รร.ภูเก็ต-เชียงใหม่-พัทยา สุดทนแห่ปิดบริการรักษาสภาพคล่อง
Loading

รร.ภูเก็ต-เชียงใหม่-พัทยา สุดทนแห่ปิดบริการรักษาสภาพคล่อง

วันที่ : 27 มีนาคม 2563
โรงเเรม วิกฤติ ผลกระทบจาก ไวรัสโควิด -19
          พรไพลิน จุลพันธ์

          นับเป็นวิกฤติรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของภาคท่องเที่ยวไทย เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก ต่างจากในอดีตที่หลายๆ วิกฤติเกิดขึ้นภายในประเทศไทย เช่น เหตุการณ์สึนามิ น้ำท่วมใหญ่ และความไม่สงบทางการเมือง เมื่อเหตุการณ์จบลง นักท่องเที่ยวต่างชาติก็พร้อมกลับเข้ามาด้วยดีมานด์ที่อัดอั้น  วิกฤติรอบนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับโรงแรมในกรุงเทพฯหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่กระจายไปทั่ว ทุกเมืองท่องเที่ยวของไทย

          ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตเครือ ดีวาน่า กรุ๊ป และอุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคใต้ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมใน จ.ภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายราว 1,400-2,000 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพัก รวม 100,000 ห้อง ตอนนี้หลายแห่งมีแผนปิดให้บริการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้เบื้องต้นปิดเป็นระยะเวลา 1 เดือนหลังรัฐบาล ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยไม่ได้เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต เนื่องจาก หลายๆ สายการบินหยุดบินเส้นทางบินระหว่าง ประเทศชั่วคราว ขณะที่ บางสายการบินหยุดบิน เส้นทางในประเทศด้วย ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ต่างชาติที่ยังเหลืออยู่ในภูเก็ต เช่น ชาวรัสเซีย ต้องบินกลับประเทศทันที และส่วนที่จอง ห้องพักล่วงหน้าเข้ามาก็ได้ติดต่อขอยกเลิกอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราเข้าพักของโรงแรมในภูเก็ตช่วงวันที่ 21-31 มี.ค.นี้ น่าจะเหลือยอดเพียงหลักเดียว ต่างจากวันที่ 1-20 มี.ค.ยังมีอัตราเข้าพัก 70% ส่งผลให้ตลอดเดือน มี.ค.นี้ มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยเหลือที่ 30-40%

          "ปัจจุบันหลายๆ โรงแรมมียอดจองห้องพักเดือน เม.ย.นี้เหลือเพียง 2-3% หรือ คิดเป็นไม่กี่ห้องพักเท่านั้น เมื่อลูกค้าหายไปเกือบ 100% ถึงจะเปิดให้บริการอยู่ก็อาจมียอดจองมากสุดที่ 5% ในสถานการณ์ที่ลูกค้าทยอยขอยกเลิกการจองต่อเนื่อง หายไปจากภาวะปกติซึ่งเคยได้อัตราเข้าพักในเดือน เม.ย.2562 ราว 75% จึงตัดสินใจปิดให้บริการชั่วคราว หลายแห่งอาจปิดชั่วคราวนาน 3 เดือนตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย.นี้ ขณะที่บางแห่งมีแผน ปิดชั่วคราวนานกว่า 3-6 เดือน"

          โดยเมื่อดูสภาพคล่องทางการเงินในตอนนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ต มองว่า จะต้องรักษาสภาพคล่องให้ได้ในช่วง 6 เดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ส.ค.นี้ที่ไม่มีลูกค้า

          อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการ รายใดแจ้งสมาคมฯว่าธุรกิจจะแย่จนถึงขั้น ปิดกิจการถาวร  โดยคาดว่าน่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในไตรมาส 3 และเห็น ภาคท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในเดือน ก.ค.ส.ค. จนสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในเดือน พ.ย. ซึ่งเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของภูเก็ตพอดี

          "เพื่อรักษาสภาพคล่อง โรงแรมในภูเก็ต หลายแห่งจำเป็นต้องเริ่มปิดบริการชั่วคราวในเดือน เม.ย.นี้ ประหยัดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคและค่าจ้างพนักงาน ด้วยการขอให้พนักงานใช้สิทธิลาหยุดต่างๆ รวมถึงสมัครใจลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay) โดยต้องการให้รัฐบาลและประกันสังคมออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมที่ปิดให้บริการเพราะโควิด-19 แม้ว่าโรงแรมจะไม่ใช่ ธุรกิจที่รัฐสั่งปิด เหมือนพวกสปาและอื่นๆ ก็ตาม" ศึกษิต กล่าว ด้าน ละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท และนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีโรงแรมทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนรวมกันมากกว่า 2,000 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักกว่า 60,000 ห้องพัก หลายแห่งได้เริ่มปิดให้บริการชั่วคราวไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะทยอยปิดต่อเนื่องในสัปดาห์นี้กับอีกช่วงคือ วันที่ 1 เม.ย.นี้ หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมโรค "ต้องลดต้นทุนคงที่ทั้งค่าจ้างพนักงานและอื่นๆ การปิดบริการชั่วคราวจึงเป็นหนึ่งในแนวทางจำเป็นสำหรับการบริหารธุรกิจช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด โดยหลายแห่งคาดว่าจะปิดนาน 2-3 เดือน ขณะที่ บางแห่งปิดยาวไปจนถึงเดือน ต.ค.นี้ให้ครอบคลุมช่วงโลว์ซีซั่นเลย หลังรายได้เป็นศูนย์ ทั้งนี้คาดว่าโรงแรมในเชียงใหม่จะอั้นเรื่องสภาพคล่องได้นานสุดไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้"

          รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า แหล่งท่องเที่ยว และโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยาซึ่งมีจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด 200,000 ห้อง หลายแห่ง เตรียมปิดให้บริการภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้เนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ หรือเข้าใช้บริการน้อยมาก

          ทั้งนี้ มองว่าจากการที่กระทรวงการคลังออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ล่าสุด ยังไม่ได้ช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจนี้เท่าที่ควร เพราะสิ่งที่ต้องการตอนนี้ คือ เงินชดเชยให้ลูกจ้างในช่วงปิดบริการชั่วคราว 70% ของค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท หรือ คิดเป็น 10,500 บาทต่อราย เป็นเวลาสูงสุด 180 วัน ไม่เช่นนั้นทุกคนจะอยู่ไม่ได้

          ต้องการให้รัฐบาลและประกันสังคมออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมที่ปิดให้บริการ แม้ว่าโรงแรมจะไม่ใช่ธุรกิจที่รัฐสั่งปิด ก็ตาม