กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แนะนำ "Neutral" หรือเท่าตลาด หลัง 11 บริษัท แจ้งงบไตรมาส 2 ปี 65 ที่ 9.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน ผลมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นของกลุ่มแข็งแกร่ง คาด Dividend Yield  ช่วงครึ่งปีหลังของกลุ่มที่ระดับ 3.4%-8.1% ช่วยจำกัด Downside Risk ในสภาวะตลาดที่ผันผวน พร้อมยกให้ ORI เป็น Top Pick กลุ่มแนวสูง จากแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังโตเด่น แนวราบขนาดใหญ่ให้ AP รวมทั้ง LH และ BRI กำไรเติบโต

          บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 11 บริษัทภายใต้ Coverage ของ บล.หยวนต้าฯ คำแนะนำ "Neutral" หรือเท่าตลาด หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 65 ที่ 9.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน เป็นผลมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมที่เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน และ 2% จากปีก่อน เป็น 4.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 65 คิดเป็น 48% เมื่อเทียบกับประมาณการทั้งปี

          สำหรับแนวโน้มกำไรปกติของกลุ่มในช่วงครึ่งปีหลัง คาดเติบโตเทียบครึ่งปีและปีต่อปี จากตารางการส่งมอบโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ที่กระจุกตัวในครึ่งปีหลังรวมมูลค่า 8.6 หมื่นล้านบาท และแผนเปิดโครงการใหม่ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญรวมมูลค่า 2.0 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65% จากครึ่งปีก่อน และ 150% เทียบปีก่อน

          โดยแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นของกลุ่มยังคงแข็งแกร่ง Valuation ณ ระดับราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER 65 เฉลี่ยเพียง 8.3x พร้อมทั้งคาด Dividend Yield ในช่วงครึ่งปีหลังของกลุ่มที่ระดับ 3.4%-8.1% จะช่วยจำกัด Downside Risk ในสภาวะตลาดที่ผันผวน

          ดังนั้น บล.หยวนต้าฯ เลือก ORI หรือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็น Top Pick กลุ่มแนวสูงจากแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง เติบโตโดดเด่นหนุนจากการรับรู้ Backlog โครงการแนวสูงกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนTop Pick กลุ่มแนวราบขนาดใหญ่เลือก AP หรือบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จากประมาณการรายได้ปีนี้มี Backlog รองรับแล้วกว่า 89%

          สำหรับ Top Pick Theme Reopening เลือก LH  หรือ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากการเปิดประเทศจะช่วยหนุนรายได้โรงแรมและห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ บล.หยวนต้า ฯยังให้ BRI หรือบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เป็น Top Pick กลุ่มผู้พัฒนาฯ ขนาดกลาง-เล็กจากแนวโน้มการเติบโตของ กำไรในปี 2565-66 ที่โดดเด่นกว่ากลุ่มอย่างมี นัยสำคัญ

          บล.กรุงศรี แนะคำนำ "NEUTRAL" หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเมินผลประกอบการรวมของกลุ่มอสังหาฯไตรมาส 2 ปี 65 จะ ดีขึ้นทั้งเทียบไตรมาสและปี จากการฟื้นตัวของยอดโอนและ GPM อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีคอนโดฯใหม่ที่รอโอนมากกว่า กอปรกับบางบริษัทจะมีบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ามาเพิ่ม แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯยังไม่ทั่วถึง โดยเลือก AP และ LH เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม

          ทั้งนี้ คาดผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 65 จะดีขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อนและปีก่อน  คาดกำไรสุทธิรวมในไตรมาสนี้ของบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัย 8 บริษัทใหญ่จะอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากทั้งจากไตรมาสและปีก่อน โดยได้แรงหนุนมาจากยอดโอนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่เริ่มต้นปีได้ช้าเพราะภาวะตลาดถูกกดดันจากสงครามรัสเซียยูเครน และความกังวลการแพร่ระบาดของ โควิด-19 รอบใหม่อีกทั้งหากเทียบจำนวนการโอนคอนโดมิเนียมใหม่จะมีถึง 10 โครงการในครึ่งแรกปี 65 จากที่มีเพียง 4 โครงการเท่านั้นในครึ่งปีแรก และมองว่าการฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง หากมองในระยะต่อไป คาดว่าผลประกอบการน่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากมีบริษัทต่างๆ มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่ายอดpresales และยอดโอนก็จะฟื้นตัวต่อ ประเมินผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอย่างชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากจะมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่พร้อมโอนได้ เพิ่มขึ้นเป็น 17 โครงการ จาก 10 โครงการในครึ่งปีแรก แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และวัฏจักรของตลาดอสังหาฯยังเป็นขาลง