อสังหาฯภูเก็ตฟื้นรัสเซีย - EUแห่ซื้อปีนี้ยอดขายโต50%
วันที่ : 25 พฤษภาคม 2565
ในปีนี้มองว่าตลาดต่างประเทศ โซนยุโรปเป็นหลัก หรือเป็นคนจีนที่มีเงินและไม่ได้อาศัยในประเทศจีน อาจจะอยู่ที่ฮ่องกง หรืออยู่ที่อื่นอยู่แล้ว จะมาซื้อพร็อพเพอร์ตี้ที่ภูเก็ต
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลดีอสังหาฯภูเก็ต ชาวรัสเซีย ยุโรป อเมริกา แห่ซื้อบ้านระดับลักเซอรี่ในภูเก็ต คาดปีนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 50% เฉพาะตลาดลักเซอรี่ปีนี้มูลค่าซื้อขายคาดไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ปีหน้าคาดแตะระดับ 5 พันล้านบาท ด้านตลาดคนไทยในภูเก็ตกระเตื้องขึ้น
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตเริ่มกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยตลาดในประเทศช่วงนี้บ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท หลายโครงการมีอัตราการจองค่อนข้างดี ขณะที่ตลาดต่างประเทศจากสถานการณ์ความไม่สงบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ชาวรัสเซีย ยุโรป อเมริกา เข้ามาซื้อ บ้านระดับลักเซอรี่ในภูเก็ตเป็นบ้านหลังที่สองกันจำนวนมาก คาดการณ์ว่าปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% เมื่อเทียบ กับปีที่ผ่านมา เฉพาะตลาดลักเซอรี่ปีนี้ ที่น่าจะมีการซื้อขายกันประมาณ 2,000 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าประมาณ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เพราะปกติอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีการลงทุน ประมาณ 30,000 ล้านบาทก่อนโควิด-19 แต่พอช่วง โควิด-19 ทำให้ลดลงมาเหลือประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต แยกเป็นตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ทั้งสองตลาดนี้มีความเคลื่อนไหวที่ แตกต่างกัน คือ ตลาดในประเทศ เป็นกลุ่มคนไทยในภูเก็ต ในช่วงนี้ถือเป็นตลาดที่ดีมีคนจองเข้ามามากในบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท หลายโครงการที่เปิดขายบ้านในระดับราคา 1.99-2 ล้านบาท มีอัตราการจองค่อนข้างดี แต่ตลาดระดับกลางราคาบ้าน 2-3 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงระดับ 10 ล้านบาท มีความเคลื่อนไหวน้อย สังเกตได้ว่าตลาดระดับกลางหายไปอย่างชัดเจน ส่วนตลาดระดับบน ช่วงนี้ เป็นช่วงนาทีทองสามารถซื้อบ้านที่มีราคาแพง สามารถต่อรองเงื่อนไขได้ ดีกว่าปกติ แต่ต้องดูภาระหนี้ครัวเรือน ของคนภูเก็ตว่ามีการนำเงินในอนาคต มาใช้มากน้อยเพียงใด และมีความ สามารถทยอยชำระหนี้คืนได้หรือไม่ คาดว่าสัญญาณการซื้อจะกลับมา กระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปีนี้หลังจากการเปิดประเทศ และจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566 เป็นต้นไป
ส่วนตลาดต่างประเทศ ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่ ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีตลาดรัสเซีย ยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี อเมริกา เข้ามาซื้อชัดเจนมากขึ้น แม้แต่ตลาดคนจีน มีสัญญาณจะกลับมาซื้อ เป็นพูลวิลล่าหรือเป็นลักเซอรี่มากขึ้น แต่ตอนนี้คนจีนไม่สามารถบินมาได้ ถ้าจีนมีการเปิดประเทศ เชื่อว่าหลายโครงการขายไปแล้วยังติดปัญหา น่าจะดีขึ้น ในกลุ่มคอนโดมิเนียม หรือวิลล่า ที่เน้นตลาดต่างชาติเพิ่มชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า
ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อต่อการเข้ามาซื้อบ้านในภูเก็ตตอนนี้ คือ สถานการณ์ความไม่สงบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึง ยุโรป อเมริกา มีปัญหาสงคราม เชื้อเพลิง ที่มีราคาแพงมาก เหล่านี้เป็นปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยในเรื่องต้นทุนการผลิต แต่ในภาคการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ มองว่าเป็นเชิงบวก เพราะตลาดกลุ่มนี้จะมองหาบ้านหลังที่สอง ที่จะพักผ่อนช่วงหน้าหนาวจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม และถือเป็นตลาดที่มีความหวังสามารถสร้างรายได้ให้กับภูเก็ตเป็นหลัก
"ในปีนี้มองว่าตลาดต่างประเทศ โซนยุโรปเป็นหลัก หรือเป็นคนจีนที่มีเงินและไม่ได้อาศัยในประเทศจีน อาจจะอยู่ที่ฮ่องกง หรืออยู่ที่อื่นอยู่แล้ว จะมาซื้อพร็อพเพอร์ตี้ที่ภูเก็ต ถ้าให้คาดการณ์ ตลาดพร็อพเพอร์ตี้ปีนี้ ของภูเก็ต น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% จากปีที่แล้ว"
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตเริ่มกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยตลาดในประเทศช่วงนี้บ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท หลายโครงการมีอัตราการจองค่อนข้างดี ขณะที่ตลาดต่างประเทศจากสถานการณ์ความไม่สงบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ชาวรัสเซีย ยุโรป อเมริกา เข้ามาซื้อ บ้านระดับลักเซอรี่ในภูเก็ตเป็นบ้านหลังที่สองกันจำนวนมาก คาดการณ์ว่าปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% เมื่อเทียบ กับปีที่ผ่านมา เฉพาะตลาดลักเซอรี่ปีนี้ ที่น่าจะมีการซื้อขายกันประมาณ 2,000 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าประมาณ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เพราะปกติอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีการลงทุน ประมาณ 30,000 ล้านบาทก่อนโควิด-19 แต่พอช่วง โควิด-19 ทำให้ลดลงมาเหลือประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต แยกเป็นตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ทั้งสองตลาดนี้มีความเคลื่อนไหวที่ แตกต่างกัน คือ ตลาดในประเทศ เป็นกลุ่มคนไทยในภูเก็ต ในช่วงนี้ถือเป็นตลาดที่ดีมีคนจองเข้ามามากในบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท หลายโครงการที่เปิดขายบ้านในระดับราคา 1.99-2 ล้านบาท มีอัตราการจองค่อนข้างดี แต่ตลาดระดับกลางราคาบ้าน 2-3 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงระดับ 10 ล้านบาท มีความเคลื่อนไหวน้อย สังเกตได้ว่าตลาดระดับกลางหายไปอย่างชัดเจน ส่วนตลาดระดับบน ช่วงนี้ เป็นช่วงนาทีทองสามารถซื้อบ้านที่มีราคาแพง สามารถต่อรองเงื่อนไขได้ ดีกว่าปกติ แต่ต้องดูภาระหนี้ครัวเรือน ของคนภูเก็ตว่ามีการนำเงินในอนาคต มาใช้มากน้อยเพียงใด และมีความ สามารถทยอยชำระหนี้คืนได้หรือไม่ คาดว่าสัญญาณการซื้อจะกลับมา กระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปีนี้หลังจากการเปิดประเทศ และจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566 เป็นต้นไป
ส่วนตลาดต่างประเทศ ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่ ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีตลาดรัสเซีย ยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี อเมริกา เข้ามาซื้อชัดเจนมากขึ้น แม้แต่ตลาดคนจีน มีสัญญาณจะกลับมาซื้อ เป็นพูลวิลล่าหรือเป็นลักเซอรี่มากขึ้น แต่ตอนนี้คนจีนไม่สามารถบินมาได้ ถ้าจีนมีการเปิดประเทศ เชื่อว่าหลายโครงการขายไปแล้วยังติดปัญหา น่าจะดีขึ้น ในกลุ่มคอนโดมิเนียม หรือวิลล่า ที่เน้นตลาดต่างชาติเพิ่มชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า
ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อต่อการเข้ามาซื้อบ้านในภูเก็ตตอนนี้ คือ สถานการณ์ความไม่สงบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึง ยุโรป อเมริกา มีปัญหาสงคราม เชื้อเพลิง ที่มีราคาแพงมาก เหล่านี้เป็นปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยในเรื่องต้นทุนการผลิต แต่ในภาคการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ มองว่าเป็นเชิงบวก เพราะตลาดกลุ่มนี้จะมองหาบ้านหลังที่สอง ที่จะพักผ่อนช่วงหน้าหนาวจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม และถือเป็นตลาดที่มีความหวังสามารถสร้างรายได้ให้กับภูเก็ตเป็นหลัก
"ในปีนี้มองว่าตลาดต่างประเทศ โซนยุโรปเป็นหลัก หรือเป็นคนจีนที่มีเงินและไม่ได้อาศัยในประเทศจีน อาจจะอยู่ที่ฮ่องกง หรืออยู่ที่อื่นอยู่แล้ว จะมาซื้อพร็อพเพอร์ตี้ที่ภูเก็ต ถ้าให้คาดการณ์ ตลาดพร็อพเพอร์ตี้ปีนี้ ของภูเก็ต น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% จากปีที่แล้ว"
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ