บิ๊กอสังหาฯ-ทุนใหญ่ตาวาว ที่ดินทีโอทีชิดลม ระอุ! สำนักทรัพย์สินประมูลต้นปี66
วันที่ : 7 สิงหาคม 2565
ที่ดินแปลงทีโอที มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และเป็นที่ต้องการของนักลงทุนรายใหญ่ คาดว่าจะเปิดให้ประมูลที่ดินแปลงนี้ในเร็วๆนี้
ที่ดิน12ไร่ แปลงทีโอที ติดบีทีเอสชิดลม ลุกเป็นไฟ บิ๊กเนม-ทุนใหญ่ รุมตอม สำนักทรัพย์สินเล็งเปิดประมูลเช่ายาว ม.ค.66 หลังจ้างกิจการร่วมค้าทีกรีนเร่งรื้อถอน
ที่ดินย่านศูนย์กลางธุรกิจเกิดแรงกระเพื่อมอีกระลอกเมื่อที่ดินแปลงใหญ่ติดสถานี ชิดลม BTS ที่ตั้งของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน ) (ทีโอที) บนที่ดินสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้หมดอายุสัญญาเช่าและล่าสุด อยู่ระหว่างรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
โดยทีโอทีได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้าที-กรีนวงเงิน 47,642,029.61 บาท (47 ล้านบาท) สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565-วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่กลางใจเมืองแวดล้อมไปด้วยโรงแรมชั้นนำ ย่านพักอาศัย อาคารสำนักงาน บริษัทที่ได้รับการว่าจ้างรื้อถอนจึงปรับแผนดำเนินการใหม่ นาย มานะ แก้วมณี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท กรีน ดีไซน์ พระราม 4 จำกัด บริษัทรับเหมารื้อถอนอาคารและผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในกิจการร่วมค้า ที-กรีน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทปรับแผนรื้อถอนอาคารให้เร็วขึ้นโดยส่งมอบพื้นที่ให้กับสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ภายในปลายปี 2565 เพื่อลดผลกระทบต่อแขกที่เข้าใช้พื้นที่โรงแรมและผู้อยู่อาศัยในย่านชิดลมและพื้นที่โดยรอบ เพราะสัญญาระหว่างทีโอทีกับสำนักทรัพย์สินจะสิ้นสุดลงปลายปีนี้ และจะเปิดประมูลหาผู้เช่ารายใหม่ ราวต้นปี 2566 ทราบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ระดับเจ้าสัวให้ความสนใจ รวมทั้งดีเวลลเปอร์เปอร์ชั้นนำของไทย
เพราะที่ดินแปลงใหญ่ค่อนข้างหายากและมีมูลค่าสูงไม่ว่าจะเป็นลิสโฮลด์หรือฟรีโฮลด์ ราคาอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาท ต่อตารางวา มองว่าเช่าระยะยาวคุ้มกว่าซื้อที่ดินเพื่อลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทรายใหญ่นิยมในรูปแบบการเช่า เช่น บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กลุ่มทีซีซี ซีพี ฯลฯ
สอดคล้องกับแหล่งข่าวบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ดินรัฐ ระบุว่าที่ดินแปลงนี้มีบริษัทชั้นนำให้ความสนใจจำนวนมาก ถึงขั้นดีเวลลอปเปอร์ ซึ่งเป็นน้องชายของนักการเมืองชื่อดังเคยวางเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาทล่วงหน้าให้กับเจ้าหน้าที่สำนักทรัพย์สินฯ เพื่อให้ได้ที่ดินแปลงนี้จนเป็นคดีความและเรื่องได้จบไปแบบเงียบ ๆ
ขณะล่าสุดหลังหมดสัญญา และจะเปิดประมูลรอบใหม่ราวเดือนมกราคม 2566 พบว่า มีบิ๊กเนมอสังหาฯ ตลอดจนนักลงทุนรายใหญ่ ให้ความสนใจมากกว่า 10 ราย ที่ค้นหน้าคุ้นตา อาทิ บมจ.ออริจิ้น, บมจ.เอสซีแอสเสท, บมจ.อนันดา ฯลฯ ที่ดินแปลงดังกล่าวเหมาะลงทุนโครงการขนาดใหญ่มิกซ์ยูส ประเภทโรงแรม ศูนย์การค้า เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม เพราะเป็นที่ดินผืนใหญ่ติดต่อกัน เชื่อมการเดินทางทะลุถนนเพชรบุรี บริเวณร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง และสะดวกจากการเดินทางโดยรถไฟฟ้า เนื่องจากที่ดินอยู่ติดกับสถานี BTS ชิดลม แต่ใครจะได้ที่ดินแปลงนี้ไปต้องรอต้นปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ศักยภาพสูง
เมื่อสอบถามไปยัง กลุ่มทีซีซี ว่าสนใจที่ดินแปลงดังกล่าวหรือไม่คำตอบที่ได้คือ บริษัทในเครือ อย่างกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้สนใจ เพราะมีหลายโครงการที่พัฒนาอยู่ก่อนแล้วแต่ ไม่แน่ใจในกลุ่ม แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น" หรือ (AWC) ว่าให้ความสนใจหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินในมือหลายแปลงรอพัฒนาและซื้อโรงแรมต่อจากเจ้าของเดิมในช่วงโควิดไม่ตต่ำกว่า 10 แห่ง อย่างไรก็ตามประเมินว่าที่ดินแปลงทีโอที มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และเป็นที่ต้องการของนักลงทุนรายใหญ่อย่างแน่นอน
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร สะท้อนว่า ที่ดินขนาด 12 ไร่ ที่เคยเป็นสำนักงานของ ทีโอทีติดสถานีรถไฟฟ้าชิดลม หัวมุมถนนชิดลมกลายเป็นที่สนใจของตลาดอสังหาฯอีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เพราะคาดว่าจะเปิดให้ประมูลเพื่อหานักลงทุนมาลงทุนพัฒนาโครงการบนที่ดินแปลงนี้ในเร็วๆ นี้ เพราะสัญญาเช่ากับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะหมดปี 2565
ราคาที่ดินถ้าเป็นราคาซื้อขายประมาณ 3 ล้านบาทต่อตารางวาแน่นอน เพราะปี 2559 ค่ายเอสซีซื้อที่ดินในส่วนที่เลยที่ดิน ทีโอทีเข้าไปอีกในราคา 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา แต่ที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นสัญญาเช่าระยะยาวอย่างน้อย 30 ปี
"การพัฒนาที่ดินบนที่ดินที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับเช่าพื้นที่ เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ เพราะไม่เพียงสอดคล้องกับข้อกำหนดบนที่ดินแล้วยังเหมาะสมกับทำเลของที่ดินแปลงนี้ด้วย"
ที่ดินย่านศูนย์กลางธุรกิจเกิดแรงกระเพื่อมอีกระลอกเมื่อที่ดินแปลงใหญ่ติดสถานี ชิดลม BTS ที่ตั้งของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน ) (ทีโอที) บนที่ดินสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้หมดอายุสัญญาเช่าและล่าสุด อยู่ระหว่างรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
โดยทีโอทีได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้าที-กรีนวงเงิน 47,642,029.61 บาท (47 ล้านบาท) สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565-วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่กลางใจเมืองแวดล้อมไปด้วยโรงแรมชั้นนำ ย่านพักอาศัย อาคารสำนักงาน บริษัทที่ได้รับการว่าจ้างรื้อถอนจึงปรับแผนดำเนินการใหม่ นาย มานะ แก้วมณี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท กรีน ดีไซน์ พระราม 4 จำกัด บริษัทรับเหมารื้อถอนอาคารและผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในกิจการร่วมค้า ที-กรีน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทปรับแผนรื้อถอนอาคารให้เร็วขึ้นโดยส่งมอบพื้นที่ให้กับสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ภายในปลายปี 2565 เพื่อลดผลกระทบต่อแขกที่เข้าใช้พื้นที่โรงแรมและผู้อยู่อาศัยในย่านชิดลมและพื้นที่โดยรอบ เพราะสัญญาระหว่างทีโอทีกับสำนักทรัพย์สินจะสิ้นสุดลงปลายปีนี้ และจะเปิดประมูลหาผู้เช่ารายใหม่ ราวต้นปี 2566 ทราบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ระดับเจ้าสัวให้ความสนใจ รวมทั้งดีเวลลเปอร์เปอร์ชั้นนำของไทย
เพราะที่ดินแปลงใหญ่ค่อนข้างหายากและมีมูลค่าสูงไม่ว่าจะเป็นลิสโฮลด์หรือฟรีโฮลด์ ราคาอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาท ต่อตารางวา มองว่าเช่าระยะยาวคุ้มกว่าซื้อที่ดินเพื่อลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทรายใหญ่นิยมในรูปแบบการเช่า เช่น บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กลุ่มทีซีซี ซีพี ฯลฯ
สอดคล้องกับแหล่งข่าวบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่ดินรัฐ ระบุว่าที่ดินแปลงนี้มีบริษัทชั้นนำให้ความสนใจจำนวนมาก ถึงขั้นดีเวลลอปเปอร์ ซึ่งเป็นน้องชายของนักการเมืองชื่อดังเคยวางเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาทล่วงหน้าให้กับเจ้าหน้าที่สำนักทรัพย์สินฯ เพื่อให้ได้ที่ดินแปลงนี้จนเป็นคดีความและเรื่องได้จบไปแบบเงียบ ๆ
ขณะล่าสุดหลังหมดสัญญา และจะเปิดประมูลรอบใหม่ราวเดือนมกราคม 2566 พบว่า มีบิ๊กเนมอสังหาฯ ตลอดจนนักลงทุนรายใหญ่ ให้ความสนใจมากกว่า 10 ราย ที่ค้นหน้าคุ้นตา อาทิ บมจ.ออริจิ้น, บมจ.เอสซีแอสเสท, บมจ.อนันดา ฯลฯ ที่ดินแปลงดังกล่าวเหมาะลงทุนโครงการขนาดใหญ่มิกซ์ยูส ประเภทโรงแรม ศูนย์การค้า เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม เพราะเป็นที่ดินผืนใหญ่ติดต่อกัน เชื่อมการเดินทางทะลุถนนเพชรบุรี บริเวณร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง และสะดวกจากการเดินทางโดยรถไฟฟ้า เนื่องจากที่ดินอยู่ติดกับสถานี BTS ชิดลม แต่ใครจะได้ที่ดินแปลงนี้ไปต้องรอต้นปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ศักยภาพสูง
เมื่อสอบถามไปยัง กลุ่มทีซีซี ว่าสนใจที่ดินแปลงดังกล่าวหรือไม่คำตอบที่ได้คือ บริษัทในเครือ อย่างกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้สนใจ เพราะมีหลายโครงการที่พัฒนาอยู่ก่อนแล้วแต่ ไม่แน่ใจในกลุ่ม แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น" หรือ (AWC) ว่าให้ความสนใจหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินในมือหลายแปลงรอพัฒนาและซื้อโรงแรมต่อจากเจ้าของเดิมในช่วงโควิดไม่ตต่ำกว่า 10 แห่ง อย่างไรก็ตามประเมินว่าที่ดินแปลงทีโอที มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และเป็นที่ต้องการของนักลงทุนรายใหญ่อย่างแน่นอน
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร สะท้อนว่า ที่ดินขนาด 12 ไร่ ที่เคยเป็นสำนักงานของ ทีโอทีติดสถานีรถไฟฟ้าชิดลม หัวมุมถนนชิดลมกลายเป็นที่สนใจของตลาดอสังหาฯอีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เพราะคาดว่าจะเปิดให้ประมูลเพื่อหานักลงทุนมาลงทุนพัฒนาโครงการบนที่ดินแปลงนี้ในเร็วๆ นี้ เพราะสัญญาเช่ากับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะหมดปี 2565
ราคาที่ดินถ้าเป็นราคาซื้อขายประมาณ 3 ล้านบาทต่อตารางวาแน่นอน เพราะปี 2559 ค่ายเอสซีซื้อที่ดินในส่วนที่เลยที่ดิน ทีโอทีเข้าไปอีกในราคา 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา แต่ที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นสัญญาเช่าระยะยาวอย่างน้อย 30 ปี
"การพัฒนาที่ดินบนที่ดินที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับเช่าพื้นที่ เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ เพราะไม่เพียงสอดคล้องกับข้อกำหนดบนที่ดินแล้วยังเหมาะสมกับทำเลของที่ดินแปลงนี้ด้วย"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ