นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี หนุนรัฐคลาย ล็อกดาวน์เฟสสาม กระตุ้นกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น หลังโควิดฉุดยอดขาย ทาวน์โฮม ราคา 1.5-2 ล้านบาท ร่วง70% บ้านเดี่ยว บ้านแฝด3-5ล้าน ร่วง20%

          นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติโควิด-19 ไม่เว้นในจังหวัดชลบุรี โดยขอสนับสนุนรัฐผ่อนปรนมาตรการภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเฟสสาม เพื่อให้เศรษฐกิจ กำลังซื้อและความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดี ต่ออสังหาฯ

          เนื่องจากการสำรวจพบว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 ยอดขาย อสังหาฯระดับล่างทรงตัว ยกเว้นโครงการที่ยอมลดราคาจึงขายออกแต่ไม่ลดราคาแรงเหมือน อสังหาฯในกรุงเทพฯ อย่างมากไม่เกิน 5-10% ส่วนโครงการอสังหาฯระดับกลางได้รับผลกระทบแต่ไม่รุนแรงเท่าระดับล่าง ขณะที่ยอด การเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลงประมาณ 50% เฉลี่ยยอดขายหายไป อย่างน้อย 30-40%

          "4 เดือน(ม.ค.-เม.ย.)ที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯในจังหวัดชลบุรีได้รับผลกระทบการชะลอการจ้างงาน การเลิกจ้างจากโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายลดลงต่อเนื่องโดยเฉพาะทาวน์โฮม  ระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท ลดลงถึง 70% ขณะที่บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ระดับราคา 3-5ล้านบาท ลดลง 10-20% ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อ อสังหาฯที่แท้จริง(เรียลดีมานด์) ของคนในพื้นที่ เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียม ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติบางส่วนที่หายไป"

          นายมีศักดิ์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมา อสังหาฯชลบุรี มีกำลังซื้อมาจาก ผู้ประกอบการและแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัด และโซนรอยต่อจังหวัดระยองเป็นหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ  60% โดยเฉพาะ ในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งจากผลการชะลอการจ้างงาน การเลิกจ้าง จากวิกฤติโควิด-19 ทำให้ยอดขาย กลุ่มดังกล่าวลดลงต่อเนื่อง  ประกอบกับ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไม่คืบหน้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายราย ทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่เข้ามาประกอบการ ในชลบุรี ชะลอโครงการเป็นจำนวนมาก

          "ตอนนี้ทุกคนรอดูสถานการณ์หลังโควิด-19 ว่า ตลาดอสังหาฯ จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเศรษฐกิจหลักที่มาจากภาคส่งออกถือเป็นหัวใจสำคัญนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า จะสามารถฟื้นกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน ไม่รวมถึงการท่องเที่ยว ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย"