ธปท.ชี้เศรษฐกิจฟื้นต่อเนื่อง คลายล็อกดาวน์หนุนเชื่อมั่นโตในรอบ3เดือน
วันที่ : 21 กรกฎาคม 2565
แชร์ :
ขณะนี้เห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ชัดเจนขึ้น และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไทยจะยังต้องเจอกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังเจอเงินเฟ้อสูง-การปรับนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก ป่วนตลาดการเงินและตลาดทุน ด้าน ส.อ.ท.ฟุ้งดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.ปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้เห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ชัดเจนขึ้น และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไทยจะยังต้องเจอกับ ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึง ความท้าทายจากการปรับนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ตลาดการเงินและตลาดทุนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงไทยต้องผันผวนสูง แต่ระบบการเงินและสถาบันการเงินของไทยยังมีศักยภาพที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และทำงานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ บริบทเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้ทุกภาคส่วนนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องปรับตัว โดยในส่วนของนโยบายและมาตรการทางการเงินก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจการเงินและสมดุลความเสี่ยงใหม่ที่ให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อมากขึ้น โดยเน้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด ขณะเดียว กันภาคการเงินและภาคธุรกิจก็ต้องปรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มความทนทานและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าส่งออกของไทยในปีนี้ยังเติบโตได้ แต่ยังกังวลภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ราคาวัตถุดิบและพลังงาน ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหรือสินค้าไม่คลี่คลาย ทำให้ต้นทุนการผลิตยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังของปีนี้ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ มีแนวโน้มถดถอยจากหลายประเทศเผชิญภาวะเงินเฟ้อ เริ่มส่งผลให้คำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งอาจกดดันต่อการส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังชะลอตัวตาม
ขณะที่ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.2565 อยู่ที่ 86.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้น ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังรัฐผ่อน คลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม และเปิดประเทศ ส่งผล ดีต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประ เทศ ขณะที่ภาคการผลิตมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงการที่จีนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ทำ ให้สั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้เห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ชัดเจนขึ้น และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไทยจะยังต้องเจอกับ ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึง ความท้าทายจากการปรับนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ตลาดการเงินและตลาดทุนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงไทยต้องผันผวนสูง แต่ระบบการเงินและสถาบันการเงินของไทยยังมีศักยภาพที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และทำงานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ บริบทเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้ทุกภาคส่วนนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องปรับตัว โดยในส่วนของนโยบายและมาตรการทางการเงินก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจการเงินและสมดุลความเสี่ยงใหม่ที่ให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อมากขึ้น โดยเน้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด ขณะเดียว กันภาคการเงินและภาคธุรกิจก็ต้องปรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มความทนทานและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าส่งออกของไทยในปีนี้ยังเติบโตได้ แต่ยังกังวลภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ราคาวัตถุดิบและพลังงาน ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหรือสินค้าไม่คลี่คลาย ทำให้ต้นทุนการผลิตยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังของปีนี้ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ มีแนวโน้มถดถอยจากหลายประเทศเผชิญภาวะเงินเฟ้อ เริ่มส่งผลให้คำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งอาจกดดันต่อการส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังชะลอตัวตาม
ขณะที่ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.2565 อยู่ที่ 86.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้น ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังรัฐผ่อน คลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม และเปิดประเทศ ส่งผล ดีต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประ เทศ ขณะที่ภาคการผลิตมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงการที่จีนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ทำ ให้สั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ
