จ่อเคาะแพ็กเกจกระตุ้นศก.
วันที่ : 24 เมษายน 2562
"คลัง" เตรียมชง ครม.สัปดาห์หน้า เคาะแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เร่งสรุปรายละเอียดทั้งแนวทางดันท่องเที่ยวอสังหาริมทรัพย์ รับมีกระสุนจำกัด หวังยิงเปรี้ยงเดียวต้องคุ้มที่สุด
"คลัง" เตรียมชง ครม.สัปดาห์หน้า เคาะแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เร่งสรุปรายละเอียดทั้งแนวทางดันท่องเที่ยวอสังหาริมทรัพย์ รับมีกระสุนจำกัด หวังยิงเปรี้ยงเดียวต้องคุ้มที่สุด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังดำเนินการนั้น ยังไม่สามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ ทันในวันที่ 24 เม.ย.2562 แต่จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบได้ในวันที่ 30 เม.ย.นี้อย่างแน่นอน
โดยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว และกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้ได้ขอข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นให้ตรงจุดและเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากที่สุด
"กระทรวงการคลังมีเงินมีกระสุนจำกัด ดังนั้นการออกมาตรการกระตุ้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่า จะเกิดผลกับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับคนกลุ่มต่างๆ ที่ควรได้รับความช่วยเหลือเพิ่มอย่างแท้จริง" นายลวรณกล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ สศค.พิจารณาเป็นที่เรียบร้อย โดยมีมาตรการหัดลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ไปจนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้จะต้องทำเสร็จเสนอ ครม.ให้ได้ใน 2 สัปดาห์และนำออกมาใช้ได้ทันที เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจไตรมาส 1-2 ของปีนี้มีสัญญาณชะลอตัว เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี และมีความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ จนกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ทำให้รัฐบาลต้องหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อออกมาตรการด้านการบริโภค การท่องเที่ยว ภาคอสังหาริมทรัพย์ มาช่วยพยุงเศรษฐกิจ ก่อนที่เปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ในการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปีของรัฐบาล กระทรวงการคลังจะมีการเสนอจัดทำมาตรการเพิ่มเบี้ยผู้พิการสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเบื้องต้นจะมีการเติมเงินให้ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการคนละ 200 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.2562 โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม วงเงินรวมกว่า 924 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ กระทรวงการคลังจะต้องไปหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อดูรายละเอียดของงบประมาณที่มีเหลือ และยอดวงเงินที่ใช้อีกครั้ง ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนได้บ้างเล็กน้อย
"การออกมาตรการแจกเงินให้แก่ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐครั้งนี้ จัดเป็นมาตรการเชิงสังคมที่ต้องการช่วยเหลือให้ผู้พิการให้ได้รับเงินเพิ่มด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้แจกเงินเพิ่มให้กับคนชราไปแล้ว" รายงานข่าวระบุ
ส่วนการออกมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยว เบื้องต้น กรมสรรพากรยืนยันว่าจะเปิดให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวไปลดหย่อนภาษีได้ถึงสิ้นปีนี้ที่ 15,000 บาทเท่าเดิม แต่จะมีการขยายจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้ลดหย่อนได้จากเมืองรอง 55 จังหวัด เพิ่มเป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งในช่วงกลางปีนี้กรมสรรพากรจะมีการเปิดให้นำค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ด้านการกีฬา การซื้อหนังสือในช่วงเปิดเทอม นำมาลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ด้วย ซึ่งจะมีการสรุปรายละเอียดมาตรการได้ในเร็วๆ นี้
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังดำเนินการนั้น ยังไม่สามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ ทันในวันที่ 24 เม.ย.2562 แต่จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบได้ในวันที่ 30 เม.ย.นี้อย่างแน่นอน
โดยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว และกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้ได้ขอข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นให้ตรงจุดและเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากที่สุด
"กระทรวงการคลังมีเงินมีกระสุนจำกัด ดังนั้นการออกมาตรการกระตุ้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่า จะเกิดผลกับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับคนกลุ่มต่างๆ ที่ควรได้รับความช่วยเหลือเพิ่มอย่างแท้จริง" นายลวรณกล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ สศค.พิจารณาเป็นที่เรียบร้อย โดยมีมาตรการหัดลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ไปจนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้จะต้องทำเสร็จเสนอ ครม.ให้ได้ใน 2 สัปดาห์และนำออกมาใช้ได้ทันที เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจไตรมาส 1-2 ของปีนี้มีสัญญาณชะลอตัว เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี และมีความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ จนกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ทำให้รัฐบาลต้องหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อออกมาตรการด้านการบริโภค การท่องเที่ยว ภาคอสังหาริมทรัพย์ มาช่วยพยุงเศรษฐกิจ ก่อนที่เปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ในการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปีของรัฐบาล กระทรวงการคลังจะมีการเสนอจัดทำมาตรการเพิ่มเบี้ยผู้พิการสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเบื้องต้นจะมีการเติมเงินให้ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการคนละ 200 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.2562 โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม วงเงินรวมกว่า 924 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ กระทรวงการคลังจะต้องไปหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อดูรายละเอียดของงบประมาณที่มีเหลือ และยอดวงเงินที่ใช้อีกครั้ง ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนได้บ้างเล็กน้อย
"การออกมาตรการแจกเงินให้แก่ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐครั้งนี้ จัดเป็นมาตรการเชิงสังคมที่ต้องการช่วยเหลือให้ผู้พิการให้ได้รับเงินเพิ่มด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้แจกเงินเพิ่มให้กับคนชราไปแล้ว" รายงานข่าวระบุ
ส่วนการออกมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยว เบื้องต้น กรมสรรพากรยืนยันว่าจะเปิดให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวไปลดหย่อนภาษีได้ถึงสิ้นปีนี้ที่ 15,000 บาทเท่าเดิม แต่จะมีการขยายจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้ลดหย่อนได้จากเมืองรอง 55 จังหวัด เพิ่มเป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งในช่วงกลางปีนี้กรมสรรพากรจะมีการเปิดให้นำค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ด้านการกีฬา การซื้อหนังสือในช่วงเปิดเทอม นำมาลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ด้วย ซึ่งจะมีการสรุปรายละเอียดมาตรการได้ในเร็วๆ นี้
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ