สกพอ.ผนึก อปท.ร่วมดัน อีอีซี แก้ปัญหาจราจรศรีราชารองรับ การท่องเที่ยว พัฒนาตลาดประมงพัทยา สร้าง การมีส่วนร่วมดันแผนชุมชนนาจอมเทียน

          รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ระบุว่า สกพอ.เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และชุมชน เพื่อร่วมผลักดันนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะทำให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ประโยชน์จากการพัฒนาอีอีซีทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ รายใหญ่ เอสเอ็มอีและชุมชน โดยได้ประโยชน์ จากการพัฒนาทั้งในด้านการสร้างรายได้และการยกระดับสังคมชุมชน

          ทั้งนี้ ช่วงเดือน ต.ค.2563 นางสาวพจณี  อรรถโรจน์ภิญโญ รองเลขาธิการ สายงานนโยบาย และแผน สกพอ.ได้ลงพื้นที่เพื่อหารือกับ นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรี เมืองศรีราชา ผู้แทนกรมทางหลวง และผู้แทน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในศรีราชา  รองรับการขยายตัวของเมือง และนักท่องเที่ยว จากการพัฒนาอีอีซี โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

          นอกจากนี้ นางธัญรัตน์ อินทร ผู้ช่วยเลขาธิการด้านนโยบายและแผน สกพอ.ได้ลง พื้นที่เมืองพัทยา เพื่อหารือกับนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เกี่ยวกับแผน พัฒนาเมืองพัทยา และร่วมสำรวจพื้นที่เขาพัทยา แหลมบาลีฮาย โดยจะสานต่อโครงการศึกษา ความเป็นไปได้ในการพัฒนาเขาพัทยา ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน  รวมทั้งมีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือประมง ตลาดขายอาหารทะเล และพื้นที่ชุมชนนาเกลือ เพื่อผลักดันสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ได้มาตรฐาน และเตรียมความพร้อมรองรับการ กลับมาของนักท่องเที่ยว ควบคู่การยกระดับ รายได้และคุณภาพชีวิตประชาชน

          ทั้งนี้ ได้หารือกับนายสมพงษ์ สายนภา  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาจอมเทียน  เพื่อรับฟังแนวคิดการพัฒนาชุมชนบ้านอำเภอ 2.7 ตารางกิโลเมตร ซึ่งผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ของชุมชนในพื้นที่แล้ว โดยมีแผนการพัฒนา 3 ส่วนหลัก คือ พื้นที่ชายหาด พื้นที่คลอง และพื้นที่ชุมชน เพื่อเตรียมผลักดันยกระดับ ชุมชนบ้านอำเภอ สู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ผ่าน การพัฒนาสถานที่สำคัญ และอนุรักษ์วิถีชีวิต ชุมชนเดิม เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองพัทยาและเมืองการบินภาคตะวันออก

          รวมทั้ง สกพอ.กำลังร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในอีอีซี โดยทำแผนพัฒนา เกษตรอีอีซีซึ่งกำหนดแนวทาง 5 คลัสเตอร์ คือ 1.คลัสเตอร์ผลไม้เน้นคุณภาพสินค้าสู่ตลาดโลก ระดับพรีเมียม 2.คลัสเตอร์ประมงเพิ่มมูลค่า เพื่อสร้างอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต 3.คลัสเตอร์พืชสำหรับ Bio-based Product เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมชีวภาพ  4.คลัสเตอร์พืชสมุนไพรต่อยอดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและสร้างเศรษฐกิจฐานชีวภาพ 5.คลัสเตอร์ High Valued Crops จะปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูก สู่พืชมูลค่าสูง เช่น ไม้ประดับ ผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงโคขุน