่ แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 119,483 หน่วย และ โครงการอาคารชุด จำนวน 80,466 หน่วย จะเห็นว่าความต้องของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยในแนบราบเพิ่มขึ้น

          โดยทำเลบ้านจัดสรรที่มียอดขายสูงสุด 5 อันดับแรก 1.โซนบางพลีบางบ่อบางเสาธง 2.โซนลำลูกกาคลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ 3.โซนบางใหญ่-บางบัวทองบางกรวย-ไทรน้อย 4.โซนเมืองสมุทรปราการพระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ 5.หลักสี่ดอนเมือง-สายไหม-บางเขน รวมถึงได้อานิสงส์จากรัฐในเรื่องการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ช่วยลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง ซึ่งส่งผลและเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

          นอกจากโครงการบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ จะมีแนวโน้มดีขึ้น สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดก็ได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาหลายรายเปิดโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ อาทิ จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง และสงขลา

          โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ ภูเก็ต เนื่องจากมี Demand-Supply ของคนไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง กลุ่มตลาดคนไทย จะเป็นกลุ่มตลาดคนทำงานในภูเก็ต ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย ในระดับราคาไม่สูงมาก คือไม่เกิน 2.5 ล้านบาท

          ส่วนกลุ่มตลาดต่างชาติ มักเป็นนักธุรกิจ หรือครอบครัว เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มองหาบ้านพักตากอากาศ หรือ วิลล่าระดับลักชัวรี ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยพื้นที่ในภูเก็ต ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มต่างชาติภูเก็ต ได้แก่ โซนกมลา เทพกระษัตรี ราไวย์ รวมถึงโซนเชิงทะเลที่เป็นทำเลน่าจับตา ด้วยความสมบูรณ์โดยรอบยังมีมาก จึงได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการวิลล่าบริเวณนี้เพิ่มมากขึ้น

          สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตคาดการณ์ว่าตลาดในส่วนของชาวต่างชาติ กลุ่มลักชัวรีมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้นจากปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 50% และมูลค่าการซื้อขายไม่น่าจะต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และในปีหน้า คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท นับว่าเป็นโอกาสทองในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกช่องทางหนึ่ง

          อย่างไรก็ดี นอกจากปัจจัยบวกแล้ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต้องเตรียมรับมือความเสี่ยงจากปัจจัยที่รุมเร้า จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองทั่วโลก การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน ต่างๆ สภาวะการจ้างงานถดถอย การฟื้นตัวของธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว และบริการที่นับว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

          ทั้งนี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวของ ภาครัฐที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นตัวหนุนเรื่องรายได้ของประชาชนเพิ่มเติม อาทิ นโยบายยกเลิกการลงทะเบียนไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่งผลบวกมากขึ้น พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยมีอัตราการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. ที่ผ่านมา มากกว่าปี 2564 ในช่วงการระบาดของโควิดถึง 213% คิดเป็นอัตราการท่องเที่ยวกว่า 117 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านเป็นอีกหนึ่งความหวังในการฟื้นฟู การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ

          จากข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี คาดการณ์ว่า การเปิดประเทศจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 69% เมื่อเทียบกับช่วงปี 2564 โดยจะสร้างรายได้รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 717 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่ส่งสัญญาณบวกไปถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

          ด้วยปัจจัยการกลับมาของนักท่องเที่ยวทำให้เกิดรายได้ สร้างเม็ดเงินภายในประเทศแบบองค์รวม และยังส่งผลเห็นถึงโอกาสว่าไตรมาสสุดท้ายนี้ ความต้องการในด้านที่อยู่อาศัยในตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะกลับมา คึกคักอีกครั้ง