คลังปัดฝุ่นรีดภาษีลาภลอย
Loading

คลังปัดฝุ่นรีดภาษีลาภลอย

วันที่ : 20 มิถุนายน 2565
สำหรับวัตถุประสงค์ของร่างกฎหมายนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนสาธารณูปโภคของรัฐ
            เจ้าของที่ดิน-คอนโดหนาว ชี้รถไฟฟ้า-ทางด่วนตัดผ่าน

            นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพร้อมจะปัดฝุ่น การออกกฎหมาย พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง หรือ ภาษีลาภลอย ออกมาอีกครั้ง เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบภาษีของประเทศ หลังจากที่ผ่านมาคลังได้มีการยกร่าง พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย และเสนอให้ ครม.เห็นชอบร่างกฎหมายไปแล้วตั้งแต่ปี 61 แต่ยังไม่ได้รับการสานต่อ แต่อย่างไรก็ตามการจะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้จะต้องพิจารณาในห้วงเวลาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

          ทั้งนี้ แนวคิดของร่างกฎหมายดังกล่าว ตนในสมัยที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันเมื่อหลายปีที่แล้ว ถือว่าเป็นกฎหมายที่ทำไว้ สำหรับมองไปในอนาคต เมื่อเมืองได้มีการพัฒนา มีการลงทุนหลากหลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟฟ้า ทางด่วน ก็ทำให้ราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับโครงการของรัฐ ได้ปรับราคาขึ้น ก็ควรแบ่งผลประโยชน์ส่วนหนึ่งมาให้กับรัฐด้วย

          รายงานข่าวแจ้งว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจาก ครม.เมื่อเดือน ก.ค. 61 สมัยที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็น รมว.คลัง โดยกำหนดเพดานภาษีไว้ไม่เกิน 5% ของมูลค่าที่ดินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ตามแนวรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง สนามบิน ท่าเรือ หรือโครงการสาธารณูปโภคตามที่กฎหมายกำหนด

          สำหรับวัตถุประสงค์ของร่างกฎหมายนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนสาธารณูปโภคของรัฐ ที่ส่งผลให้ราคาที่ดินในบริเวณรัศมีโครงการสาธารณูปโภคปรับราคาสูงขึ้น สำหรับผู้มีหน้าที่เสียภาษีนี้ จะเป็นทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีที่ดินตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กม.จากตัวสถานีขึ้นลง ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง, รถไฟรางคู่, รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน, ท่าเรือ, สนามบิน โครงการทางด่วนพิเศษ และโครงการอื่น ๆ ที่จะกำหนดในกฎกระทรวง

          อย่างไรก็ตาม ภาษีตัวนี้จะเก็บเฉพาะราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากผลของโครงการสาธารณูปโภค โดยหักตัวมูลค่าอาคารออกไป การจัดเก็บภาษี จะแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรก คือ ช่วงตั้งแต่วันลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคนั้น ๆ จนถึงวันตรวจรับมอบโครงการ หรือเรียกว่าเป็นช่วงระหว่างการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภค การซื้อขายที่ดินในช่วงนี้ จะถูกจัดเก็บภาษีลาภลอยในทุกครั้งที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยเก็บภาษีเฉพาะมูลค่าที่ดิน ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยใช้ฐานราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ณ วันที่ได้รับที่ดินแปลงนั้นมา กับราคาประเมินที่ดินในช่วงระหว่างก่อสร้างโครงการนั้น  

          ส่วนช่วงที่สอง คือ ช่วงที่ก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคนั้นแล้วเสร็จ จะเก็บภาษีเพียงครั้งเดียว ไม่ได้เก็บทุกครั้งที่เปลี่ยนมือ โดยเก็บภาษีจากมูลค่าที่ปรับเพิ่มขึ้น เฉพาะที่ดิน หรือห้องชุดเฉพาะส่วนที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น มูลค่าที่ดินที่ต่ำกว่านี้ไม่ มีภาระภาษี และยกเว้นที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินเกษตรกรรม สำหรับพื้นที่จัดเก็บภาษีนั้น กำหนดขอบเขตไว้ในรัศมีรอบพื้นที่โครงการ เช่น ทางขึ้นลงทางด่วน หรือตัวสถานีรถไฟฟ้า ไม่เกิน 5 กิโลเมตร ซึ่งรัศมีที่ชัดเจนในแต่ละโครงการจะถูกกำหนดโดย คณะกรรมการพิจารณากำหนดพื้นที่จัดเก็บภาษี ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน