กระอักพิษโควิด-ยอดรวมเฉียด 3 ล้านล้านบาท

          คลังผนึกธปท. เดินเครื่อง "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" ปูพรมช่วยลูกหนี้ร่วมพิษโควิดเหลือลูกหนี้ในความช่วยเหลือ 3.9 ล้านบัญชี ยอดหนี้เกือบ 3 ล้านล้านบาท

          นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรม.พลังงาน กล่าวในงานแถลงข่าว "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้  : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นและสามารถเติบโตต่อไปได้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชนก็จะฟื้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นผลจากราคาพลังงานและราคาสินค้า ประกอบกับปัญหาหนี้สินที่เป็นผลกระทบสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ งานดังกล่าว จึงเป็นโอกาสที่ดีในการแก้ปัญหาหนี้ของประชาชนให้ลดลงไปอยู่ในระดับที่พอจะดูแลตัวเองได้

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ปีนี้เป็นปีแห่งการแก้ไขหนี้ภาคประชาชนแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจจะเริ่มเฟื้ฟื้นตัวนตัวดีดีขึ้น ขึ้น แต่ปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้รายย่อยยังมีอยู่ คลังจึงหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ทุกฝ่ายเป็นห่วง

          "งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ในครั้งหนี้ ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินกว่า 60 แห่ง รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่จะมีมาตรการพิเศษออกมาเพื่อให้ลูกหนี้สมัครใจเข้าร่วมโครงการ นายอาคมกล่าว

          นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่ สะสมมานาน และถูกซ้ำเติมให้รุนแรงขึ้นในช่วงโควิด-19 เห็นได้จากปี 2553 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 60% ต่อจีดีพี ผ่านไป 10 ปี หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ต่อจีดีพีในปี 2562 และ เพิ่มขึ้นเป็น 90% ในไตรมาส 1/2564 จากโควิด-19 ขณะที่ล่าสุดในไตรมาส 2/2565 หนี้หนี้ครัวเรือนครัวลดลงมาอยู่ที่ 88%

          ทั้งนี้ ในช่วงโควิด 19 ธปท. และคลัง ออกมาตรการทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ให้ตรงจุดโดย ณ เดือนก.ค. 2563 สถาบันการเงิน ได้ช่วยเหลือลูกหนี้สะสมสูงสุดที่ 12.5 ล้านบัญชี ยอดหนี้รวม 7.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นราว 40% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบ ก่อนทยอยลดลง ล่าสุด ณ เดือนมิ.ย. 2565 คงเหลือลูกหนี้ในความช่วยเหลือรวม 3.9 ล้านบัญชี ยอดหนี้เกือบ 3 ล้านล้านบาท หรือ 14% ของสินเชื่อรวม

          อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไป ธปท. จะออกแนวนโยบาย การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน (directional paper) ภายในปี 2565