ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการทรุด
วันที่ : 10 กรกฎาคม 2562
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 42.2 จุด หรือต่ำกว่าค่ากลางดัชนีที่ 50.0 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 50.4 จุดสะท้อนให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ลดลงจากความไม่มั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยในปัจจุบัน
ธอส.ระบุกรุงเทพ-ปริมณฑล
ไม่มั่นใจการลงทุนในไทย
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 42.2 จุด หรือต่ำกว่าค่ากลางดัชนีที่ 50.0 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 50.4 จุดสะท้อนให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ลดลงจากความไม่มั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยในปัจจุบัน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ยังรอความชัดเจนในเชิงนโยบายซึ่งจะมีผลธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมจากรัฐบาลชุดใหม่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ
"ตัวเลขดัชนีฯที่ลดลง เป็นผลจากระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจาก 52.2 จุด ลดลงเหลือ 41.9 จุดซึ่งเป็นค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่ต่ำกว่าค่ากลาง 50.0 อีกครั้ง ส่วนผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีความเชื่อมั่นลดลงในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 42.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 47.7 จุด"
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ในไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 58.0 จุดลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.4 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อทิศทางของธุรกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยยังให้ความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นภายหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผู้ประกอบการฯกลุ่มในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 61.3 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.9 จุด ผู้ประกอบการ กลุ่มนี้เชื่อมั่นว่า ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มนอกตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 53.1 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.1 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ก็ยังคงให้ความเชื่อมั่นว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
ไม่มั่นใจการลงทุนในไทย
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 42.2 จุด หรือต่ำกว่าค่ากลางดัชนีที่ 50.0 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 50.4 จุดสะท้อนให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ลดลงจากความไม่มั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยในปัจจุบัน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ยังรอความชัดเจนในเชิงนโยบายซึ่งจะมีผลธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมจากรัฐบาลชุดใหม่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ
"ตัวเลขดัชนีฯที่ลดลง เป็นผลจากระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจาก 52.2 จุด ลดลงเหลือ 41.9 จุดซึ่งเป็นค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่ต่ำกว่าค่ากลาง 50.0 อีกครั้ง ส่วนผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีความเชื่อมั่นลดลงในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 42.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 47.7 จุด"
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ในไตรมาส 2 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 58.0 จุดลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.4 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อทิศทางของธุรกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยยังให้ความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นภายหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผู้ประกอบการฯกลุ่มในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 61.3 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.9 จุด ผู้ประกอบการ กลุ่มนี้เชื่อมั่นว่า ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มนอกตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 53.1 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.1 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ก็ยังคงให้ความเชื่อมั่นว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ