บ้าน-คอนโดขายอืดค้างสต๊อกเพียบ
วันที่ : 29 พฤษภาคม 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย อสังหาฯ เหลือค้างสต๊อกบาน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจความต้องการขายและความต้องการซื้อโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2562 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย มีภาพรวมที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวนรวม 209,868 หน่วยเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกปี 2562 ประมาณ 7.3% ส่วนจำนวนที่อยู่อาศัยที่ขายได้ใหม่ลดลง 21.7% หรือ 34,114 หน่วย ในขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายรวมเพิ่มขึ้น 15.6%โดยในจำนวนหน่วยเหลือขายทั้งหมดนั้นสร้างเสร็จแล้วแต่เหลือขาย 40,792 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 157,140 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการสำรวจในช่วงครึ่งแรกปี 2562 พบว่ามีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขายในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 1,670 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 151,993 หน่วย แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ปี 2562 มีความต้องการในตลาดจำนวน 56,411 หน่วย ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 1,714 โครงการ รวมมีจำนวนหน่วยเสนอขาย 209,868 หน่วย และเหลือขายจำนวน 175,754 หน่วย มูลค่ารวม 765,037 ล้านบาท
"ภาพรวมของตลาดครึ่งหลังปี 2562 จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายในตลาดหากเทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 จะพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 7.3% ขณะที่หน่วยเหลือขาย ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 มีจำนวน 175,754 หน่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 หน่วย เทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 ที่มีหน่วยเหลือขายรวม 151,993 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 15.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยเหลือขายสะสมส่วนหนึ่งเกิดจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เหลือขาย 40,792 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 157,140 ล้านบาท"
ทั้งนี้จากการสำรวจในช่วงครึ่งแรกปี 2562 พบว่ามีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขายในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 1,670 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 151,993 หน่วย แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ปี 2562 มีความต้องการในตลาดจำนวน 56,411 หน่วย ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 1,714 โครงการ รวมมีจำนวนหน่วยเสนอขาย 209,868 หน่วย และเหลือขายจำนวน 175,754 หน่วย มูลค่ารวม 765,037 ล้านบาท
"ภาพรวมของตลาดครึ่งหลังปี 2562 จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายในตลาดหากเทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 จะพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 7.3% ขณะที่หน่วยเหลือขาย ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 มีจำนวน 175,754 หน่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 หน่วย เทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 ที่มีหน่วยเหลือขายรวม 151,993 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 15.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยเหลือขายสะสมส่วนหนึ่งเกิดจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เหลือขาย 40,792 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 157,140 ล้านบาท"