คลังยันปีนี้เก็บภาษีหุ้น 0.1%
Loading

คลังยันปีนี้เก็บภาษีหุ้น 0.1%

วันที่ : 12 เมษายน 2565
การจัดเก็บภาษีหุ้น จะยึดตามหลักการเดิม คือ เก็บจากยอดขายในอัตรา 0.1% โดยจะจัดเก็บเป็นรายเดือน โบรกเกอร์จะเป็นผู้ส่งยอดมาให้กรมสรรพากร ซึ่งจะไม่แยกการจัดเก็บเพราะยุ่งยากเรื่องการบริหาร
          ลั่นตลาดหุ้น-สภาธุรกิจตลาดทุนเข้าใจแล้ว

          "อาคม" ลั่นปีนี้เก็บภาษีขายหุ้น 0.1% แน่นอน เพื่อให้รัฐมีรายได้ใช้พัฒนาประเทศ ย้ำเก็บในอัตราเท่าเทียมกัน และทำความเข้าใจตลาดหลักทรัพย์-สภาธุรกิจตลาดทุนแล้ว ส่วนภาษีอื่นๆ ยังไม่มีนโยบายจัดเก็บ

           นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้านโยบายเก็บภาษีจากการขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax โดยกำหนดแผนที่จะจัดเก็บภาษีขายหุ้นให้ได้ภายในปี 65 เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากตลาดหุ้นมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ และไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศมากนัก ยกเว้นสถานการณ์จากต่างประเทศ ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง ได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำความเข้าใจ โดยบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) มีหน้าที่ต้องจัดส่งภาษีขายหุ้นให้กับกรมสรรพากร

           ทั้งนี้ ภาษีหุ้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะกระทรวงการคลังได้กำหนดการจัดเก็บมาตั้งแต่กว่า 30 ปีที่แล้ว แต่ตลอดระยะเวลาดังกล่าวได้ยกเว้นการจัดเก็บ เพื่อสนับสนุนให้ตลาดหุ้นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาษีรถยนต์ที่ครั้งหนึ่งได้ลดภาษี และยกเว้นการจัดเก็บ เพื่อสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ต้องปรับขึ้นหรือจัดเก็บในอัตราที่กำหนดไว้ก่อนที่จะลดหรือยกเว้น ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วย เพราะเงินที่รัฐบาลนำมาพัฒนาประเทศก็มาจากภาษีประชาชน ดังนั้น ก่อนที่จะดำเนินการจัดเก็บภาษีหุ้นนั้น กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ตลาดหุ้นได้รับทราบล่วงหน้า เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และออกประกาศกฎกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

           "การจัดเก็บภาษีหุ้น จะยึดตามหลักการเดิม คือ เก็บจากยอดขายในอัตรา 0.1% โดยจะจัดเก็บเป็นรายเดือน โบรกเกอร์จะเป็นผู้ส่งยอดมาให้กรมสรรพากร ซึ่งจะไม่แยกการจัดเก็บเพราะยุ่งยากเรื่องการบริหาร เช่น ยอดขายหุ้น 1 ล้านบาท หากจะไม่เก็บ หรือเก็บขั้นต่ำก็จะยุ่งยาก ซึ่งตามตัวบทกฎหมายที่ออกมา ให้เก็บภาษีขายหุ้นแบบเท่าเทียมกัน ไม่แยกรายเล็ก รายใหญ่ เบื้องต้นคาดว่ารัฐจะมีรายได้จากการเก็บภาษีขายหุ้นหลักหมื่นล้านบาทต่อปี"

           สำหรับแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของรัฐในปีงบประมาณ 65 นั้น คาดว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย 2.4 ล้านล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้เพิ่มเป้าหมายการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจอีก 5% ขณะเดียวกัน หลังกระทรวงการคลังกำหนดให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ธุรกิจอี-เซอร์วิส จากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศแล้ว ขณะนี้ถือว่าจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายมาก ส่วนการเก็บภาษีความเค็ม กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่มีแผนจัดเก็บภาษีตัวใหม่อื่นๆเพิ่มเติมอีก

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ในฐานะประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้แสดงความเห็นคัดค้านการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และได้ทำหนังสือชี้แจงข้อดีข้อเสียและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากจัดเก็บภาษีขายหุ้น และสถานการณ์ปีนี้คงไม่เหมาะสม แม้รัฐบาลต้องการหารายได้เพิ่มจากการขาดดุลงบประมาณ แต่หากในระยะยาวอาจกระทบต่อสภาพคล่องของตลาดทุน ลดประสิทธิภาพตลาดทุนไทย หากเก็บภาษีจากการขายหุ้นปีนี้จริง เบื้องต้นประเมินว่าจะส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดรวม หรือวอลุ่มเทรด หายไปราว 20-30% โดยนักลงทุนกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากสุดคือนักลงทุนต่างชาติ เพราะต้นทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว และจะทำให้ยอดการเทรดของนักลงทุนต่างชาติลดลง จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนกว่า 40% ของวอลุ่มเทรดของตลาดรวม
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ